ช่วงนี้เรียกได้ว่าเป็นเทศกาลแห่งวันรับปริญญาเลยก็ว่าได้ เพราะไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็เห็นแต่สาว ๆ เตรียมตัวหาช่างแต่งหน้าทำผมกันให้ควัก แต่ทั้งนี้สำหรับคุณสาว ๆ คนไหนที่ไม่ค่อยจะมีงบสำหรับจ้างช่างแต่งหน้าสักเท่าไร วันนี้กระปุกดอทคอมมีทางออกมาให้สาว ๆ กันแล้ว ด้วยการจัดเต็มฮาวทูแต่งหน้ารับปริญญาด้วยตัวเองจาก
มาให้สาว ๆ ได้ลองแต่งตามกัน บอกเลยว่ามีตั้ง 3 ลุค 3 สไตล์ให้เลือก แถมแต่ละลุคก็ยังสวยปังและช่วยให้สาว ๆ สวยขึ้นกล้องได้แบบสุด ๆ เอาเป็นว่าชอบแบบไหนก็ลองเลือกเอาไปฝึกมือแต่งตามกันได้เลยค่ะ
ในช่วงกลางปีนี้จนถึงปีหน้า จูนหนีไปเรียนต่อต่างประเทศ ไม่สามารถรับงานแต่งหน้าของสาว ๆ ได้ เห็นบางคนที่มาสอบถามแล้วผิดหวังเพราะอยากแต่งกับเราจริง ๆ ก็รู้สึกอยากจะทำอะไรเพื่อเธอ ๆ บ้าง ก็เลยจัด How to มาให้น้อง ๆ ที่กำลังจะรับปริญญาเอาไว้เป็นตัวเลือกไปแต่งตามได้นะคะ หรือใครจะไปงาน ก็สามารถนำไปเป็นตัวเลือกได้เช่นกันค่ะ รับประกันว่าสวยขึ้นกล้องแน่นอน
ส่วนใครแต่งหน้าไม่เป็นจริง ๆ แต่ชอบโทนที่จูนแต่ง ก็เอารูปภาพให้ช่างแต่งหน้าดูได้เหมือนกันจ้า
VIDEO แต่... ช่วงนี้ผิวจูนกลับมาเป็นผดเล็ก ๆ จากอากาศร้อน เขาไม่อยากให้หน้าแหก เลยขอเลือกพวกเบสเมคอัพที่ใช้แล้วไม่แพ้ ปลอดภัยกับหน้าของตัวเองแทนนะคะ อาจจะราคาสูงสักหน่อย น้อง ๆ อาจจะเลือกยี่ห้ออื่น ที่เข้ากับงบประมาณของตัวเองแทนละกันเนอะ ก่อนที่เราจะแต่งหน้า อันดับแรก คืนก่อนวันงานเราจะต้องบำรุงผิวให้เต็มที่ ไม่ว่าจะมาสก์หน้าทาครีมอะไรก็จัดเต็มได้เลยนะคะ แต่ที่สำคัญจะต้องเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เราไม่แพ้ ห้ามลองครีมที่เพิ่งซื้อมาใหม่ ในคืนก่อนวันงานเป็นอันขาด เพราะถ้าเราแพ้ขึ้น มักจะมีอาการเป็นผดผื่ดแดง ๆ แม้จะแต่งหน้ากลบหน้าก็จะดูไม่เรียบ แก้ไม่ได้เลยนะ
