เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
เบื่อจริง ๆ เลยค่ะคุณผู้หญิงขา ทุกวันนี้แต่งหน้าออกจากบ้านสวยใสได้ไม่ถึง 2 ชั่วโมง หน้าก็เยิ้มเมคอัพไหลเลือนหลุดไปหมดแล้ว สวยยังไม่ทันถึงพักเที่ยงเลย จะออกไปกินข้าวสวย ๆ ก็ต้องรี่เข้าห้องน้ำไปเติมเครื่องสำอางอีกแล้ว แถมตกบ่ายไม่เท่าไหร่ก็ต้องเข้าไปเติมใหม่ ก่อนกลับบ้านก็ยังต้องเติมอีกครั้ง คิดแล้วในหนึ่งวันนี่เราต้องเสียเวลาเติมเครื่องสำอางไปไม่น้อยเหมือนกันนะคะ ใครประสบปัญหาเช่นเดียวกันนี้บ้างเอ่ย คงจะดีกว่านี้เนอะถ้าแต่งหน้าครั้งหนึ่งแล้วอยู่ได้ติดทนได้นานเช้ายันเย็น หรืออย่างน้อยขอเติมเครื่องสำอางแค่วันละครั้งก็พอ กระปุกดอทคอมก็เลยไปค้นหาทริคที่จะช่วยให้แต่งหน้าได้ติดทนนานขึ้นมาฝากกัน หัวใจสำคัญคือใช้เครื่องสำอางให้ถูกชนิด และแต่งให้ถูกที่ถูกลำดับค่ะ แต่จะแต่งอะไรตรงไหนก่อนหลังอย่างไรมาดูกันเลย
อันดับแรกต้องยกให้คอนซีลเลอร์ หลาย ๆ คนอาจลงคอนซีลเลอร์หลังรองพื้น แต่วิธีที่ถูกต้องคือคุณควรลงคอนซีลเลอร์เป็นอันดับแรกเหนือสิ่งอื่นใดค่ะ โดยลงปกปิดจุดด่างดำ และบริเวณที่สีผิวไม่สม่ำเสมอ อย่างเช่นใต้ดวงตา บนเปลือกตา และผิวที่อยู่ระหว่างจมูกกับริมฝีปากบน การลงคอนซีลเลอร์จะช่วยปรับสีผิวได้ แม้จะดูลอย ๆ อยู่บนผิวในตอนแรกแต่เมื่อลงรองพื้นทับไปแล้วก็จะเนียนเรียบสนิท แถมยังช่วยทำให้ใช้รองพื้นในปริมาณที่น้อยลงจึงได้ลุคบางเบาเป็นธรรมชาติกว่าเดิมด้วยนะ
ตามด้วยรองพื้นที่เพอร์เฟคท์ที่สุด หลังจากผ่านขั้นตอนของคอนซีลเลอร์มาแล้ว คราวนี้ก็มาถึงส่วนที่สำคัญที่สุดนั่นก็คือรองพื้น เพราะรองพื้นนี่เองที่เป็นปัจจัยหลักชี้ว่าเมคอัพของคุณจะติดได้ทนนานแค่ไหน แต่ถึงอย่างไรการฟันธงว่ารองพื้นรุ่นไหนของยี่ห้อใดดีที่สุดก็คงจะทำไม่ได้ เพราะเรื่องนี้ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคนจริง ๆ ค่ะ คุณเองอาจจะต้องใช้เวลาทดลองและตามหารองพื้นที่เกิดมาเพื่อกันและกันสักหน่อย (ตามหาจริงยังยากยิ่งกว่าเนื้อคู่อีกนะคะ อย่าทำเป็นเล่นไป) แต่ถ้าสิ่งที่ใช่เจอแล้วรับรองว่าจะคุ้มค่าการตามหาจริง ๆ ใครที่เปลี่ยนเครื่องสำอางอื่นไปหลายอย่างแล้ว แต่เมคอัพก็ยังเลือนยังไหลอยู่ดี คราวนี้ลองมาเปลี่ยนกันที่ตัวรองพื้นดู น่าจะช่วยให้แก้ปัญหาได้ตรงจุดกว่าเดิมนะคะ
อายไลน์เนอร์ติดทนด้วยอายแชโดว์สีนู้ด เปลือกตาเป็นพื้นที่เจ้าปัญหาที่อายแชโดว์มักเลือนหลุดไปได้ง่าย ๆ ลองปรับเปลี่ยนการแต่งหน้าใหม่ โดยเพิ่มขั้นตอนทาอายแชโดว์สีเนื้อ สีครีม หรือสีขาว เพียงเล็กน้อยที่บริเวณเปลือกตาชิดกับขอบตาก่อนที่จะกรีดตาด้วยอายไลน์เนอร์ตาม นอกจากอายแชโดว์จะช่วยให้อายไลน์เนอร์เกาะผิวผิวได้ดีขึ้น ไม่เลือนหลุดไปง่าย ๆ แล้ว ยังช่วยให้เปลือกตาดูสว่างสดใสขึ้นด้วยนะ
