เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
เดี๋ยวนี้หากไปตามร้านขายอาหารสำหรับคนรักสุขภาพ คุณอาจได้เห็นเมล็ดพืชเล็ก ๆ ดูคล้ายเมล็ดงาแต่กลับไม่มีกลิ่นงา ดูไปดูมาอีกทีก็เหมือนเมล็ดแมงลักแต่ก็ยังไม่ใช่ เช่นนี้แล้ว เมล็ดเจ้าปัญหาที่คุณเจอนั้นคงจะเป็น "เมล็ดเจีย" (chia seeds) แน่ ๆ เลยค่ะ เจีย เป็นเมล็ดพืชที่มีคุณประโยชน์มากมาย แต่เพิ่งจะเป็นที่รู้จักในไทยเมื่อไม่นานมานี้ด้วยความที่มันไม่ใช่พืชท้องถิ่นของบ้านเรา แต่ในปัจจุบันเราก็เริ่มหาซื้อเมล็ดเจียได้ง่ายขึ้นมากแล้ว มันมีคุณประโยชน์เปี่ยมล้นไม่ว่าจะในด้านสุขภาพ หรือด้านความสวยความงาม และเรายังไปพบว่ามันมีประโยชน์ต่อผิวมาก ๆ ด้วยนะ ลองมาดูกันค่ะว่าเมล็ดเจียนี้ จะมีประโยชน์ช่วยให้ผิวสวยใสอย่างไรได้บ้าง
1. อุดมด้วยวิตามินอี
วิตามินอีที่มีประโยชน์ต่อผิวในด้านการรักษาความชุ่มชื้น ทำให้ผิวนุ่มนิ่ม และยังช่วยเรื่องความเรียบเนียนเพราะมันต่อต้านการเกิดริ้วรอย แถมเป็นสารแอนตี้ออกซิแดนท์ที่ดี ต้านทานการอักเสบของผิวได้อีกด้วย ซึ่งวิตามินอีจากเมล็ดเจียก็มีอยู่สูงและอยู่ในรูปที่ร่างกายดูดซึมไปใช้ได้ง่ายด้วยค่ะ
2. มีกรดโอเมก้า 3
กรดโอเมก้า 3 ใครว่ามีอยู่แต่ในปลา มันสามารถพบได้ในพืชเช่นกัน ตัวอย่างเช่น โอเมก้า 3 ที่ได้จากเมล็ดเจีย เป็นต้น แถมโอเมก้าจากเมล็ดเจียยังมีมากกว่าเสียอีก เทียบเมล็ดเจียเพียง 2 ช้อนโต๊ะก็เท่ากับโอเมก้าที่ได้จากเนื้อปลาถึง 4 ออนซ์ (ประมาณ 113 กรัม) เลยทีเดียวค่ะ
โอเมก้า 3 นี้เป็นกรดไขมันที่ช่วยต่อต้านการเกิดสิว ริ้วรอย ทำให้ผิวเรียบนุ่ม ผมและเล็บก็สวยด้วยอีกต่างหาก นอกจากนี้ยังเป็นตัวช่วยรักษาสมดุลฮอร์โมนในร่างกาย เพราะเมื่อใดก็ตามที่รู้สึกเครียด ก็จะทำให้ฮอร์โมนในร่างกายแปรปรวน ส่งผลต่อผิวไปด้วยอย่างช่วยไม่ได้ แต่ก็จะได้กรดโอเมก้า 3 มาช่วยรักษาระดับฮอร์โมนให้คงที่ ซึ่งเมล็ดเจียก็นับเป็นแหล่งโอเมก้า 3 ชั้นเยี่ยมแหล่งหนึ่งเลยล่ะ
3. ไฟเบอร์เพียบ
