ปฏิทินลีโอ2010 - ปฏิทินลีโอ 2010
ปฏิทินลีโอ2010 - ปฏิทินลีโอ 2010
ปฏิทินลีโอ2010 - ปฏิทินลีโอ 2010
ปฏิทินลีโอ2010 - ปฏิทินลีโอ 2010
ปฏิทินลีโอ2010 - ปฏิทินลีโอ 2010
ปฏิทินลีโอ2010 - ปฏิทินลีโอ 2010
ปฏิทินลีโอ2010 - ปฏิทินลีโอ 2010
อุ้ม ลักษณา นางแบบ ปฏิทินลีโอ2010
แอนนา ริส นางแบบ ปฏิทินลีโอ2010
ครี พัสวีพิชญ์ นางแบบ ปฏิทินลีโอ2010
แพม ปานพิมพ์ นางแบบ ปฏิทินลีโอ2010
แอม สุทธิกานต์ นางแบบ ปฏิทินลีโอ2010
มิกซ์ เจนจิรา นางแบบ ปฏิทินลีโอ2010
สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก สยามดารา
สร้างความฮือฮาอีกครั้ง เมื่อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของบริษัทสิงห์ฯ ออกปฏิทิน 6 นางแบบทั้งไฮโซ ดารา นางแบบ นางงาม อย่าง \'\'แพม\'\' ปานพิมพ์ เตชะธนชัยพัฒน์, \'\'ครี\'\' พัสวีพิชญ์ ศรณ์อัครภา, \'\'แอม\'\' สุทธิกานต์ หวังเจริญทวีกุล, \'\'มิกซ์\'\' เจนจิรา เกิดประสพ, \'\'อุ้ม\'\' ลักขณา วัธนวงส์ศิริ และ แอนนา รีส พร้อมใจมาเพิ่มอุณหภูมิความร้อนปีใหม่ สลัดผ้าเพนต์ตัวถ่ายแบบ จนล่าสุดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) จ่อเอาผิดบริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น ที่จัดทำปฏิทินวาบหวิว เพื่อแจกให้กับประชาชนที่ซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเทศกาลปีใหม่
โดยการดำเนินการดังกล่าวถือว่าเข้าข่ายผิดกฎหมายอย่างชัดเจนตามมาตรา 32 ว่าด้วยเรื่องการโฆษณา ตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 ที่มีการแสดงชื่อ เครื่องหมายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้เห็นชัดเจนทั้งทางตรงและอ้อม โดยที่ไม่มีการให้ข้อมูล ข่าวสาร ความรู้เชิงสร้างสรรค์สังคม โดยมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และมีโทษปรับอีกวันละ 50,000 บาท จนกว่าจะแก้ไขให้ถูกต้อง
หากมีธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชนิดใดทำปฏิทินแจกลูกค้า สธ. จะดำเนินการลงโทษตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด จะไม่มีการละเว้นหรือผ่อนผันเหมือนปีที่แล้วอีก เพราะถือว่าเป็นปีที่ 2 แล้วที่มี พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาบังคับใช้ ซึ่งเมื่อปี 2551 สธ. ได้แจ้งเตือนกับผู้ผลิตเบียร์ 2 ชนิด ที่เคยทำปฏิทินวาบหวิวและเตรียมแจกให้กับลูกค้ามาแล้ว โดย สธ. จะหารือกับทีมกฎหมาย เพื่อตรวจสอบการกระทำผิดในครั้งนี้
โดยเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 15 ธ.ค. ที่ผ่านมา นพ.สมาน ฟูตระกูล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้เดินทางไปให้สัมภาษณ์ในรายการ \'\'เรื่องเด่นเย็นนี้\'\' โดยกล่าวว่า ตนเตรียมแจ้งความจับเหล่าทีมงานของปฏิทินนี้แล้ว