อุปกรณ์สำหรับเบสเมคอัพมีดังนี้ กันแดด MizuMi UV Water Serum SPF 50+ PA ++++ เบส Etude Beauty Shot Face Blur SPF 15 PA+ รองพื้น Modeling Liquid Foundation #YO02, Make up forever HD foundation #153 ไฮไลท์เนื้อครีม YSL touche eclat แป้งฝุ่น Candy Doll 01 บรอนเซอร์ 4U2 highlight & shading celebrity หลังจากที่เราตื่นนอนมาแล้วก็ล้างหน้าให้สะอาดนะคะ คราวนี้ไม่ต้องทาครีมใด ๆ ทั้งสิ้น ให้เราเริ่มจากการใช้น้ำแร่ฉีดให้ทั่วใบหน้าให้ผิวชุ่มชื่นแทน แล้วตามด้วยกันแดด MizuMi UV Water Serum SPF 50+ PA ++++ เลือกครีมกันแดดสูตรเนื้อบางเบาเกลี่ยแล้วเป็นน้ำ ๆ เพราะไม่หนักหน้า เกลี่ยง่าย ไม่เป็นคราบขาว ใครที่หน้ามันก็ใช้ได้เพราะเป็นสูตรคุมมัน ถ้าใครเหงื่อออกง่ายให้ใช้สูตรกันน้ำ จะช่วยให้เครื่องสำอางติดทนมากยิ่งขึ้น "กันแดดสำคัญมาก เพราะเราต้องเจอทั้งแดดทั้งลม ใครไม่ทาระวังหน้าดำนะน้องนะ"
ลงกันแดดเรียบร้อยแล้ว ก็ให้ตามด้วยไพรเมอร์หรือเบสตามสภาพผิวของแต่ละคน จูนสภาพผิวปกติค่อนไปทางแห้ง ก็จะเลือกใช้เบสที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้กับผิว ครั้งนี้ใช้ Etude Beauty Shot Face Blur SPF 15 PA+ เพราะมีคุณสมบัติช่วยเรื่องการถ่ายภาพ ให้ผิวเรียบลื่นเกลี่ยรองพื้นง่ายขึ้น ไม่มันไม่แห้ง ผิวดูนวล ๆ ตรงกับความต้องการพอดี วิธีการลงไม่ต้องลงหนานะคะให้ลงบาง ๆ ทั่วใบหน้า ใช้นิ้วมือกดเบา ๆ ให้ซึมเข้าผิว
ต่อด้วยการลงรองพื้น เราจะเลือกรองพื้นที่พอดีกับสีผิว ถ้าเป็นสาวผิวมันหรือผิวหน้าหมองระหว่างวัน ให้เลือกรองพื้นที่สว่างกับผิวประมาณ 1 เฉด ลงรองพื้นให้ทั่วใบหน้า จะใช้นิ้วมือหรือแปรงก็ได้ ตามความถนัด แล้วใช้ฟองน้ำชุบน้ำหมาด ๆ กดซับเพื่อเกลี่ยรองพื้นและเก็บส่วนเกินออก ฟองน้ำจะช่วยให้รองพื้นซึมติดผิวหน้าได้ดียิ่งขึ้น มาสร้างมิติให้ใบหน้ากันต่อ โดยการใช้รองพื้นสีเข้มขึ้นมาประมาณ 1-2 เฉด ลงที่บริเวณกรอบหน้า ไรผม ปีกจมูก แล้วเกลี่ยให้กลมกลืน (ภาพด้านขวา) ใครที่หน้าเหลี่ยมหน้ากลม เฉดดิ้งไม่เป็น วิธีง่าย ๆ คือ ปัดยังไงก็ได้ให้รูปหน้าใกล้เคียงรูปไข่มากที่สุด เท่านี้เองค่ะ ใครที่ลงรองพื้นขาวกว่าผิวมากเกินไป วิธีนี้ช่วยแก้อาการหน้าขาวกว่าคอได้ด้วยนะคะ เพิ่มความไบร์ทให้หน้าพุ่งด้วย YSL touche eclat บริเวณสันจมูก ใต้ตา คางและรอยหยักของริมฝีปาก ใครที่มีรอยสิว รอยแดง รอยดำ ให้ใช้คอนซีลเลอร์สีเดียวกับผิวกลบรอยในตอนนี้ได้เลย
