x close

เมโส เทคนิคเสริมความงามของสาว ๆ ยุคใหม่

เมโสแฟต



เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

          ปัจจุบันเทคโนโลยีในวงการศัลยกรรมความงามก้าวหน้าไปมาก จนแทบจะวิ่งตามไม่ทัน (แต่สาว ๆ หลายคนก็ตามทันทุกทีสิน้า ^^) วันนี้เราจะพาเพื่อน ๆ มาทำความรู้จักกับ เมโสเทอราพี หรือ เมโส ที่คุณน่าจะเคยได้ยินผ่านหูกันมาบ้าง เพราะเป็นหนึ่งในทางเลือกที่คุณผู้หญิงยุคใหม่นิยมทำสวยกัน เรียกว่า คลานตามโบท็อกซ์กับฟิลเลอร์มาติด ๆ สำหรับสาว ๆ คนไหนที่อยากรู้ว่าการทำเมโสจะดีจริงหรือเปล่า แล้วจะมีผลกระทบกับร่างกายมากน้อยแค่ไหน ตามไปดูกันเลย...

          เดิมทีเทคนิคการทำเมโสนั้น จะถูกนำมาใช้กับการรักษาโรคและอาการเจ็บป่วยแบบต่าง ๆ ในกลุ่มแพทย์ เช่น กล้ามเนื้อ เส้นประสาท แต่ในปัจจุบันการทำเมโสได้ถูกพัฒนาให้เป็นการเสริมความงามอีกรูปแบบหนึ่ง โดยการใช้เข็มดิจิตอลขนาดเล็กฉีดสารที่มีส่วนประกอบต่าง ๆ ลงสู่ผิวชั้นใน เพื่อลดปัญหา-เพิ่มความงามหลากหลายรูปแบบแตกต่างกันออกไป ดังต่อไปนี้

        เมโส แฟต หนึ่งในเมโส เทอราพีที่ฮอตสุด ๆ คงต้องยกให้เมโสแฟตเค้าล่ะ เพราะวิธีนี้ช่วยเร่งการเผาผลาญสลายไขมัน ลดปัญหาเซลลูไลต์ส่วนเกินบนใบหน้าและจุดต่าง ๆ ของร่างกายได้เยี่ยมยอด เช่น คาง แก้ม ปีกจมูก ท้องแขน พุง สะโพก ต้นขาและน่อง โดยการฉีดสารสกัดจากถั่วเหลืองและวิตามินหลายชนิด ไปยังบริเวณที่มีการสะสมของไขมันและกระตุ้นให้ไขมันสะสมถูกปล่อยออกมาทางปัสสาวะและทางอุจจาระ จนทำให้เนื้อบริเวณที่ฉีดตึงกระชับ

        เมโสหน้าใส เปลี่ยนหน้าโทรมให้เป็นหน้าใสเด้ง ด้วยการฉีดสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามินซี กรดอะมิโน น้ำหล่อเลี้ยงคอลลาเจนเข้าไปให้ทั่วใบหน้า เพื่อเพิ่มการไหลเวียนของระบบโลหิตและระบบน้ำเหลือง ทั้งยังช่วยลดริ้วรอย สิว หน้าดำคล้ำ คืนความอ่อนเยาว์และผิวหนังดูสดใสเปล่งปลั่งขึ้น

        เมโสแก้ปัญหาผมร่วง ผมบาง นับเป็นเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพสำหรับการใช้เมโส เพื่อตรงเข้าช่วยแก้ปัญหา ด้วยการฉีดสารอาหารและวิตามินสำหรับเส้นผมเข้าไปในหนังศีรษะ เพื่อกระตุ้นให้รากผมเกิดการงอกใหม่อย่างรวดเร็ว ทั้งยังสามารถนำมาใช้กับปัญหาผมบางจากกรรมพันธุ์ ปลูกคิ้ว ปลูกหนวดซึ่งก็ได้เห็นผลชัดเจนและแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด

          สำหรับผลข้างเคียงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในการทำเมโสนั้น อาจมีอาการเจ็บ บวมแดง และเกิดจุดเลือดบ้างเล็กน้อย อาจคันยิบ ๆ ขณะที่ทำหรือภายหลังจากทำประมาณ 2-3 ชั่วโมง ซึ่งจะหายไปเองในระยะเวลา 1-2 สัปดาห์ โดยจะต้องปฏิบัติตนตามคำแนะนำของแพทย์ให้ครบถ้วน เช่น  ดื่มน้ำมาก ๆ  เพื่อช่วยสลายไขมันเหลว หลีกเลี่ยงการเข้าอบซาวน่า การนวด ดื่มแอลกอฮอล์ และการทำทรีทเม้นท์ เลเซอร์ หลังจากที่ทำเมโสประมาณ 1 สัปดาห์ เพื่อลดการฟกช้ำ อักเสบบวมให้น้อยลง และควรออกกำลังกายเบา ๆ ขับเหงื่อออกเป็นประจำทุกวัน เพื่อให้กล้ามเนื้อกระชับและลดไขมันออกจากร่างกายได้เร็วขึ้น

          แม้จะเป็นที่วิธีที่ช่วยลดปัญหา เพิ่มความมั่นใจให้กับส่วนต่าง ๆ ได้ แต่การทำเมโสเทอราพี ยังมีข้อควรระวัง คือ  สตรีมีครรภ์ คนป่วยโรคเบาหวาน โรคเกี่ยวกับระบบหลอดเลือด โรคมะเร็ง และโรคหัวใจ จะต้องหลีกเลี่ยง เนื่องจากวิตามินและตัวยาบางประเภทอาจไปกระทบกับยารักษาและสุขภาพร่างกายได้ ดังนั้นหากสาว ๆ คนไหนสนใจวิธีการเมโส ก็ควรขอคำแนะนำและปรึกษาศัลยแพทย์ที่น่าเชื่อถือ เพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเองค่ะ






เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เมโส เทคนิคเสริมความงามของสาว ๆ ยุคใหม่ อัปเดตล่าสุด 9 สิงหาคม 2556 เวลา 10:37:48 6,622 อ่าน
TOP