"กรณีว่าภาพโป๊ภาพเปลือย อนาจารหรือไม่อันนี้ไม่ขอก้าวก่าย เพราะอันนั้นจะมีหน่วยงานที่ดูแลโดยเฉพาะอยู่แล้ว ไม่ว่าจะหน่อยงานราชการกระทรวงวัฒนธรรม คือทุกวันนี้หมอรับโทรศัพท์เกี่ยวกับประเด็นนี้ตลอด ทางเครือข่ายเอ็นจีโอต่าง ๆ มูลนิธิสตรี เพื่อนหญิงอะไรต่าง ๆ โทร.เข้ามาเยอะเหลือเกิน เขาบอกว่าเขารับไม่ได้กับการที่เอาเพศแม่มาเพื่อโปรโมตสินค้า โปรโมตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เขารับไม่ได้ ซึ่งพวกเขาเหล่านี้เขาบอกว่าเขาเชียร์กระทรวงสาธารณสุขเต็มที่ เขาเชียร์ท่านรัฐมนตรี \'\'มานพ\'\' เต็มที่ เพราะเรื่องนี้ปล่อยไปไม่ได้ เรื่องอย่างนี้ต้องสร้างบรรทัดฐานใหม่ให้กับลูกหลานของเรา เขาชี้ว่าผู้ใหญ่มองเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ไม่ควรทำ\'\'
เห็นว่าจะไปแจ้งความด้วย? \'\'ถูกต้องครับ จะดำเนินคดีตามกฎหมายถ้าเขาไม่ปรับเปลี่ยน ไม่แก้ไข ไม่หยุดการปะทะอย่างนี้ ถือว่าผิดกฎหมายชัดเจนครับ\'\'
ด้าน ภก.สงกรานต์ ภาคโชคดี ผอ.สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า กล่าวว่า บริษัทสิงห์ฯ ต้องออกมาอธิบายให้ได้ว่า การทำปฏิทินวาบหวิวแจกครั้งนี้ เป็นการโฆษณาเชิงสร้างสรรค์สังคมอย่างไร เพราะตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อนุญาตให้โฆษณาเชิงสร้างสรรค์สังคมได้เท่านั้น รวมทั้งเรียกร้องให้บริษัทสิงห์ฯ ตรวจสอบว่าการทำธุรกิจของบริษัททำผิดกฎหมายไปแล้วกี่ครั้ง และมีการแก้ไขให้ถูกต้องหรือไม่ โดยเฉพาะการโฆษณาให้เห็นขวด ผลิตภัณฑ์เบียร์ และลานเบียร์ของบริษัทสิงห์ฯ ที่อยู่ในสถานที่ห้ามดื่ม ห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อยู่หลายจังหวัด เช่น ในสวนสาธารณะ สถานที่ราชการ เป็นต้น ซึ่งภาคีเครือข่ายฯ ได้ถ่ายรูปเก็บไว้เป็นหลักฐาน และแจ้งความดำเนินคดีในหลายจังหวัดแล้ว
ขณะที่ น.พ.แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ กล่าวว่า เบื้องต้นยังไม่ทราบในข้อกฎหมายว่า สามารถแจกจ่ายปฏิทินดังกล่าวได้หรือไม่ แต่ทุกอย่างต้องยึดตามกฎหมายเป็นหลัก ต้องไปดูรายละเอียดทั้งหมดว่า บริษัทใช้ข้อกฎหมายใดในการผลิตปฏิทินดังกล่าวออกมา แล้วกระทรวงสาธารณสุขให้ข้อกฎหมายใดในการบังคับ แต่โดยส่วนตัวแล้วไม่สนใจเรื่องการแจกปฏิทิน หรือการห้ามแจกเป็นเรื่องสำคัญ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การที่จะทำอย่างไรให้ผู้ที่บริโภคแอลกอฮอล์แล้วไม่ออกมาขับรถ จนเกิดอุบัติเหตุเป็นอันตรายต่อตนเองและบุคคลอื่น
ด้าน ดร.นิษฐา หรุ่นเกษม อาจารย์สาขาวิชานิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร กล่าวถึงการเปิดตัวปฏิทินวาบหวิวว่า การใช้ภาพลักษณ์ความเซ็กซี่ของผู้หญิงมาเป็นจุดขายให้กับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ นับเป็นการทำการตลาดที่ไม่รับผิดชอบต่อสังคม เป็นการกระตุ้นการบริโภคให้เกิดกับคนทุกวัย ซึ่งที่น่าเป็นห่วงคือกลุ่มเยาวชน เพราะมีผลสำรวจของ ร.ศ. พ.ญ.ดร.สาวิตรี อัษณางค์กรชัย อาจารย์มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ที่เคยสำรวจทัศนคติทางบวกของการดื่มสุราของนักเรียน พบว่าร้อยละ 50 มองว่าการดื่มเหล้าช่วยเพิ่มโอกาสในการมีเพศสัมพันธ์ ขณะที่อีกจำนวนไม่น้อยเห็นว่าการดื่มเหล้าเบียร์จะช่วยสร้างความเซ็กซี่มากขึ้น ซึ่งความคิดเหล่านี้มาจากภาพลักษณ์ที่บริษัทเหล้าเบียร์สร้างขึ้น โดยเฉพาะเบียร์ยี่ห้อนี้