ไปเบอร์จากเมล็ดเจีย ซึ่งสามารถขยายตัวได้กว่าเดิมถึง 10 เท่าเมื่อถูกน้ำ ช่วยให้อยู่ท้อง อิ่มนาน และที่สำคัญคือรักษาระดับอินซูลินไม่ให้ตกลงอย่างรวดเร็วเกินไป เพราะหากระดับอินซูลินในกระแสเลือดลดลง จะกระตุ้นให้รู้สึกโหย อยากของหวานหรืออาหารมีไขมัน ซึ่งเมื่อกินเข้าไปผลก็จะมาปรากฏอยู่ที่ผิว ทั้งเรื่องสิว ผิวอักเสบ และดูหมองคล้ำไม่สดใสก็ถามหา แต่ทั้งหมดนี้ป้องกันได้ง่าย ๆ ด้วยไฟเบอร์ที่ได้จากเมล็ดเจียนี่เอง
4. สังกะสี
ในเมล็ดเจียยังมีสังกะสี หรือ ซิงก์ อันเป็นแร่ธาตุที่ได้ชื่อว่าเป็นสารแอนตี้เอจจิ้ง ทำให้ผิวตึงเรียบ ต่อต้านการอักเสบ นอกจากผิวตึงสวยแล้วสิวจึงลดลงเป็นผลพลอยได้
5. แมกนีเซียม
เจียมีธาตุแมกนีเซียมไม่น้อยหน้าไปกว่าพืชชนิดไหน ๆ (ยอมลงให้โกโก้อยู่หนึ่งอันดับ) ซึ่งแมกนีเซียมช่วยรักษาสมดุลของระดับน้ำตาลในเส้นเลือด รวมทั้งช่วยให้ระบบประสาททำงานอย่างมีประสิทธิภาพ และยังช่วยในเรื่องการไหลเวียนโลหิต ผิวจึงดูเปล่งปลั่งไม่ซีดเซียวไร้ชีวิตชีวา
6. โปรตีน
โปรตีนนอกจากได้จากสัตว์แล้วก็ยังได้จากพืช โดยมีเมล็ดเจียเป็นแหล่งโปรตีนพืชที่ดีเช่นกัน แถมร่างกายยังนำไปใช้ได้ง่ายด้วย แม้จะมีอยู่ในปริมาณไม่มากแต่ก็ช่วยเสริมสร้างให้ผิว ผม และเล็บแข็งแรงได้ เพราะมันช่วยเสริมสร้างการผลิตคอลลาเจนซี่งเป็นโปรตีนรูปหนึ่งที่อยู่ในผิวนั่นเองค่ะ
7. โพแทสเซียม
โพแทสเซียมเป็นแร่ธาตุมีอยู่เสมอ ๆ ในอาหารจำพวกถั่วและเมล็ดพืชต่าง ๆ เมล็ดเจียเองก็มีธาตุโพแทสเซียมเช่นกัน ซึ่งมันช่วยรักษาระดับความดันเลือดของร่างกายให้คงที่ และช่วยป้องกันอาการบวมน้ำ จากความเค็มของอาหาร โดยเฉพาะในอาหารจำพวกเนื้อแปรรูป เช่น แฮม ไส้กรอก ซึ่งเป็นอาหารประเภทที่เราบริโภคกันบ่อยในปัจจุบัน เพราะฉะนั้นถ้ารู้ตัวว่ากินเค็มมาก หรือกินอาหารจำพวกนี้เยอะ ก็ควรต้องลดความถี่และปริมาณการกินลง รวมทั้งกินอาหารโพแทสเซียมสูงอย่างเช่นเมล็ดเจียเข้าไปเสริมด้วยนะคะ
มีประโยชน์ต่อผิวเพียบขนาดนี้ ต้องลองนำเมล็ดเจียมาเป็นมาเสริมในมื้ออาหารดูบ้างแล้วล่ะ ซึ่งสามารถนำมาใช้แทนเมล็ดแมงลักที่เราคุ้นเคยได้ด้วย กินง่ายแถมประโยชน์เพียบอย่างนี้ จะพลาดของดีไปไม่ได้แล้วจ้า