เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
เรื่องของ ออยล์พูลลิ่ง (oil pulling) หรือการกลั้วปากด้วยน้ำมันสกัดเย็นอาจเคยผ่านหูใคร ๆ มาบ้าง โดยเริ่มเป็นที่รู้จักแนะนำกันเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา ในกลุ่มคนรักสุขภาพแบบพึ่งพิงธรรมชาติ และแล้วกระแสก็ค่อย ๆ หายไป จนไม่ได้ติดตามข่าวว่าผลของมันดีจริงหรือไม่อย่างไร คราวนี้เรามีความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญทั้งด้านช่องปากและผิวหนัง จากเว็บไซต์เดลี่เมลเกี่ยวกับการทำออยล์พูลลิ่งมาฝากกันเพิ่มเติมค่ะ
การทำออยล์พูลลิ่งเป็นวิธีบำบัดหรืออายุรเวชของชาวอินเดียที่มีมาแล้วเนิ่นนาน ด้วยวิธีการเพียงนำน้ำมันสกัดเย็น อาทิ น้ำมันงา น้ำมันมะพร้าว เป็นต้น มากลั้วปากในตอนเช้า ว่ากันว่าจะช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ไม่ดีในช่องปาก ป้องกันฟันผุ เหงือกอักเสบ และกลิ่นปากได้ รวมทั้งยังรักษาโรคผิวหนังได้นานาชนิด ทั้งโรคสะเก็ดเงิน ผิวผื่นแดง ผื่นจากอาการแพ้ต่าง ๆ รวมทั้งสิวได้เป็นอย่างดี แต่อย่างไรก็ตาม สรรพคุณที่อวดอ้างเหล่านี้ยังไม่เคยได้รับการศึกษาวิจัยอย่างจริงจัง แต่เราลองมาฟังความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญเรื่องช่องปาก และผิวหนังกันที่ได้คลุกคลีกับวิธีการออยล์พูลลิ่งกันดูบ้างดีกว่า
ดอกเตอร์วิทนีย์ โบว์ แพทย์ผิวหนังและนักฟิสิกส์วิทยาศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญเรื่องการรักษาสิว และการดูแลผิวพรรณจากอังกฤษ กล่าวว่า ตามทฤษฎีแล้วก็น่าเชื่อได้ว่าการใช้น้ำมันสกัดเย็นด้วยวิธีออยล์พูลลิ่งส่งผลที่ดีต่อผิวหนังได้ผ่านการออกฤทธิ์กับเชื้อแบคทีเรียต่าง ๆ ภายในปาก ซึ่งแบคทีเรียในช่องปาก ก็มีความเกี่ยวเนื่องกับแบคทีเรียในลำไว้และกระเพาะอาหาร ซึ่งฤทธิ์การทำงานของแบคทีเรียเหล่านี้สามารถส่งผลไปยังพื้นที่อื่น ๆ ของร่างกายได้
เมื่อความเครียดได้มาเจอเข้ากับพฤติกรรมการบริโภคที่กินแต่อาหารแปรรูปซึ่งมีไฟเบอร์ต่ำ ก็จะทำให้แบคทีเรียในแบคทีเรียในท้องก่อกวนให้เกิดอาการอักเสบระคายเคืองของเนื้อเยื่อ ในบางรายทำให้เกิดความรู้สึกอยากอาเจียน และเชื่อว่าเรื่องเดียวกันนี้ยังเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดสิวด้วย แม้จะยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเป็นแบคทีเรียตัวใด แต่กระบวนการนี้มีความเกี่ยวเนื่องเชื่อมโยงกันระหว่างปากและทางเดินอาหารภายใน การทำออยล์พูลลิ่งซึ่งจัดการกับแบคทีเรียในช่องปากได้ ก็จะช่วยรักษาสิวได้ด้วย
แต่อย่างไรก็ดี การหวังว่าปัญหาสิวจะดีขึ้นได้ด้วยการทำออยล์พูลลิ่งแค่อย่างเดียวเห็นจะเป็นไปไม่ได้ การรักษาสิวและโรคผิวหนังที่เห็นผล จำเป็นต้องรักษาจากวิธีการ ยา หรือผลิตภัณฑ์ "ที่ได้รับการศึกษาและรับรองมาแล้วว่าได้ผลจริง" ซึ่งก็มีวิธีที่เห็นได้ชัดว่ามีประสิทธิภาพกว่าอยู่มากมาย แม้ว่าเธอก็ไม่ได้โต้แย้งถึงคุณสมบัติต่อต้านการอักเสบของเนื้อเยื่อ และฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ที่น้ำมันสกัดเย็นเหล่านี้มีก็ตาม
ทางด้านทันตแพทย์ ดอกเตอร์เจสสิกา ที เอเมอรี มีความเห็นว่าไม่มีวิธีไหนที่สามารถทำความสะอาดฟันและช่องปากได้ดีเท่ากับน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นอีกแล้ว เพราะอาการฟันผุนั้นเกิดจากเชื้อแบคทีเรียในช่องปากที่ทำลายเคลือบฟัน ซึ่งน้ำมันมะพร้าวสามารถเข้ากระตุ้นให้เอนไซม์ในน้ำลายยับยั้งการก่อตัวของแบคทีเรียได้
ดอกเตอร์เจสสิกา กล่าวว่าคนไข้ของเธอหลาย ๆ คนรู้สึกถูกใจกับวิธีการดูแลสุขภาพช่องปากด้วยการกลั้วน้ำมันสกัดเย็นจากมะพร้าว มันทำให้ปากรู้สึกสะอาดได้ตลอดวัน และอาการปวดฟันก็ค่อย ๆ ลดหายไป สำหรับเธอมันจึงไม่ต่างอะไรไปกับการใช้วิตามินอีนวดเหงือกเพื่อรักษาอาการเหงือกอักเสบ และใช้น้ำมันกานพลูเพื่อบรรเทาอาการปวดฟัน วิธีออยล์พูลลิ่งเองก็ช่วยดูแลสุขภาพช่องปากได้เหมือนกันนั่นเอง
แม้จะไม่มีผลการทดลองอย่างจริงจังมายืนยันว่ามันได้ผลจริงทั้งในเรื่องการดูแลช่องปากและผิวพรรณ แต่จากการใช้จริงของผู้ใช้หลาย ๆ คนก็ยืนยันถึงผลที่น่าพึงพอใจ ฉะนั้นหากใครอยากทดสอบดูบ้างก็คงไม่เสียหายอะไร แต่ก็ต้องระมัดระวังเรื่องความสะอาด และใช้ควบคู่ไปกับผลิตภัณฑ์ที่คุณใช้อยู่ประจำด้วยนะคะ
เรื่องราวผู้หญิง ความสวยงาม แฟชั่น ความรัก มากมาย คลิกเลย
คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อน ๆ ได้ที่นี่ค่ะ