ขณะที่ นายจะเด็จ เชาว์วิไล ผู้จัดการมูลนิธิเพื่อนหญิง กล่าวว่า การออกปฏิทินโดยใช้ผู้หญิงในภาพลักษณ์ที่วาบหวิวเป็นเครื่องมือกระตุ้นยอดขายเหล้าเบียร์นั้น ตนมองไม่ใช่ศิลปะ แต่ส่อไปในทางอนาจาร เป็นการยั่วยุทางเพศ ที่มีแนวโน้มจะนำไปสู่ความรุนแรงทางเพศ จากสถิติ กรณีปัญหาความรุนแรงทางเพศที่มูลนิธิดูแลอยู่นั้น ส่วนหนึ่งมีต้นตอมาจากสื่อลามกที่ยั่วยุเช่นนี้ นอกจากนี้ การส่งเสริมการขายเหล้าเบียร์ยังขัดต่อ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ออกมาบังคับใช้ เมื่อปี 2551 ซึ่งเมื่อปีที่แล้วลีโอเบียร์ทำผิดมาแล้วครั้งหนึ่งโดยการพยายามออกปฏิทินวาบหวิว ครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่สอง เป็นการทำผิดซ้ำสอง ถ้าผู้มีอำนาจไม่จัดการอย่างเด็ดขาด เท่ากับว่ากลุ่มทุนยักษ์ใหญ่สามารถอยู่เหนือกฎหมายได้
ทางด้าน ลูกเกด เมทินี กิ่งโพยม ซึ่งเป็นผู้จัดทำปฏิทินชุดดังกล่าว ได้ออกมาชี้แจงที่ลานเบียร์หน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิล์ด พร้อมเปิดตัวปฏิทินนางแบบลีโอ 6 คน โดย ลูกเกด อธิบายว่า ปีนี้เป็นบอดี้เพนต์ ย้อนเอาคอนเซ็ปต์ของปีแรกมาทำใหม่ ถือว่านี่เป็นปีสุดท้ายแล้ว ถามว่าแรงไหม จริง ๆ แล้ว การทำงานของเรา มีวิธีการเซฟ มีเทคนิคให้ตัวเองดูดีที่สุด ส่วนกระแสก็คือกระแส เป็นอย่างนี้ทุกปี แต่ปีนี้ไม่คาดคิดว่าจะแรงขนาดนี้ เพราะเป็นปีสุดท้ายด้วยหรือเปล่าไม่ทราบ ที่มี 6 คน เพราะปีนี้เป็นปีที่ 6 เป็นปีสุดท้าย เลยคิดว่านี่เป็นของขวัญที่ดี ด้วยการเอานางแบบ 6 คน มาถ่ายปฏิทิน ปฏิทินก็มีทั้งแขวนและตั้งโต๊ะ
"ปีนี้ถือเป็นผลงานที่ดีที่สุดที่เกดทำมา เพราะฉะนั้นเบียร์ยี่ห้อนี้เป็นแค่สปอนเซอร์ รู้สึกภูมิใจและขอบคุณที่เป็นสปอนเซอร์มา 6 ปี เรื่องต่อสัญญาต้องรอดู เพราะปีหน้าอยากมีลูกอีก ไม่รู้จะมีเวลาทำงานหรือเปล่า" ลูกเกด กล่าวและว่า บริษัทของตนคือฟินาเล่ คอมพานี ไม่ใช่บริษัทขายเหล้า ถ้าจะขายหรือแจกปฏิทินก็คงไม่ผิด ปรึกษาทนายแล้ว คือเราไม่ได้ทำอะไรผิด จะมาห้ามได้ยังไง ส่วนวันแถลงข่าวคือวันนี้ เราก็เช่าพื้นที่ทางลีโอ คือถ้าไม่ให้แจก ก็ไม่แจก ถ้าเกิดขายก็ว่าอะไรไม่ได้ ขายแล้วแต่คนจะซื้อไหม ขายแล้วก็มีเงินอีก ได้รายได้อีก ก็ดีเหมือนกันได้เอาเงินมาแบ่งน้อง ๆ ด้วย
เมื่อถามถึงโลโก้เบียร์บนปฏิทิน ลูกเกด กล่าวว่า เป็นแค่สปอนเซอร์เหมือนบริษัทโฆษณา ที่ไปลงโฆษณาในหนังสือ บริษัทเกดไม่ได้จำหน่าย เดี๋ยวต้องดูอีกทีว่าปฏิทินจะยังไง ปฏิทินเพิ่งพิมพ์เสร็จสด ๆ ร้อน ๆ การแจกหรือจำหน่ายคงต้องถามบริษัท ได้เห็นแน่นอน คือกฎหมายชัดเจน เพราะเราไม่ได้ขายเหล้าอยู่แล้ว ถ้าจะเคลียร์ต้องไปเคลียร์กับสปอนเซอร์ คือพอมีกระแสออกมา ประเด็นก็คือ ไม่ให้แจก ส่วนจะขายหรือไม่ขาย คงต้องดูอีกที รู้ภายในวันสองวันนี้
