พิษศัลยกรรมเถื่อน ฟิลเลอร์ปลอมปูดหน้า-ตุ่มขรุขระแข็งปานหิน

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก topeorekoya.com

          การศัลยกรรมไม่ว่าประเภทใดย่อมมีความเสี่ยงอยู่ในตัวเอง และถ้าเป็นศัลยกรรมกับหมอเถื่อนก็ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงให้สูงขึ้นอีกตั้งไม่รู้กี่เท่า นี่เป็นสิ่งที่ ราจี นาไรน์ซิงห์ หญิงข้ามเพศวัย 46 ปี จากไมอามี สหรัฐฯ จำขึ้นใจอย่างแน่นอน หลังผลการศัลยกรรมกับหมอเถื่อนทิ้งให้ใบหน้าของเธอกลายเป็นตะปุ่มตะป่ำ แถมบางก้อนแข็งราวกับหิน อันเกิดจากฟิลเลอร์เถื่อนที่ทำมาจากกาวซูเปอร์กลูผสมกับมิเนอรัลออยล์

          เรื่องราวพร้อมภาพใบหน้าที่มีปุ่มปมปูดนูนขึ้นมาของราจี ถูกเผยแพร่ในสื่อออนไลน์หลาย ๆ แหล่ง รวมทั้งที่เว็บไซต์เดลี่เมล ในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2014 ที่ผ่านมา ราจี ซึ่งเป็นสาวข้ามเพศบอกว่า ความต้องการเป็นหญิงผลักดันให้เธอเดินเข้าหาหมอเถื่อนโดยไม่ได้คิดพิจารณา เหตุการณ์ที่เปลี่ยนชีวิตและปลี่ยนโฉมของเธอเกิดขึ้นในปี 2005 เธอได้รับการฉีดฟิลเลอร์เข้าที่แก้ม ริมฝีปาก หน้าอก และบั้นท้าย เพื่อปรับโครงหน้าและร่างกายให้ดูเป็นผู้หญิงมากขึ้น

          การฉีดทั้งหมดนี้ดำเนินไปถึง 10 เดือนด้วยกัน แลกกับค่าใช้จ่าย 3,000 เหรียญ (ประมาณ 90,000 บาท) อันนับว่าย่อมเยากว่าการศัลยกรรมถูกกฎหมายอยู่มาก ทุกอย่างดูเป็นไปได้ดี แต่แล้วสิ่งผิดปกติก็เกิดขึ้นจนได้ ในตอนแรกราจีรู้สึกเหมือนมีตุ่มหนองขนาดใหญ่ผุดขึ้นที่แก้ม และมันก็ใหญ่ขึ้น ๆ ทุกวัน ตามมาด้วยตุ่มอื่น ๆ อีกมากมาย บางตุ่มแตกออกเป็นหนองสีเขียวเหลืองปนเลือดน่าสะอิดสะเอียน แต่นั่นก็ไม่เท่ากับใบหน้าของเธอที่กลายเป็นปุ่มปมขรุขระ และบางปุ่มคลำได้เป็นก้อนแข็งใต้ผิวหนัง


          ด้วยใบหน้าที่น่าเกลียดเช่นนี้ ราจีไม่กล้าออกไปพบหน้าใครที่ไหน สาวใหญ่เคราะห์ร้ายเก็บตัวเองจากผู้คนอยู่เป็นปี กลายเป็นโรคเครียด ขี้วิตกกังวล และกลัวที่โล่งแจ้งไร้สิ่งกำบังไปโดยปริยาย

          แต่โชคก็ยังพอจะเข้าข้างเธออยู่บ้าง เมื่อเพื่อนของราจีได้แนะนำเธอให้กับศัลยแพทย์ใจดี ดอกเตอร์จอห์น มาร์ติน ผู้เสนอการศัลยกรรมและรักษาแก้ไขความผิดพลาดให้เธอฟรี ๆ

