อยากสวยด้วยโบท็อกซ์&ฟิลเลอร์ แน่ใจหรือยังว่าคุณรู้จักมันดี
BOTOX & FILLER อยากสวย…ต้องเข้าใจ (Woman Plus)
เมื่อพูดถึงโบท็อกซ์กับฟิลเลอร์ คงไม่มีสาว ๆ คนไหนไม่เคยได้ยินแล้วในตอนนี้ บางคนก็เคยได้ผ่านการโบท็อกซ์กับฟิลเลอร์มาแล้วด้วยซ้ำนะคะ แต่สำหรับบางคนอาจจะแค่ได้ยิน แต่ยังไม่เข้าใจในรายละเอียด ว่าแท้จริงแล้ว 2 อย่างนี้มันคืออะไร ใช่การศัลยกรรมหรือไม่ เป็นอันตรายไหม ทำแล้วจะได้อะไร หรือมีผลเสียอะไรหรือไม่ วันนี้ W+ เลยหาข้อมูลมาบอกเล่าให้สาว ๆ ได้ทราบกันค่ะ
คนไทยในปัจจุบัน มีสถิติเสริมความงามสูงพอควร ซึ่งอยู่ในอันดับที่ 21 ของโลก (ที่มา : Intemational Society of Aethetic Plastic Surgery) ไม่ว่าจะเป็น เสริมหน้าอก ดูดไขมัน ตกแต่งเปลือกตา เสริมจมูก หรือผ่าตัดไขมันหน้าท้อง เป็นต้น
โบท็อกซ์
"โบท็อกซ์" เป็นชื่อทางการค้าของโบทูลินั่มท็อกซิน โปรตีนชนิดหนึ่งซึ่งได้จากแบคทีเรียทำงานด้วยการคลายกล้ามเนื้อในบริเวณที่ฉีด จึงเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่ผู้ที่ต้องการลบรอยตีนกา รอยเหี่ยวย่น หรือแม้แต่ผู้ที่กรามใหญ่และต้องการให้ใบหน้าเรียวเล็ก ภายในไม่กี่วันหลังจากฉีด สารพิษจะเข้าไปทำปฏิกิริยาเพื่อลดหรือหยุดการคลายตัวของกล้ามเนื้อไม่กี่วันหลังจากฉีด สารพิษจะเข้าไปทำปฏิกิริยาเพื่อลดหรือหยุดการคลายตัวของกล้ามเนื้อผลดังกล่าวไม่ถาวร ซึ่งผลการรักษาจะอยู่ได้ประมาณ 6-8 เดือน โดยมีข้อห้ามในการฉีดโบท็อกอยู่ 5 ข้อคือ
1. มีประวัติภูมิแพ้อย่างรุนแรงต่อโบทูลินัม ท็อกซิน
2. หญิงตั้งครรภ์หรืออยู่ระหว่างให้นมบุตร
3. มีความผิดปกติของโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง
4. มีปัญหาเลือดออกง่ายผิดปกติ หรือกำลังกินยาที่มีผลทำให้เลือดออกแล้วหยุดยาก 5.กำลังรักษาด้วยยาบางชนิดซึ่งมีผลต่อการออกฤทธิ์ของโบท็อกซ์
ข้อเสียและผลข้างเคียงของโบท็อกซ์
หลังการฉีดโบท็อกซ์อาจเกิดปัญหาแทรกซ้อนได้ เช่น หนังตาบนตก คิ้วตก มุมปากตก รูปปากเบี้ยว รอยจ้ำเลือดตำแหน่งที่ฉีดยา การเกิดภูมิต้านทานต่อโบท็อกซ์ และอาจพบอาการตาแห้งหลังการฉีด ดังนั้นแพทย์ที่ใช้ควรมีความรู้ความเข้าใจทางเภสัชวิทยาของโบทูลินัม ท็อกซิน ควรรู้วิธีผสมยา การรักษาที่ถูกต้อง นอกจากนี้ ควรมีความรู้พื้นฐานทางกายวิภาคของกล้ามเนื้อแต่ละมัด ตลอดจนเทคนิคการรักษาที่ถูกต้อง เพื่อให้ผลการรักษาเกิดประโยชน์สูงสุดและมีผลข้างเคียงน้อยที่สุด