ต่อข้อถามว่า ถ้ามันออกมาแนวอนาจารล่ะ ลูกเกดตอบทันควันว่า "อนาจารตรงไหน แม็กกาซีน แฟชั่นถ่ายเยอะกว่านี้อีก เขาวางขายตามแผงหนังสือก็ไม่เห็นมีปัญหา นี่แค่ปฏิทิน ที่ทำสิ้นปี ปีละครั้ง ทำไมต้องมาเจาะจงด้วย เกดผิดตรงไหน อย่างอาบอบนวด หรือค้าผู้หญิงมีเยอะแยะ ไปจัดการตรงโน้นก่อน อย่าสนใจตรงนี้เลย"
ถามว่าเคืองไหม ลูกเกดกล่าวว่า "เคือง เพราะเราออกมาอย่างนี้มันไม่ผิด แต่กลับเป็นที่ฮือฮาขึ้น คุณทำงานของคุณ เกดทำงานของเกด แค่นี้จบ"
และในวันนี้ (16 ธ.ค.) นายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนี้ว่า การทำปฏิทินหวาบหวิวครั้งนี้ ไม่ใช่เป็นการทำผิดกฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพียงอย่างเดียว แต่เป็นเรื่องของความไม่เหมาะสม และไม่สมควรด้วย ไม่เป็นประโยชน์สร้างสรรค์สังคม เป็นการยั่วยุอารมณ์ทางเพศ ก่อให้เกิดปัญหาความรุนแรงต่อสตรี เยาวชนตามมา โดยในเร็ว ๆ นี้ สธ. จะหารือกับกระทรวงวัฒนธรรม และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความเป็นมนุษย์ (พม.) เพื่อหามาตรการแก้ปัญหาและปกป้องเยาวชนไม่ให้เป็นเหยื่ออบายมุข ความรุนแรงในสังคม
"ไม่ว่าจะขายหรือแจก ก็ถือว่าทำผิดกฎหมายทั้งนั้น เพราะปฏิทินมีรูปโลโก้ยี่ห้อเบียร์ปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจน และประชาชนเข้าใจได้ว่าเป็นเบียร์ยี่ห้อใด"
ขณะที่ นพ.สมาน ฟูตระกูล ได้ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า ร้านค้าที่นำปฏิทินไปติด หรือขายต่อให้ถึงมือผู้บริโภคก็ถือว่ามีความผิดด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม กระบวนการทางกฎหมายนั้น สธ. จะเป็นผู้แจ้งความดำเนินคดีต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งเจ้าพนักงานสอบสวนจะเป็นผู้สืบสวนหาความผิดเอง โดยเรียกผู้เกี่ยวข้องให้ปากคำ จากนั้นจึงจะสรุปสำนวนให้อัยการส่งฟ้องศาลอาญาต่อไป
ด้าน รศ.ปาริชาติ สถาปิตานนท์ อาจารย์ประจำคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงการณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ขณะนี้สังคมต่างเข้าใจไปในทางเดียวกันว่าเป็นปฏิทินลีโอ ไม่มีใครเรียกว่าปฏิทินคุณลูกเกด หรือ ปฏิทินวาบหวิว เท่านี้ก็แทบไม่ต้องตีความตามกฎหมายแล้วว่า บริษัทผู้ว่าจ้างทำเพื่ออะไร ซึ่งการจ้างบริษัทอื่นให้กระทำแทนก็ไม่ต่างกับการกระทำเอง เพราะทุกคนก็เข้าใจได้ว่าเป็นการทำเพื่อโปรโมตสินค้าของใคร เรื่องดังกล่าว เป็นปัญหาเชิงจริยธรรมองค์การ บริษัทสิงห์ฯ ควรคำนึงถึงธรรมาภิบาลที่ดีให้สมกับสโลแกนของบริษัทที่ว่า "การให้ไม่มีที่สิ้นสุด" แต่กลับทำเรื่องผิดศีลธรรม
อย่างไรก็ตาม เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.จิตภัสร์ ภิรมย์ภักดี ได้นำปฏิทินเบียร์ที่กำลังตกเป็นข่าวครึกโครมอยู่ในเวลานี้ มาแจกให้กับบรรดาข้าราชการและเจ้าหน้าที่ประจำทำเนียบรัฐบาล รวมถึงสื่อมวลชน ที่บริเวณหลังตึกไทยคู่ฟ้า โดยมีผู้สนใจไปรับแจกจำนวนมาก
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
