เสพติดศัลยกรรม สุด ๆ แม้พิการเพราะซิลิโคน ก็ยังอยากทำเพิ่ม

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก Glamorous Monique

          หญิงมะกันเสพติดศัลยกรรมหนัก ทั้งฉีดทั้งผ่ามาแล้วกว่าร้อยครั้ง สุดท้ายแม้พิการขาเพราะซิลิโคนจากก้นไหลลงท่อนล่าง ก็ยังไม่เข็ด ยังคิดอยากทำเพิ่มอีก

          เผยโฉม โมนีค อัลเลน หญิงข้ามเพศวัย 58 ปี จากแคลิฟอร์เนีย สหรัฐฯ ผู้ยอมรับอย่างปลื้มปริ่มว่าตนเองเสพติดศัลยกรรม โมนีคสาธยายประสบการณ์ผ่านมีดหมอของเธอเป็นชุด ๆ ผ่านการรายงานของเว็บไซต์เดลี่เมล เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2557 ว่า การศัลยกรรมครั้งแรกของเธอเกิดขึ้นตอนอายุ 22 ปี มันเป็นการผ่าตัดแปลงเพศ อันเป็นสิ่งที่ทำให้เธอรู้สึกว่าได้เป็นตัวของตัวเองอย่างสมบูรณ์ หลังจากนั้นเป็นต้นมา เธอก็รู้สึกว่าอยากศัลยกรรมอีกเรื่อย ๆ จนปัจจุบันนี้เธอทำมาแล้วร่วมร้อยครั้ง ไม่ว่าจะเป็น อายลิฟต์ 2 ครั้ง ซ่อมเปลือกตา 1 ครั้ง ทำจมูกไม่ต่ำกว่า 20 ครั้ง ฉีดปาก 20 ครั้ง เสริมซิลิโคน ทั้งเสริมเข้าและเอาออกอยู่ราว ๆ 8-12 ครั้ง เสริมหน้าอก 8 ครั้ง เสริมก้น 4 ครั้ง และปรับทรงหน้าอกอีก 4 ครั้ง ทั้งหมดทั้งมวลนี้เธอสูญเงินให้กับมันไปแล้วว่า 200,000 เหรียญ หรือประมาณ 6,000,000 บาท และมันทำให้เธอได้ชื่อว่าเป็นผู้ที่ผ่านการศัลยกรรมมามากที่สุดคนหนึ่งของโลก


          โมนีคยังกล่าวต่อไปว่า เธอเคยทำศัลยกรรมทั้งกับศัลยแพทย์มือดีที่สุดในย่านเบเวอลีย์ ฮิลส์ ไปจนถึงหมอเถื่อนในเม็กซิโก ด้วยประสบการณ์ศัลยกรรมอันโชกโชนทำให้โมนีคต้องได้ผ่านผลเลวร้ายของการศัลยกรรมมาเช่นกัน เธอบอกว่า ครั้งหนึ่งซิลิโคนที่ฉีดเข้าหน้ามีปริมาณเยอะเกินไป มันจึงไปกระจุกตัวรวมกันเป็นก้อนเหมือนไข่ไก่ แพทย์พยายามนวดให้มันคลายตัวออกจากกัน แต่โมนีคบอกว่าเธอรู้สึกได้เลยว่าซิลิโคนนั้นค่อย ๆ ไหลผ่านลงไปยังลำคอ และนั่นก็ไม่ทำให้อาการที่ใบหน้าดีขึ้น ในที่สุดเธอต้องไปผ่าตัดเพื่อนำซิลิโคนออก แต่ก็เกิดความผิดพลาดเมื่อแพทย์ในเม็กซิโกตัดเอาเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อของเธอออกไปด้วย ทำให้ใบหน้าซีกหนึ่งของเธอเบี้ยวตกไปข้างเดียว เธออยู่ในสภาพนั้นร่วมปีก่อนจะได้รับการศัลยกรรมซ่อมแซมจนกลับมาเป็นปกติได้ ซึ่งนับว่าเป็นโชคดีมากจริง ๆ

          แต่ความโชคดีไม่ได้อยู่เคียงข้างเธอทุกครั้งไป ผลข้างเคียงจากการศัลยกรรมที่เลวร้ายที่สุดก็ได้บังเกิดขึ้น เมื่อซิลิโคนที่เสริมก้นและสะโพกของเธอรั่วไหลไปยังขาทั้งคู่ เมื่อมีซิลิโคนพอกอยู่ ขาทั้งสองข้างจึงไม่สามารถขยับได้ถนัด ทิ้งให้เธอกลายเป็นผู้พิการไปในที่สุด โมนีคจำต้องยุติอาชีพแดนเซอร์ที่เธอทำเป็นอาชีพเสริมไปโดยปริยาย นั่นเป็นสิ่งที่เลวร้ายที่สุดที่การศัลยกรรมมอบทิ้งไว้ให้กับสาวใหญ่คนนี้


          จนถึงปัจจุบัน เป็นเวลากว่า 2 ปีแล้ว ที่โมนีคไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับศัลยกรรมอื่นใดอีกเลย แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเธอเลิกแล้วกับการเสพติดมีดหมอ เมื่อโมนีคสารภาพว่า แม้จะรู้ดีว่าการตั้งหน้าตั้งตาทำศัลยกรรมอาจทำให้ชีวิตเธอหดสั้นได้ แต่เธอก็ยังคงต้องการที่จะฉีดฟิลเลอร์ที่ปลายจมูก และฉีดโบท็อกซ์ที่ใบหน้าอีกเล็กน้อย จากนี้ไปเธอคงไม่ทำอะไรใหญ่ ๆ เพิ่ม แต่จะเป็นการเสริมนิดฉีดหน่อย เพื่อรักษาผลจากการศัลยกรรมเดิมให้ยังดูดีต่อไปก็เพียงพอ

          "ฉันแฮปปี้กับตัวเองในปัจจุบันมากแล้วล่ะ ถึงจะรู้ว่าสิ่งที่เคยทำมามันทำร้ายตัวฉันเอง แต่ตอนนี้ฉันก็โอเคกับมันนะ ถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับความสวยความงามล่ะก็ ฉันไม่กลัวหรอก" โมนีคกล่าวทิ้งท้ายเอาไว้เช่นนั้น