นอกจากนั้นโบท็อกซ์ มีอยู่ในตลาดวงการศัลยกรรมเยอะแยะ จนมีทั้งของจริง ของปลอม ของที่ปลอดภัย และของที่อันตราย เพราะฉะนั้น การเลือกผลิตภัณฑ์ผิด โบท็อกซ์ ต้องเลือกที่มีอย. ซึ่งก่อนฉีด คนไข้ควรจะถามคุณหมอก่อนว่าใช้ยี่ห้ออะไรและผลิตจากที่ไหน แล้วก็สังเกตลักษณะขวดที่เราศึกษามาให้ดีด้วย เพราะอาจพบกับโบท็อกซ์ที่ไม่มีคุณภาพ โดยกระบวนการผลิตไม่ดีมันก็อาจติดเชื้อได้ เพราะสกัดไม่บริสุทธิ์พิษจะเป็นพิษเดียวกับบาดทะยัก ถ้าฉีดพลาดก็อาจรั่วไหลเข้าไปในเส้นเลือด สารพิษก็วิ่งเข้าไปในเลือดได้ค่ะ
ฟิลเลอร์
"ฟิลเลอร์" คือ การฉีดเติมเต็มด้วยสาร Hyaluronic Acid ซึ่งเป็นสารประกอบของคอลลาเจนที่มีอยู่แล้วในผิวหนัง คอลลาเจนนั้นเป็นโปรตีนสำคัญของผิว เพราะเป็นส่วนที่เปรียบได้กับสปริงของผิวหนัง ช่วยสร้างความตึงให้กับผิวหนังชั้นหนังแท้ คอลลาเจนโปรตีนจะเสื่อมสภาพลงเมื่ออายุมากขึ้น พอสปริงไม่เด้งเหมือนเก่า ผิวหนังจึงยุบตัวลง ความเหี่ยวย่น ริ้วรอย และความชราของผิวพรรณจึงปรากฏ การฉีดฟิลเลอร์จึงนิยมเพื่อช่วยในการปรับแก้ไขรูปหน้า เช่น เสริมจมูก เสริมคาง เสริมแก้ม หรือเพื่อเติมเต็มริ้วรอยบนใบหน้า เติมเต็มร่องลึกต่าง ๆ เช่น ร่องใต้ตา ร่องแก้ม หรือแม้แต่การบำรุงผิวให้กระชับ เปล่งปลั่ง สดใสขึ้นมาอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นบริเวณใบหน้า ลำคอ หลังมือ หรือแม้แต่ผิวหน้าอก โดยสารชนิดนี้ที่ฉีดเข้าไปนั้นสามารถย่อยสลายไปเองได้ตามกระบวนการทำงานของร่างกาย โดยผลลัพธ์การรักษาจะอยู่ได้ประมาณ 9-12 เดือน
ข้อเสียและผลข้างเคียงของฟิลเลอร์
เมื่อฟิลเลอร์มีความนิยมที่มากขึ้น จึงมีหมอเถื่อนเกิดขึ้นเยอะ หรือหมอที่หิ้วกระเป๋าไปรับฉีดตามที่ต่างๆ ทั้งๆ ที่บางคนอาจจะแค่เคยเป็นผู้ช่วยแพทย์ เห็นแพทย์ฉีดง่าย ๆ ก็นึกว่าตัวเองทำได้ ออกไปทำเอง เป็นเรื่องที่อันตรายมากๆ ซ้ำบางทีความไม่รู้ กลายเป็นการฉีดสารที่ไม่ใช่ฟิลเลอร์ เช่น ซิลิโคนเหลว หรือเป็นฟิลเลอร์ที่เป็นของปลอมเข้าสู่ร่างกาย ทำให้เกิดอันตรายตามมาอีกมาก นอกจากนั้นยังมีการใช้สารฟิลเลอร์ปลอมหรือสารฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน ทำให้เกิดผลเสียร้ายแรงมาก ซึ่งเคยมีกรณีที่สารฟิลเลอร์เข้าไปในกระแสเลือด เข้าสู่สมอง ทำให้เส้นเลือดแตก เส้นเลือดไปเลี้ยงสมองอุดตัน เป็นอัมพาต อัมพฤกษ์ได้
