เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ต้องยอมรับว่าวิวัฒนาการความสวยในปัจจุบัน นับวันจะยิ่งมีทางเลือกใหม่ ๆ ออกมาให้คุณผู้หญิงได้เลือกทำสวยกันเพิ่มมากขึ้น ซึ่งหนึ่งในทางเลือกความสวยอย่างการฉีดโบท็อกซ์หน้าให้เป็นรูปตัววี หรือที่เรียกว่า "วีเชฟ" ก็ถือว่าติดโผการทำศัลยกรรมที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะสามารถฉีดลดส่วนเกินบริเวณใบหน้าให้เรียวเล็กลงได้โดยไม่ต้องผ่าตัด และสามารถเห็นผลได้อย่างรวดเร็ว แต่สำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่าการทำหน้าเรียวแบบวีเชฟคืออะไร จะช่วยแก้ไขและเห็นผลอย่างไรกับใบหน้าบ้าง วันนี้กระปุกดอทคอมมีเรื่องราวเกี่ยวกับการเทรนด์การทำหน้าสวยแบบวีเชฟนี้มาฝากกันค่ะ
การโบท็อกซ์หน้าวีเชฟ คือ วิธีการปรับแก้ไขรูปหน้า ด้วยการฉีดสารโบทูลินัม ท็อกซิน เอ หรือโบท็อกซ์ ที่ผ่านกระบวนการทำให้บริสุทธิ์ จนมีประสิทธิภาพในการคลายกล้ามเนื้อ เข้าไปที่บริเวณกรามและขากรรไกร เพื่อช่วยคลายและลดกล้ามเนื้อใต้ผิวหนังบริเวณกราม โหนกแก้มและคาง ปรับให้รูปหน้าเรียวสวยสมบูรณ์แบบ จนเกิดเป็นทรงรูปตัว V ในที่สุด ซึ่งวิธีการฉีดโบท็อกซ์นี้จะเหมาะกับสาว ๆ ที่ต้องการแก้ไขรูปหน้าเดิมของตัวเองที่ค่อนข้างใหญ่ กลม หรือมีไขมันสะสมบริเวณช่วงแก้มเยอะ ให้ดูเล็กและแคบลง ทั้งยังช่วยกระชับเนื้อใต้คาง ส่วนเกินต่าง ๆ บนใบหน้าได้มากยิ่งขึ้น
สำหรับวิธีการดูแลตัวเองหลังจากที่ฉีดในช่วง 3-4 ชั่วโมงแรก ให้หลีกเลี่ยงการนอนราบ เพราะอาจทำให้โบท็อกซ์กระจายตัวไป ตามตำแหน่งอื่น ๆ บนใบหน้า รวมถึงควรงดเว้นการรบกวนผิวหน้า ได้แก่ การจับสัมผัสหน้าแรง ๆ การนวดหน้า กดจุด ทำทรีทเม้นท์ อาบน้ำร้อน และการเคี้ยวอาหารเหนียว ๆ แข็ง ๆ ในช่วง 2 สัปดาห์ หลังจากนั้นจะสังเกตได้ถึงผลลัพธ์ของรูปหน้าที่จะเปลี่ยนไปอย่างชัดเจนในช่วงสัปดาห์ที่ 2 คือ ใบหน้าดูเรียวยาวโดยเฉพาะช่วงกรอบหน้าและคางจะแคบลง ผิวหน้าเต่งตึงใบหน้าดูอ่อนเยาว์มากขึ้นอีกด้วย จากนั้นจะค่อย ๆ คลายตัวไปเรื่อย ๆ ในระยะเวลา 6 เดือน - 1 ปี ทั้งนี้ อาจขึ้นอยู่กับกล้ามเนื้อใบหน้าและองค์ประกอบของแต่ละบุคคล
อย่างไรก็ดี การทำหน้าเรียววีเชฟด้วยโบท็อกซ์ ถือเป็นวิธีการที่ต้องใช้ความชำนาญและเทคนิคเฉพาะทางจากศัลยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ เพื่อทำการตรวจวิเคราะห์และดำเนินการแก้ไขรูปหน้าให้เหมาะสมกับแต่ละคน ดังนั้นหากสาว ๆ คนไหนสนใจการทำหน้าวีเชฟก็ควรหาข้อมูล รวมถึงสอบถามรายละเอียดให้ชัดเจนก่อนตัดสินใจทำทุกครั้ง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบที่ร้ายแรงในอนาคต