          การรักษาใบหน้าของราจีใช้หลายวิธีร่วมกัน ทั้งฉีดยาแก้อักเสบ ทำอัลตราซาวด์ และผ่าตัดโดยเลเซอร์ โดยที่ผ่านมามีการผ่าตัดใหญ่ร่วมอยู่ด้วย 2 ครั้ง ซึ่งในครั้งแรกนั้น กรรไกรผ่าตัดของหมอถึงกับหักเมื่อเขาพยายามจะหนีบเอาก้อนแข็ง ๆ ในผิวเธอออกมา ดอกเตอร์จอห์นบอกว่า "มันแข็งอย่างกับหิน"

          อย่างไรก็ดี ผลการรักษามาจนถึงตอนนี้ของราจีค่อนข้างเป็นที่น่าพอใจ ตุ่มแข็ง ๆ ส่วนใหญ่ถูกนำออกมาหมดแล้ว บางจุดที่ผ่านการรักษาแล้วก็นุ่มลงและค่อย ๆ สลายไปเอง ซึ่งดอกเตอร์จอห์นบอกว่าราจีโชคดีมาก ทั้งเรื่องที่การรักษาได้ผล และเรื่องที่หน้าของเธอเป็นแค่ตะปุ่มตะป่ำ เพราะการทำศัลยกรรมกับหมอเถื่อนบางราย ทำให้คนไข้ต้องพิการหรือไม่ก็เสียชีวิตเลยด้วยซ้ำ แต่อย่างไรก็ดี เขาก็ยังเป็นห่วงอวัยวะส่วนอื่น ๆ ที่ถูกฉีดด้วยฟิลเลอร์เช่นกัน เพราะแม้มันจะไม่แสดงอาการผิดปกติรุนแรงเช่นใบหน้า แต่ก็ทำให้ราจีเกิดอาการปวดอักเสบขึ้นเป็นพัก ๆ ที่สำคัญเขายังไม่รู้แน่ชัดว่าฟิลเลอร์เถื่อนที่อยู่ในตัวราจีนั้นมีสารอะไรประกอบอยู่บ้าง


          ทางด้านราจีเอง ในปัจจุบันนี้เธอก็พึงพอใจกับใบหน้าปัจจุบันของตัวเองมากแล้ว จากที่เคยอัปลักษณ์จนไม่กล้าออกไปไหน ตอนนี้เธอก็กลับมาใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข แถมยังออกเดทกับหนุ่ม ๆ จากเว็บไซต์เดทออนไลน์ด้วย

           "ผู้ชายบางคนบอกว่า เวลาอยู่กับฉันแล้วเหมือนได้อยู่กับมังกรสาวแสนเซ็กซี่ ฉันก็ไม่รู้ว่าจะฟาดหน้าเขาสักฉาด หรือคว้าเขามาจูบดีเหมือนกัน" ราจีให้สัมภาษณ์อย่างอารมณ์ดี พร้อมกับบอกว่า แม้หน้าตาจะเป็นแบบนี้ แต่ก็ช่วยให้เธอรู้ได้ว่า ผู้คนที่เข้ามาคบหากับเธอนั้นมาด้วยใจจริง ๆ

          นอกจากนี้ ราจียังได้เขียนบอกเล่าประสบการณ์ศัลยกรรมเถื่อน และบอกเล่าสิ่งที่เธอได้เรียนรู้ผ่านช่วงเวลาที่ใบหน้าเป็นปุ่มปมน่าเกลียด ในพ็อกเกตบุ๊กชื่อว่า Beyond Face Value A Journey to True Beauty พร้อมด้วยการทิ้งท้ายไว้ถึงผู้ที่กำลังมองหาการศัลยกรรมราคาสบายกระเป๋าเพื่อแปลงโฉมของตัวเองว่า "อย่าทำมันเด็ดขาด ถ้าคุณไม่ตาย ก็คงจะลงเอยด้วยความอัปลักษณ์เหมือนตัวฉันนี่แหละ"