x close

ดูแล 4 สภาพผิวอย่างถูกวิธี




ดูแล 4 สภาพผิวอย่างถูกวิธี (สสส.)

          ปัญหาของผิวพรรณที่พบอยู่บ่อย ๆ คงหลีกไม่พ้น การเกิดสิว ริ้วรอย ฝ้า กระ และผิวที่หมองคล้ำ เพื่อคลายความกังวลดังกล่าวให้สาว ๆ อวดผิวสวยได้อย่างสบายอกสบายใจ "คลีนิกข์" เครื่องสำอางแบรนด์แรกที่สร้างขึ้นโดยแพทย์ผิวหนัง ร่วมกับ สถาบันโรคผิวหนัง เชิญผู้เชี่ยวชาญ มาให้ความรู้เรื่อง "เดอร์มาโทโลจิคอล โซลูชั่น ฟอร์ เออวรี่คอนเซิน" การดูแลรักษาสภาพผิวอย่างถูกวิธี เมื่อวันที่ 18 ม.ค.ที่ผ่านมา ณ ห้องประชุมเรณู โคตรจรัส ชั้น 6 สถาบันโรคผิวหนัง

          เริ่มต้นกับปัญหา "สิว" ด้วย พญ.รัศนี อัครพันธุ์ รอง ผอ. สถาบันโรคผิวหนังและหัวหน้ากลุ่มงานรังสีชีววิทยา กล่าวว่า พบผู้หญิงเริ่มเป็นสิวอายุ 15-29 ปี ส่วนผู้ชายอายุ 16-19 ปี ร้อยละ 85 เป็นสิวธรรมดา ที่เหลือเป็นสิวอักเสบรุนแรง ซึ่งมีตัวกระตุ้นการเกิดสิว อาทิ อาหารจำพวกแป้งและนม, ความเครียด, นอนดึก, ความร้อน, สิวเห่อก่อนมีประจำเดือน, การทานยาฮอร์โมนบางชนิด

          การรักษาควรล้างหน้าเบา ๆ 2-3 ครั้งต่อวัน ไม่ควรบีบแกะสิว ส่วนการรักษาด้วยยาทา หาซื้อง่ายมีหลายขนานแต่ออกฤทธิ์ไม่เหมือนกัน จึงควรปรึกษาแพทย์ ส่วนยารับประทานหากใช้เป็นเวลานานมีผลข้างเคียง จึงควรอยู่ในการควบคุมของแพทย์ เช่น ยาปฏิชีวนะ ทำให้เกิดอาการดื้อยา, กรดวิตามินเอลดความมันบนใบหน้า เกิดตับอักเสบ ไขมันในเส้นเลือดสูง เกิดภาวะซึมเศร้า หากตั้งครรภ์เด็กอาจพิการได้ และยาฮอร์โมนทำให้ตัวบวม ฝ้าขึ้น

          ขณะที่ปัญหา "ริ้วรอย" ดร.นพ.เวสารัช เวสสโกวิท หัวหน้ากลุ่มงานพันธุศาสตร์ระดับโมเลกุล เผยถึงสาเหตุว่า เพราะใช้กล้ามเนื้อบนใบหน้ามาก ทำให้มีริ้วรอยตามร่องกล้ามเนื้อ อาทิ รอบตา หัวคิ้ว หน้าผาก และร่องแก้ม, ความเสื่อมของเนื้อเยื่อเกี่ยวพันใต้ ผิวหนัง เช่น การที่ริมฝีปากบางลง, แรงโน้มถ่วงโลก เช่น เนื้อหย่อนคล้อยบริเวณแขน, การสูญเสียไขมันที่ใบหน้า เช่น หนังตาตก และ การสูญเสียมวลกระดูกกับกระดูกอ่อนของใบหน้า เช่น จมูกงุ้ม แก้มตอบ

          วิธีแก้ปัญหาอย่าใช้กล้ามเนื้อบนใบหน้ามากเกินความจำเป็น หลีกเลี่ยงแสงแดดไม่นั่งติดกระจกและไม่สูบบุหรี่ เลือกรับประทานผักผลไม้ที่มีสีเข้ม พักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำวันละ 2 ลิตร ส่วนอาหารเสริมคอลลาเจนนั้นช่วยไม่ได้ เพราะมีโมเลกุลใหญ่ถูกย่อยสลายหมด