เกลี่ยให้กลมกลืน แล้วเซตทั้งหมดด้วยแป้งฝุ่น โดยจะใช้แปรงพุ่มใหญ่ ๆ ฟู ๆ ปัดเพียงบาง ๆ แค่ให้รองพื้นไม่หนึบผิวก็เพียงพอแล้ว หลังจากนั้น ให้ดูว่ามีส่วนไหนที่ต้องการปกปิดเพิ่มค่อยใช้แป้งผสมรองพื้นสีพอดีผิว ลงด้วยแปรงเบา ๆ จะทำให้ปกปิดได้ดีขึ้นและหน้าไม่ดูหนาโบ๊ะด้วยค่ะ
หลังจากลงแป้งแล้ว เราจะมาย้ำการสร้างมิติให้ใบหน้าด้วยผลิตภัณฑ์แบบฝุ่น เพื่อให้ติดทนทั้งวัน เฉดดิ้ง 4U2 highlight & shading celebrity ไฮไลท์ Catrice Velvet matt eyeshadow 010 vanillaty fair
สีที่ใช้ในการเฉดดิ้งควรใช้แบบเนื้อแมตต์สีน้ำตาลอมเหลือง จะเข้ากับสีผิวสาวไทยมากกว่าสีน้ำตาลอมส้ม จูนชอบตัวนี้ของ 4U2 มาก ๆ ราคาไม่แพง สีสวย ติดทน แต่ยังไม่ถูกใจไฮไลท์ที่คู่มาด้วยเท่าไร ถ้าไฮไลท์เป็นแบบเนื้อแมตต์คงจะโดนกว่านี้ ไฮไลท์ที่ชอบและตอนนี้ใช้บ่อยมาก ๆ เป็นของ catrice รุ่นจริง ๆ เป็นอายแชโดว์ แต่เอามาทำไฮไลท์สวยมาก สีครีมเนื้อเกือบ ๆ แมตต์ แอบมีชิมเมอร์สีทองละเอียดผสมเล็กน้อยแทบมองไม่เห็น แต่ให้ออร่า เวลาปัดทำให้หน้าดูพุ่งแบบนวลเนียนขึ้นแบบธรรมชาติ ไม่มันย่อง เด็ก ๆ ใช้กับงานรับปริญญา หรืองานกลางแจ้งได้สบายมาก ผิวมันก็ใช้ได้นะคะ ดีมากเลย
จะเห็นในรูปว่าเมื่อคอนทัวร์หน้าแล้วหน้าจะดูมีมิติ และสีผิวด้านข้างไม่ลอยจากคอ แต่ในภาพนี้ยังไม่ได้ไฮไลท์นะคะ ไม่งั้นจะดูพุ่งกว่านี้อีก จูนจะไฮไลท์ในขั้นตอนท้าย ก่อนทาลิปสติก แต่ใครจะลงไปพร้อม ๆ กับตอนเฉดดิ้งก็ทำได้นะ ผลไม่ต่างกัน การไฮไลท์ เฉดดิ้ง สำคัญมากเลยกับวันที่ต้องถ่ายรูปเยอะ ๆ เพราะจะทำให้ถ่ายรูปขึ้น ดูหน้าเล็ก อยากจะวีเชฟแค่ไหนก็ทำได้ แค่เฉดดิ้ง อย่าลืมทำตามกันนะ เสร็จหมดแล้วในส่วนของงานผิว มาต่อกันด้วยการเขียนคิ้ว อย่างที่บอกว่าวันนี้จูนแต่งทั้งหมด 3 ลุค มาดูลุคแรกกันก่อนนะคะ
ลุคแรกจะเป็นลุคสาวหวานซ่อนเปรี้ยวสีชมพู ไม่หวานเลี่ยนจนเกินไป
อุปกรณ์ที่ใช้เขียนคิ้วมีดังนี้ค่ะ
ดินสอเขียนคิ้ว Cosluxe Slim Brow Pencil #Deep Brown พาเลทคิ้วชนิดฝุ่น Lola eyebrow kit Brow101 #Blonde มาสคาร่าคิ้ว Mille 3D Brow mascara #Deep Brown ทรงคิ้วแบบแรกนี้จะเป็นทรงคิ้วที่ค่อนข้างหนาแบบธรรมชาติไม่แหลมเรียว และไม่ใช้สีเข้มมากนัก เหมาะสำหรับสาวที่ไม่ค่อยได้แต่งหน้า ชอบแบบเบา ๆ ไม่ต้องเป๊ะมาก ความเป็นธรรมชาติสูง ความโค้งของคิ้วค่อนข้างตรง หัวคิ้วสูงกว่าหางคิ้วเล็กน้อย ทำให้ใบหน้าดูเป็นมิตร อ่อนโยนเวลาถ่ายภาพ
1. ใช้ที่เขียนคิ้วแบบฝุ่น ระบายให้ทั่วทรงคิ้ว โดยยังไม่ต้องให้เป็นระเบียบมากนัก 2. ระบายส่วนของหัวคิ้วให้ดูสูงขึ้น ระบายตามทรงคิ้วเดิม จะได้ความหนาแบบธรรมชาติ ทำให้คิ้วนั้นดูละมุนและหน้าดูเด็กลง 3. ใช้มาสคาร่าคิ้วปัดให้เส้นขนที่หัวคิ้วตั้งขึ้นและจัดทรงให้เข้ารูป ปรับให้สีเส้นขนคิ้วดูอ่อนลงเป็นสีน้ำตาลธรรมชาติ เพื่อความกลมกลืนกับสีคิ้วแบบฝุ่น 4. รอให้มาสคาร่าคิ้วแห้ง แล้วใช้ดินสอเขียนคิ้วเขียนระหว่างเส้นคิ้วในส่วนที่ขาดหายไป และเพิ่มความชัดที่หางคิ้วเล็กน้อย จากนั้นใช้คอนซีลเลอร์สีเดียวกับผิวเก็บรายละเอียดของทรงคิ้วให้ได้รูปมากยิ่งขึ้น หลังจากเขียนคิ้วเรียบร้อยแล้ว เราก็จะมาแต่งตากันนะคะ ก่อนแต่งตาทุกครั้งแนะนำให้ใช้ไพรเมอร์สำหรับทาเปลือกตา ทาลงไปบาง ๆ ก่อนเพื่อให้สีชัดติดทนตลอดวัน ลดอาการเปลือกตามันหรือการตกร่องรอยพับเปลือกตาของสีอายแชโดว์ได้ด้วยนะคะ
จูนใช้ของ Too Faced Shadow Insurance ค่ะ แต่ถ้างบไม่เยอะ ลองดูของ Etude, E.L.F ก็ได้นะคะ ข้าง ๆ นั้นเป็นรองพื้นแบบแท่งของกิฟฟารีน ไว้เก็บทรงคิ้วค่ะ ไพรเมอร์ให้ทาบาง ๆ เปลือกตาสองข้างใช้ปริมาณน้อยกว่าเม็ดถั่วเขียวก็พอแล้วค่ะ ถ้าทาหนาจนเกินไปแทนที่สีสันจะติดทนตลอดทั้งวัน จะทำให้เกิดอาการเปลือกตามันมากยิ่งขึ้นได้ และทำให้เนื้อไพรเมอร์ตกร่องรอยพับเปลือกตาอายแชโดว์ละลายกลายเป็นคราบระหว่างวันด้วย น่ากลัวมากกกกกก
สีที่ใช้ในลุคแรกเป็นโทนสีชมพูอมม่วงค่ะ สีม่วงจะช่วยเปลี่ยนความหวานของสีชมพูให้แซ่บขึ้นได้ 4U2 : 4 Color Eyeshadow #05 Way-Out
อายแชโดว์รุ่นใหม่ของ 4U2 มีคุณสมบัติคือเป็นอายแชโดว์เนื้อ Wet powder ไม่ใช่เนื้อครีมและไม่เชิงเนื้อฝุ่น จะมีความเปียกของเนื้อผลิตภัณฑ์เล็กน้อย เวลาเบลนลงบนเปลือกตาจะแนบสนิทไปกับผิว ติดทนนานตลอดวัน ให้สีสันที่ชัดเจน และผงอายแชโดว์แทบไม่ร่วงลงที่บริเวณใต้ตาเลยค่ะ สีอายชาโดว์ที่ใช้เรียงลำดับตามนี้ค่ะ
ขั้นตอนแต่งตามีดังต่อไปนี้ 1. ก่อนแต่งตา ทาอายไพรเมอร์ให้ทั่วเปลือกตา 2. ทาอายแชโดว์สีชมพู (1) ให้ทั่วเปลือกตา 3. แตะอายแชโดว์สีทองอ่อน (2) ลงบริเวณกลางเปลือกตา 4. เบลนอายแชโดว์สีม่วง (3) ลงบริเวณขอบตาให้กลมกลืน สีม่วงในพาเลทนี้เมื่อเบลนแล้ว จะมีสีน้ำตาลเจือมาด้วย ทำให้ดูตาซอฟท์มากขึ้นค่ะ 5. เขียนอายไลเนอร์ให้ชิดขอบตา เลือกชนิดกันน้ำ จะทำให้เป๊ะทั้งวัน 6. ลงอายแชโดว์สีบลอนด์น้ำตาล (4) บริเวณหางตาล่าง 7. ลงอายแชโดว์สีขาวของ cartict บริเวณหัวตาถึงกลางตาล่าง 8. ดัดขนตาและปัดมาสคาร่าชนิดกันน้ำทั้งบนและล่าง และส่วนปลายของหัวมาสคาร่า แตะเบา ๆ ที่ขอบตาล่าง แทนการเขียนอายไลเนอร์ เพราะเนื้อมาสคาร่าแบบกันน้ำจะทนมาก ไม่เลอะเปื้อนตลอดทั้งวัน แต่ระวังต้องแตะอย่างใจเย็นนะคะ ถ้าหนักมือไปจะกลายเป็นใต้ตาเลอะได้จ้า 9. ติดขนตาปลอมแบบตัดครึ่งบริเวณหางตา ให้หางตามีความยาวกว่ากลางตาแล้วจัดขนตาให้ดูเป็นธรรมชาติ (บางมหาวิทยาลัยไม่ให้ติดขนตาปลอม ก็ให้ปัดมาสคาร่าที่มีเส้นไฟเบอร์ ช่วยเพิ่มความยาวของขนตาแทนนะคะ) เสร็จเรียบร้อยค่ะ
ขนตาใช้ Cosluxe 1-07 ตัดครึ่ง แล้วใช้ด้านยาวติดหางตา จะดูหางตายาวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ กาวติดขนตาสีใส Cosluxe ติดแน่นดี ชอบ ๆๆๆ กาวสีดำ Arty ใช้ย้ำหัวและหางตากันไว้หน่อย เผื่อแอบหลับ หาว ดราม่าน้ำตาไหล จะได้อยู่ทน ๆ มาต่อด้วยการปัดแก้ม
4U2 Matt Blush 05 Soul 4U2 Shimmer Blush 03 Charm จูนเลือกใช้พาเลทบลัชออนเนื้อแมตต์ 4U2 Matt Blush 05 Soul เป็นสีโทนชมพูแต่มีติดส้มมาด้วย เพื่อให้ใบหน้าดูไม่หวานจนเกินไป มีความสดใสของสีส้มเจือนิด ๆ ส่วนบลัชออนแบบชิมเมอร์สีชมพู 4U2 Shimmer Blush 03 Charm ใช้ปัดหน้าแก้ม ให้หน้าดูสดใส ๆ แต่ถ้าใครหน้ามันมาก ให้ปัดแค่เนื้อแมตต์ก็พอนะคะ
สีปัดออกมาได้ตามภาพด้านนี้เลย
เริ่มจากใช้บลัชออนเนื้อแมตต์ปัดส่วนของสีชมพูในพาเลท แล้วนำมาปัดบริเวณหน้าแก้มด้วยจากนั้นตามด้วยสีส้มบาง ๆ ต่อด้วยปัดบลัชเนื้อชิมเมอร์มีวิ้งเล็กน้อยบริเวณกลางของแก้ม จะให้ลุคสดใสอ่อนเยาว์
ขั้นตอนสุดท้ายนั่นคือ การทาลิปสติกนั่นเอง
ทินท์ Benefit Lolli Tint ลิปสติก Cosluxe Kiss me pink การเลือกใช้สีลิปสติกสำหรับวันรับปริญญา อย่าลืมว่าเราจะต้องเน้นถ่ายรูป จะต้องทาสีให้ดูเข้มกว่าปกติเล็กน้อย ไม่ได้หมายถึงสีเข้มนะคะ จูนหมายถึงสีลิปสติกที่ถ่ายรูปออกมาไม่ดูซีด นู้ด ๆ เป็นคนป่วย อันนั้นไม่โอเคนะ
ในวันงานเราจะยุ่งมาก ๆ จนไม่มีเวลาเติมลิปสติก จูนจะใช้เทคนิค ทาบริเวณด้านในของริมฝีปากด้วยสีสดก่อน แล้วตามด้วยลิปสติกสีที่ชอบหรือสีธรรมชาติทับอีกครั้ง เพื่อให้ใบหน้าดูเป็นธรรมชาติ สวยงามและสีติดทนค่ะ
เสร็จแล้วค่ะ สำหรับลุคแรกเป็นสีชมพูแบบสดใสซุกซนเล็ก ๆ ชอบไหมเอ่ย ^^ การเลือกใช้อายไลเนอร์ ให้เลือกแบบกันน้ำและเขียนได้ง่ายถนัดมือ ส่วนตัวจูนชอบแบบปากกามากที่สุด เพราะเขียนง่าย เส้นเล็ก ช่วยให้การแต่งหน้าง่ายขึ้นและติดทนนานตลอดทั้งวันค่ะ ตอนนี้ชอบใช้ Malissa Kiss Super Black Ultra HD Eyeliner เพราะเขียนง่าย เส้นดำสนิท ติดทนและกันน้ำ โอเคเลยนะ
และการติดขนตาแบบหางตายาวเล็กน้อย จะช่วยยกหางตาให้ดูสดใสไม่เหนื่อยล้า
การแต่งหน้าแบบนี้จะช่วยเพิ่มความอ่อนเยาว์ คิ้วที่ดูเป็นมิตรมากยิ่งขึ้น ใครที่กังวลว่าแต่งหน้าแล้วจะดูแก่ ลองแต่งโทนแบบนี้ และใช้เทคนิคแบบที่จูนแนะนำดูนะคะ
ต่อด้วยลุคที่ 2 สีน้ำตาลคลาสสิกแต่งยังไงก็ได้รอดทุกคน ^^ ลุคนี้จะเน้นความสง่า ดูเป็นผู้ใหญ่ สีสันกลาง ๆ สามารถใช้ได้กับทุกสีผิว เป็นโทนน้ำตาลแต่งยังไงก็รอด
เริ่มจากการเขียนคิ้วกันก่อนค่ะ
ครั้งนี้จะใช้ดินสอเขียนคิ้วเพื่อให้ทรงคิ้วดูชัดเจนมากยิ่งขึ้น
ดินสอเขียนคิ้วแบบกันน้ำ Ter Masterpiece 3D #02 Natureal Brown เมจิกเขียนคิ้ว ในแท่งของ Soap & Glory Arahery Brow tint & Shaping Pencil มาสคาร่าคิ้ว Mille 3D Brow mascara #Deep Brown
ขั้นตอนการเขียนคิ้วดังต่อไปนี้
1. ใช้ดินสอเขียนคิ้วร่างทรงคิ้วตรงบริเวณหางเพื่อกำหนดความโค้งของคิ้ว เราจะให้คิ้วโค้งเล็กน้อย แต่เส้นขอบบนของคิ้วจะเป็นเส้นตรงนะคะ 2. ระบายสีคิ้วบริเวณที่ขาดหายไป โดยวิธีการเขียนปัดขึ้นเลียนแบบเส้นขนคิ้ว และใช้แปรงเกลี่ยสีให้ฟุ้ง ลุคนี้จะเป็นทรงคิ้วที่หัวคิ้วหนากว่าหางคิ้วเล็กน้อย และเก็บทรงคิ้วให้ดูเป๊ะมากขึ้นจากลุคแรก 3. เติมเส้นคิ้วให้สวยงามโดยเฉพาะบริเวณหัวคิ้ว ให้ใช้เมจิกเขียนคิ้วระบายเป็นเส้นบาง ๆ จะดูเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น 4. ปัดมาสคาร่าคิ้วให้สีดูเป็นธรรมชาติ จากนั้นเก็บทรงคิ้วด้วยคอนซีลเลอร์ เสร็จแล้วจ้า
ลุคที่ 2 จะใช้สีอายแชโดว์สีน้ำตาล สามารถแต่งได้ทุกสีผิว สาวไทยแต่งโทนนี้ยังไงก็รอด แต่งไม่ยากด้วยนะคะ 4U2 : 4 Color Eyeshadow 06 Flirty
ในพาเลทนี้จะมีเนื้อแมตต์เพิ่มเข้ามา ใครที่ไม่มีสีเขียนคิ้ว สามารถใช้สีน้ำตาลจากพาเลทแทนได้นะคะ
การแต่งตาเรียงสีดังนี้จ้า
ขั้นตอนการแต่งตา 1. ทาอายไพรเมอร์ให้ทั่วเปลือกตา
2. ทาอายแชโดว์สีน้ำตาลชิมเมอร์ (1) ลงให้ทั่วเปลือกตา 3. ทาอายแชโดว์สีน้ำตาลเนื้อแมตต์ (2) ลงให้ชิดขอบตา 4. คัดเบ้าตาด้วยสีน้ำตาลเนื้อแมตต์ (2) โดยเริ่มร่างเบ้าตาในส่วนของหางตาขึ้นมาจนถึงกลางดวงตา เพื่อกำหนดขอบเขตของการแต่งตาดังภาพ 5. ใช้แปลงพุ่มเบลนเกลี่ยสีให้กลมกลืนกัน แล้วแตะสีสว่าง (3) ลงเบา ๆ ที่กลางเปลือกตา ให้ตาดูสดใสขึ้น 6. เขียนอายไลเนอร์ชนิดดินสอที่ขอบตาแล้วใช้คอตตอนบัดเกลี่ยให้ฟุ้ง เติมอินเนอร์ขอบตาด้วยอายไลเนอร์ใช้ปากกาแบบกันน้ำ Malissa Kiss 7. ทาอายแชโดว์สีน้ำตาลเทา (4) ระบายบริเวณหางตาบาง ๆ 8. ทาอายแชโดว์สีครีมสว่างลงบริเวณกลางดวงตาเพิ่มความสดใส 9. ดัดขนตาปัดมาสคาร่าทั้งบนและล่าง จากนั้นติดขนตาปลอม เมื่อกาวขนตาปลอมแห้งแล้ว ให้ลงทับด้วยกาวสีดำบริเวณหัวตาและหางตา เพื่อช่วยให้ขนตาปลอมติดทนมากยิ่งขึ้น เสร็จแล้ว เย้ ๆๆๆ
ขนตาที่ใช้ Cosluxe 2-06
ลุคนี้เลือกขนตาที่มีความเป็นธรรมชาติ ไม่หนาจนเกินไป โดยจะเน้นหนาขึ้นมาเล็กน้อยตรงบริเวณกลางดวงตา จะช่วยให้ตาดูหวานขึ้น และช่วยแก้ปัญหาตา 2 ชั้นไม่เท่ากันได้เป็นอย่างดี ต่อด้วยการปัดแก้ม