โดยหลังการฉีดฟิลเลอร์ อาจจะมีอาการตั้งแต่ไม่รุนแรง ไปจนถึงรุนแรงมาก เช่น เกิดผื่นแดง จุดแดง หรือจ้ำเลือดบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์จากรอยเข็มที่ฉีด ซึ่งอาการเหล่านี้จะหายไปได้เอง หรือเกิดรอยนูน เมื่อฉีดปริมาณมากเกินไป หรือฉีดตำแหน่งที่ตื้นเกินไป หรือปัญหาการไหลย้ายของฟิลเลอร์ เช่น ฉีดตรงดั้งจมูกแต่ไหลไปที่ปลายจมูก ฯลฯ แต่ผลข้างเคียงที่ถือว่าอันตรายมาก คือ การฉีดฟิลเลอร์ผิดตำแหน่งโดยฉีดเข้าไปในหลอดเลือดจึงทำให้เกิดการอุดตันของหลอดเลือดได้ เคยมีรายงานเกิดตาบอดภายหลังการฉีดฟิลเลอร์ เนื่องมาจากฟิลเลอร์ที่ฉีดไปอุดตันหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงจอประสาทตา รวมถึงการแพ้สารฟิลเลอร์ เช่น กรณีของพริตตี้สาวที่เสียชีวิตจากการฉีดฟิลเลอร์เข้าสะโพกก่อนหน้านี้ด้วย
เพราะฉะนั้นในการฉีดควรคำนึงถึงปัจจัยสำคัญ ๆ หลายอย่าง เช่น สารที่ฉีดต้องปลอดภัยและแน่ใจว่าเป็นฟิลเลอร์ Hyaluronic Acid ที่ผ่านการรับรองจาก อย.ไม่ใช่สารอื่นที่หลอกว่าเป็นฟิลเลอร์ หรือเป็นฟิลเลอร์ราคาถูกที่มีขายตามเว็บไซต์หรือนำเข้าอย่างผิดกฎหมาย คนฉีด จำเป็นอย่างมากที่จะต้องเป็นแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน รู้เทคนิคการฉีดที่ถูกต้องเหมาะสม สามารถวิเคราะห์ปริมาณยาและตำแหน่งที่ฉีดได้แม่นยำ เพราะเมื่อฉีดสารเข้าไปแต่ละครั้งมีโอกาสเสี่ยงในการที่จะไปโดนเส้นเลือดหรือบริเวณอื่นที่ไม่ต้องการ ทำให้เกิดอันตรายที่อาจถึงแก่ชีวิตได้ สถานที่ฉีด ต้องฉีดในสถานพยาบาลที่มีมาตรฐานได้รับอนุญาตให้ดำเนินการถูกต้องตามกฎหมาย มีเครื่องมือช่วยชีวิตยามฉุกเฉิน และสุดท้าย คนที่ต้องการจะฉีด ต้องรู้ว่าตัวเองมีสภาพร่างกายพร้อม ไม่เป็นคนเลือดออกง่าย หรือมีประวัติเป็นโรคภูมิแพ้รุนแรง แพ้จนช็อกหรือกำลังตั้งครรภ์อยู่ เพราะคนที่มีสภาพร่างกายอย่างที่กล่าวมาแล้วมีโอกาสเสี่ยงสูงจึงไม่ควรฉีดฟิลเลอร์เด็ดขาด
ดังนั้นเมื่อเราได้ทราบรายะละเอียดของทั้งโบท็อกซ์และฟิลเลอร์แล้ว ก็ควรจะทำความเข้าใจและศึกษาข้อมูลให้ดี ก่อนที่จะทำกันด้วยนะคะ ซึ่งจริง ๆ แล้วผู้หญิงทุกคนมีความสวยอยู่กับตัวทั้งนั้นค่ะ หลัก ๆ เพียงแค่เราดูแลตัวเองด้วยวิธีธรรมชาติ หมั่นออกกำลังกาย ทานอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อบำรุงผิวพรรณของเรา รวมถึงใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวอย่างสม่ำเสมอ ก็ไม่จำเป็นต้องไปฉีดสิ่งเหล่านี้ให้เสียเงินและเสี่ยงอันตรายแล้วแหละค่ะ
เรื่องราวผู้หญิง ความสวยงาม แฟชั่น ความรัก มากมาย คลิกเลย
คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อน ๆ ได้ที่นี่ค่ะ
คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อน ๆ ได้ที่นี่ค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก