เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
"เส้นผม" เป็นสิ่งที่สาว ๆ ทุกคนแคร์ ไม่ว่าจะมีผมสั้นหรือผมยาว ใคร ๆ ก็อยากให้ผมของตัวเองนุ่มสลวยสุขภาพดีกันทั้งนั้น วิธีดูแลเส้นผมก็มีมากมาย ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมก็มีให้เลือกใช้เยอะแยะ แต่สิ่งที่ทำร้ายเส้นผมของเราได้ก็มีมากมายไม่แพ้กัน ทั้งการทำร้ายเส้นผมทางตรง และทั้งทางอ้อมที่บางทีเราก็ไม่รู้ตัวหรือไม่ทันคำนึงถึง นี่จึงก็เป็น 11 ทริค ที่สาว ๆ ผู้แคร์ผมจะต้องรู้เอาไว้ จะได้ป้องกันไม่ให้ผมเสียนะจ๊ะ
1. รู้จักสภาพเส้นผมของตัวเองเป็นอย่างดี
เริ่มจากสิ่งเบสิกสุด ๆ ก่อนอย่างการรู้จักสภาพเส้นผมของตัวเองเป็นอย่างดี เทียบง่าย ๆ ก็เหมือนรู้จักสภาพผิวของตัวเอง หากว่าคุณมีผิวแห้งแต่ว่าใช้โลชั่นสำหรับผิวธรรมดา ผิวก็คงดูไม่สวยสุด ๆ เท่าไรนัก เส้นผมเองก็ไม่ต่างกันเลยค่ะ ลองสังเกตเส้นผมของตัวเองให้ดีว่ามีสภาพอย่างไร ผมมันไว ปลายผมแห้ง ผมเส้นเล็ก ผมหยาบหนา ฯลฯ การรู้จักเส้นผมของตัวเองเป็นอย่างดีจะเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้คุณดูแลเส้นผมของตัวเองได้ง่ายขึ้น และถูกวิธีด้วย
2. ปล่อยผมแห้งเองตามธรรมชาติดีที่สุด
ในขณะที่หลาย ๆ คนเคยชินกับการใช้ไดร์เป่าผมหลังอาบน้ำ แต่ที่จริงวิธีที่ดีที่สุดคือการเช็ดผมจนหมาดแล้วเป่าพัดลมหรือปล่อยให้ผมแห้งไปเองตามธรรมชาติ ซึ่งเกล็ดผมจะค่อย ๆ ปิดและเก็บกักความชุ่มชื้นไว้ในเส้นผมได้ดีกว่า ทำให้ผมดูนุ่มมีน้ำหนักมากกว่า แต่ถ้าจำเป็นต้องเร่งเวลาผมแห้งจริง ๆ ก็สามารถใช้ไดร์ได้ โดยมีข้อแม้ว่าต้องตั้งอุณหภูมิของลมที่ออกมาให้ต่ำที่สุด จะได้ถนอมเส้นผมมากที่สุดนะจ๊ะ
3. ใช้ผลิตภัณฑ์ปกป้องเส้นผมจากความร้อนก่อนทุกครั้งที่จะไดร์-ดัด-หนีบ
ขอจงจำไว้ว่าทุกอุปกรณ์แต่งผมที่ให้ความร้อนมักไม่เป็นมิตรกับสุขภาพเส้นผมคุณนัก แม้ว่ามันจะให้ทรงผมสวย ๆ แก่คุณมาเป็นสิ่งตอบแทนก็ตาม และการได้อย่างเสียอย่างจะดูแฟร์ ๆ ดี แต่ถ้าได้ทรงผมสวยแลกมากับสุขภาพผมเสียอันนี้ฟังแล้วรู้สึกไม่ค่อยแฟร์กับผู้หญิงอย่างเราเท่าไหร่ แต่คุณยังมีวิธีทำให้มีทรงผมสวยโดยไม่ทำให้ผมเสียได้ แค่ใช้สเปรย์หรือลูบเซรั่มสูตรปกป้องเส้นผมจากความร้อน เท่านี้คุณก็จะได้เกราะปราการคอยเคลือบเส้นผมเอาไว้ไม่ให้ถูกทำร้ายจากความร้อนของอุปกรณ์แต่งผมแล้ว
4. วิธีเช็ดผมให้แห้ง แค่บีบและซับ ห้ามขยี้ !
สาว ๆ อาจเคยชินกับการเช็ดผมหลังสระด้วยการโปะผ้าขนหนูลงไปบนศีรษะแล้วขยี้มันไปกับเส้นผม แถมยังรู้สึกว่ายิ่งขยี้แรงจะยิ่งแห้งเร็วซะด้วย แต่ที่จริงแล้ววิธีนี้ทำร้ายเส้นผมของคุณสุด ๆ ไปเลย ช่วงที่ผมกำลังเปียกหรือหมาดด้วยหยาดน้ำอยู่นั้นเป็นเวลาที่มันอ่อนแอมากที่สุด ยิ่งขยี้แรงผมก็ยิ่งเสียดสีพันกัน ทำให้ผมหัก เสียรูป หรือขาดได้ วิธีเช็ดผมหลังสระที่ถูกต้องนั้น หลังจากบีบน้ำออกจากผมแล้ว ให้ใช้ผ้าขนหนูซับสลับกับบีบผมให้น้ำซึมออกมา อาจต้องใช้เวลาสักหน่อย แต่รับรองว่าดีต่อสุขภาพผมกว่ากันมากเลย
5. ทดลองผมทรงต่าง ๆ ได้ แต่อย่าทรมานเส้นผมและหนังศีรษะ
แต่ละซีซั่นที่เวียนผ่านเข้ามา แฟชั่นก็ผลัดกันอัพเดททั้งเสื้อผ้า หน้า และผม อย่างทรงผมนี้บางช่วงฮิตรวบตึง เดี๋ยวเปลี่ยนเป็นตรงแน่ว สักพักเปลี่ยนเป็นเทรนด์ต่อผม ตามมาด้วยมวยผมสูง ๆ หรือเปียผมที่ดูซับซ้อน คุณสามารถสนุกสนานกับผมได้ทุกสไตล์ตราบเท่าที่มันไม่ดึงรั้งหนังศีรษะและทรมานโคนผมมากเกินไป ไม่อย่างนั้นปัญหาผมร่วง บางบาง รากผมอ่อนแอจะมาเยือนแน่ ๆ และคุณอาจไม่มีหนา ๆ สวย ๆ ให้สนุกกับการแต่งทรงอีกนะ
6. ทำสีแบบถนอมผม
หากคุณมีผมเส้นเล็กอ่อนแอหรือผมเสียถูกทำร้ายมามากอยู่แล้วเป็นทุนเดิม เราไม่แนะนำให้คุณทำสีผมในช่วงนี้เลยจริง ๆ เพราะจะยิ่งดันทุรังทำให้ผมเสียมากขึ้น น่าจะให้เวลาเส้นผมได้พักผ่อนบ้าง แต่ถ้าอยากทำมากจริง ๆ เบื่อสีผมเดิมจะแย่อยู่แล้ว ก็ขอให้เลือกทำสีที่ต่างจากสีผมปัจจุบันของคุณไม่เกิน 3 เฉด และถ้าเป็นสามเฉดที่เข้มกว่าเดิม ก็จะดีต่อเส้นผมมากกว่าเลือกย้อมผมด้วยเฉดที่อ่อนกว่าเดิมค่ะ
7. ไดร์ผม-แกนม้วน-ที่หนีบ ต้องเซตอุณหภูมิได้เท่านั้น
อุปกรณ์แต่งผมอย่างไดร์ แกนม้วนผมไฟฟ้า ที่หนีบผม ต้องเลือกแบบที่มีออปชั่นปรับอุณหภูมิได้ ซึ่งราคาอาจจะแพงขึ้นกว่าแบบถูก ๆ สักนิด แต่ยอมแลกเถอะค่ะเพื่อสุขภาพเส้นผมที่ดีกว่าในระยะยาว จุดที่สำคัญคือคุณสามารถปรับระดับความร้อนได้ตามที่ต้องการ ผมเส้นเล็กใช้ความร้อนน้อยกว่าผมที่หนาและเส้นใหญ่ ผมช่อเล็กก็ไม่ต้องใช้อุณหภูมิแรงเหมือนผมช่อใหญ่ด้วย ถ้าปรับไปใช้อุณหภูมิที่เหมาะสมได้ จะได้ไม่เผลอทำร้ายเส้นผมไปแบบรู้เท่าไม่ถึงการณ์
8. หนีบผมหนึ่งช่อ อย่าลืมนับนะว่าหนีบซ้ำไปกี่ครั้งแล้ว
การหนีบผมทำให้คุณมีผมตรงสวยอย่างใจ และความร้อนจากที่หนีบผมนี่แหละที่จะช่วยยืดและเซตผมให้ตรงได้นาน แต่จำนวนครั้งในการหนีบซ้ำสำหรับผมหนึ่งช่อก็ต้องมีขีดจำกัด ขนาดมือไปถูกที่หนีบยังร้อนจนชักมือออกแทบไม่ทัน แล้วเส้นผมที่ต้องโดนหนีบโดนรีดซ้ำ ๆ หลาย ๆ ครั้งจะโดนทำร้ายมากแค่ไหน การหนีบผมไม่ควรย้ำช่อเดิมเกิน 3-4 ครั้ง หรืออย่างน้อยหนีบช่อหนึ่งแล้วไปหนีบช่ออื่นต่อ เมื่อผมเย็นลงและเห็นว่ายังไม่ตรงตามต้องการจึงค่อยหนีบซ้ำอีกครั้งจะดีกว่าค่ะ
9. สระผมบ่อยไป ไม่ใช่เรื่องดี
พื้นฐานของผมที่ดีต้องมาจากสุขภาพที่ดีของหนังศีรษะด้วย การสระผมจึงเป็นเรื่องสำคัญ เพราะมันช่วยทำความสะอาดหนังศีรษะ กำจัดน้ำมันส่วนเกิน และสิ่งสกปรกที่ตกค้างตามหนังศีรษะออกไป แต่การสระผมบ่อยเกินไปก็ไม่ใช่เรื่องดี มันจะทำให้ผมสะอาดมากจนรู้สึกแห้งเกินไป และเมื่อถึงตอนนั้นคุณก็ต้องเจอกับปัญหาผมแห้งเปราะ พ่วงด้วยปัญหารังแคเพิ่มเข้ามา นี่แหละเขาถึงบอกว่าเดินทางสายกลางดีที่สุด สระผมก็เว้นระยะตามความเหมาะสมของแต่ละสภาพผมจึงดีที่สุดเช่นกันจ้ะ
10. หวี ไอเทมนี้ก็สำคัญ
ใช่ว่าหวีอันไหน ๆ ก็หวีผมได้เรียบเหมือน ๆ กัน หวีมีหลายชนิด (ไม่เชื่อลองไปดูหวีของช่างตัดผมที่ร้านประจำคุณก็ได้ มีออกเยอะแยะเลยค่ะ) และแต่ละชนิดก็ถูกออกแบบมาสำหรับสภาพเส้นผม รูปแบบทรงผม รวมไปถึงความยาวของเส้นผมที่แตกต่างกัน หวีที่ดีควรเป็นหวีที่ไม่ถากเส้นผมคุณมากเกินไป หวีแล้วช่วยกระตุ้นให้หนังศีรษะผลิตน้ำมันมาเคลือบผมได้ทั่วถึงมากขึ้น ลองใช้เวลาศึกษาเรื่องหวีแบบที่เหมาะสมสำหรับคุณสักนิด หรือจะถามจากช่างตัดผมปนะจำตัวคุณก็ได้นะคะ
11. ถักเปียหลวม ๆ ก่อนเข้านอนช่วยถนอมเส้นผมได้
ยามนอนหลับเส้นผมจะเสียดสีกับปลอกหมอนและผ้าปูที่นอนเป็นสาเหตุหนึ่งของผมที่แห้งและชี้ฟูยามตื่น จัดการปัญหานี้ง่าย ๆ ด้วยการถักเปียไว้หลวม ๆ ก่อนเข้านอน วิธีนี้จะช่วยลดแรงเสียดทานระหว่างเส้นผมกับปลอกหมอน แถมเมื่อตื่นมาแล้วผมก็ยังเป็นคลื่นอ่อน ๆ แบบไม่ต้องดัดด้วยความร้อนเลยล่ะ
คราวนี้ใครที่แคร์และอยากดูแลผมให้ดี จะพลาดทริคทั้ง 11 ข้อนี้ไม่ได้เชียวค่ะ ลองนำไปใช้กันดูนะคะทั้งวิธีดูแลและปกป้องเส้นผม จะได้มีผมสวยสุขภาพดีไร้ที่ติไปเลย
เรื่องราวผู้หญิง ความสวยงาม แฟชั่น ความรัก มากมาย คลิกเลย
คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อน ๆ ได้ที่นี่ค่ะ
คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อน ๆ ได้ที่นี่ค่ะ