          นพ.โกวิท คัมภีรภาพ หัวหน้ากลุ่มงานโรคติดเชื้อ ให้ความรู้เรื่อง "ฝ้าและกระ" ว่า ฝ้าเกิดจากเซลล์สร้างเม็ดสีมากกว่าปกติ ผิวหนังเป็นสีน้ำตาลอ่อนถึงเข้ม ร้อยละ 90 เป็นในผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ มีตัวกระตุ้นคือ ยาคุมกำเนิด, รับประทานฮอร์โมนทดแทน, การตั้งครรภ์ การรักษาฝ้าอาจหายหลังคลอดบุตร หรือหยุดรับประทานยาคุมกำเนิด

          ฝ้าลึกต้องรักษาด้วยการทำเลเซอร์ ซึ่งไม่ถาวรมักกลับมาเป็นอีก การป้องกันต้องทาครีมกันแดดทุกวัน ข้างกล่องต้องเขียนกำกับบอร์ด สเปกตรัม, เวอรี่ ไฮท์ โพรเทคชั่น (เอสพีเอฟ มากกว่า 30, พีเอ+++) การทาที่ถูกวิธี ทาเนื้อยา 2 มก./ ตร.ซม. หรือ 1 กรัมทั่วใบหน้า แต่ส่วนใหญ่มักทากันเพียง 1 ใน 4 ของ 1 กรัมเท่านั้น ดังนั้นค่าเอสพีเอฟที่ดีอย่างไรก็ไม่ได้ผล และควรทาทิ้งไว้ครึ่งชั่วโมง

          ส่วนกระสัญลักษณ์ของผิวหน้าเริ่มเสื่อมโทรม พบในคนผิวขาวหรือผิวมีขี้แมลงวัน สาเหตุเกิดจากแสงแดด การรักษาใช้ยาทาฝ้าลดความเข้มของกระได้ แต่ตัวยารักษาที่ดีที่สุดคือ ยากันแดด

          ส่วนเรื่อง "ผิวหมองคล้ำ" ที่ผู้หญิงหลายคนประสบอยู่ นพ.จิโรจ สินธวานนท์ ผอ. สถาบันโรคผิวหนัง เผยว่า ควรให้การดูแลสภาพผิวให้เหมาะสม ดังนี้

          ผิวธรรมดา

          ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดไม่มีส่วนผสมของสบู่หรือสารทำความสะอาดรุนแรง ล้างหน้า 2 ครั้งต่อวัน โทนเนอร์ไม่มีแอลกอฮอล์ บำรุงด้วยมอยส์เจอไรเซอร์ผสมน้ำมันปริมาณน้อย

          ผิวแห้ง

          ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดมีสารเพิ่มความชุ่มชื่นแก่ผิวเช่นเดียวกับมอยส์เจอไรเซอร์ ดื่มน้ำให้มาก

          ผิวมัน

          ผลิตภัณฑ์ควรมีส่วนผสมของเอเอชเอ หรือกรดลิไซลิก เลือกมอยส์เจอไรเซอร์ชนิดระบุว่าเป็น วอเตอร์ เบส สำหรับเมคอัพควรเลือกชนิดที่ระบุว่าปลอดน้ำมัน

          ผิวผสม

          ใช้ผลิตภัณฑ์มีสารกำจัดความมัน เลือกมาสก์สำหรับผิวผสมโดยเฉพาะ และ ผิวแพ้ง่าย เลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ สารกันเสีย น้ำหอม

          ด้าน นพ.จินดา โรจนเมธินทร์ หัวหน้ากลุ่มงานศัลยศาสตร์และเลเซอร์ผิวหนัง บรรยายเรื่อง นวัตกรรมการรักษาปัญหาผิวพรรณว่า ปัจจุบันความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีการแพทย์เกี่ยวกับเลเซอร์ ได้รับการพัฒนาไป อย่างรวดเร็ว มีการประดิษฐ์เลเซอร์ขึ้นมาหลายชนิด สำหรับดูแลปัญหาผิวพรรณต่าง ๆ เช่น เลเซอร์ทับทิม, ไอพีแอล, แฟรคชั่นนัล รีเซอร์แฟคชิ่ง เลเซอร์ หรือเทคโนโลยีสกินไทรป์ นวัตกรรมจากแสงอินฟราเรด เป็นต้น ซึ่งแต่ละวิธีให้ผลการรักษาและอาการแทรกซ้อนแตกต่างกัน ดังนั้นก่อนรับการรักษาควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อน




ขอขอบคุณข้อมูลจาก


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ดูแล 4 สภาพผิวอย่างถูกวิธี อัปเดตล่าสุด 16 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา 18:05:43
TOP