อายไลน์เนอร์ต้องเลือกที่ใช่ จึงไม่เลือนหลุดไปง่าย ๆ แม้จะมีอายแชโดว์มาเป็นตัวช่วยให้กรีดอายไลน์เนอร์ได้ติดทนกว่าเดิมแล้ว ทริคนี้จะยังไม่เห็นผลถึงขีดสุดหากว่าคุณยังไม่เจอกับอายไลน์เนอร์ที่เกิดมาเพื่อกันละกัน ส่วนเรื่องนี้จะรู้ว่าอะไรยี่ห้อไหนที่ใช่ ก็ต้องรบกวนสาว ๆ ทดลองและตามหากันอีกแล้วล่ะค่ะ แอบทิ้งเบาะแสให้ว่าอายไลน์เนอร์แบบน้ำและแบบเนื้อเจลจะเวิร์คกว่าในเรื่องติดทนนาน ส่วนแบบดินสอนั้นส่วนใหญ่จะเลือนไประหว่างวัน
เรียวปากสวยสดใสตลอดวัน ด้วยลิปไพร์มเมอร์ (สูตรดัดแปลง)ก่อนจะลงลิปสติกหรือลิปกลอสสีใด ๆ หากต้องการให้สีสันของมันสวยเด้งไปได้นานก็ต้องมาเตรียมผิวที่ริมฝีปากกันก่อนด้วยลิปไพร์มเมอร์ ซึ่งคุณสามารถดัดแปลงจากคอนซีลเลอร์เนื้อครีมที่คุณมีอยู่แล้ว โดใช้เพียงปริมาณเล็กน้อยเกลี่ยให้ทั่วริมฝีปากก่อนที่จะทาลิปสติก รับรองว่าจะช่วยลิปสติกติดทนสวยเด้งนานกว่าเดิมถึงสองเท่าเลยจ้า
ใช้แปรงแทนนิ้วในการลงเครื่องสำอาง ก็ช่วยให้ติดทนนานกว่าเดิม การแต่งหน้าด้วยนิ้ว ไม่ว่าจะเป็นการป้ายไฮไลท์ ทาอายแชโดว์ หรือแม้แต่ถูวนบลัชออนลงบนแก้ม แม้จะเป็นวิธีแต่งหน้ายามฉุกเฉินที่ใช้ได้ผลดีจริง ๆ แต่ก็มักไม่ติดทนานนัก ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะเมคอัพที่แต่งลงไปมีน้ำมันตามธรรมชาติจากนิ้วมือของคุณผสมไปด้วย มันจึงเลือนไวติดไม่ทนนาน รู้อย่างนี้แล้วต้องเปลี่ยนมาใช้แปรงแต่งหน้าในการลงเครื่องสำอางกันแล้วล่ะค่ะ อ้อ ! และก็ควรมีแปรงแยกเฉพาะสำหรับพื้นที่บนใบหน้าที่ต่างกันออกไปนะคะ อย่าใช้แปรงเดียวแต่งไปซะทั่วใบหน้า แบบนี้สีสันจะผสมออกมาดูเพี้ยนไม่สวยแน่ ๆ
ลงมอยส์เจอไรเซอร์ 30 นาทีก่อนแต่งหน้า ไม่ว่าคุณจะมีสภาพผิวแบบไหนผลิตภัณฑ์ประเภทมอยส์เจอไรเซอร์ยังคงจำเป็นกับคุณเสมอ เพียงแต่ต้องเลือกประเภทให้ถูกกับสภาพผิวที่คุณมีเท่านั้นเอง การลงมอยส์เจอไรเซอร์ควรทำในเวลาเช้าและเย็นหลังจากอาบน้ำแล้ว โดยในเวลาเช้านั้น หลังจากลงมอยส์เจอไรเซอร์แล้ว 30 นาทีจึงค่อยแต่งหน้า เพื่อให้มันได้มีเวลาซึมซาบและเซตตัวเสียก่อน เมื่อผิวชุ่มชื่นดีแล้วก็จะมีความใสขึ้น มีประกายสุขภาพดีขึ้น ช่วยให้แต่งหน้าได้ง่ายขึ้นด้วย ส่วนสาวผิวมันที่นึกหวั่นว่ามอยส์เจอไรเซอร์จะทำให้หน้าเยิ้มเกินไปไหม ก็ให้เลือกมอยส์เจอไรเซอร์สูตรบางเบาที่ซึมง่ายแห้งไว ทิ้งไว้จนมันเซตตัวดีแล้วค่อยแต่งหน้า แต่หากพบว่าผิวยังมันเกินไปอยู่ลองใช้สเปรย์น้ำแร่ฉีดหน้า ทิ้งไว้สักพักแล้วซับด้วยกระดาษทิชชู น้ำจะช่วยพาความร้อนจากผิวไป เมื่อซับหน้าแล้วความมันก็น้อยลง คราวนี้ล่ะจะแต่งหน้าได้ติดทนกว่าเดิมแน่นอนจ้า
ใครเจอปัญหาหน้าเยิ้มเมคอัพไหลอยู่เป็นประจำ ลองนำทริคเหล่านี้ไปใช้ จะช่วยให้คุณสวยทนสวยนาน เป๊ะเว่อร์กว่าเดิมแบบไม่ต้องห่วงเติมหน้าบ่อย ๆ แล้วล่ะค่ะ