4U2 Matt Blush 02 Spice
สีชมพูสุภาพ ผสมกับสีพีช ปัดแล้วดูเป็นธรรมชาติ ไม่หวือหวา ปัดแก้มบริเวณโหนกแก้มเข้ามาถึงกลางหน้าแก้ม (จุดสีแดง) เฉดดิ้งที่กรอบหน้า (ตามจุดดำ) และให้ปัดเน้นใต้โหนกแก้มเพิ่ม เพื่อให้โครงหน้าชัดขึ้น จากนั้นปัดหน้าแก้มด้วยไฮไลท์สีครีมให้หน้าดูสดใส
การทาปากนะคะ
ลิปไลเนอร์ Natural collection Lip liner ตัวดินสอไม่ระบุชื่อสีนะคะ ขอโทษด้วย ยังไงถ้าซื้อเอง ลองเลือกโทนสีที่เป็นสีคล้ายสีปากธรรมชาติก็โอเคแล้วค่ะ ลิปสติก Wet n wild #902 Bare it all
ใช้ดินสอเขียนขอบปากสีธรรมชาติ ระบายให้ทั่วริมฝีปาก ตามด้วยลิปสติกสีนู้ดธรรมชาติ (นู้ดป่วย ๆ ไม่เอานะคะ) เนื้อแมตต์ทาลงให้ทั่วริมฝีปาก
เรียบร้อยแล้ว เย้ ๆๆๆ
ลุคนี้จะเป็นโทนสีที่ดูสุภาพ สามารถแต่งหน้าไปได้หลายงานไม่จำเป็นเฉพาะแต่งรับปริญญา และเป็นโทนที่มีความคลาสสิก 10 ปีย้อนกลับมาดูภาพก็ยังร่วมสมัยอยู่ค่ะ
การเลือกใช้ลิปสติกเนื้อแมตต์ จะปรับลุคให้ดูเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ถ้าต้องการให้ดูแบ๊วขึ้นอีกนิด ให้เติมลิปกลอสทับดูนะคะ
การแต่งหน้าโทนนี้ถ้าต้องการให้ใบหน้าดูน่ารักมากขึ้น ให้เปลี่ยนการปัดแก้มจากโหนกแก้ม มาเป็นช่วงบริเวณหน้าแก้มแทนจะทำให้ดูน่ารักและดูอ่อนโยน
เสร็จแล้วค่ะสำหรับลุค 2 ทรงคิ้วนี้เป็นทรงคิ้วที่จูนชอบที่สุด เพราะเวลาถ่ายภาพหน้าตรงแล้วมันดูดี อิอิ
ลุคที่ 3 โทนสดใส เป็นการแต่งหน้าที่ดูสนุกสนานและค่อนข้างจะตามใจฉัน เหมาะสำหรับสาว ๆ ที่เป็นตัวของตัวเอง ไม่เหมือนใคร เริ่มต้นด้วยการเขียนคิ้ว ทรงคิ้วในลุคนี้จะเรียวยาวคมเป๊ะ หางคิ้วยกขึ้นด้านบนเล็กน้อยให้ดูเปรี้ยวเฉี่ยวมากขึ้น อุปกรณ์ที่ใช้ในการเขียนคิ้ว ได้แก่ ดินสอเขียนคิ้ว Soap&Glory Arahery Brow tint & Shaping Pencil พาเลทคิ้ว 4U2 Natural Eyebrow มาสคาร่าคิ้ว Mille 3D Brow mascara #Deep Brown
ขั้นตอนการเขียนคิ้ว 1. ร่างทรงคิ้วบริเวณท้องคิ้วเป็นเส้นตรงให้หางสูงกว่าหัวคิ้วเล็กน้อย หรือถ้ากลัวหน้าดุ ก็ให้หางคิ้วอยู่ในระดับเดียวกับหัวคิ้วก็ได้ค่ะ 2. ระบายคิ้วให้ดูเรียวยาวด้วยที่เขียนคิ้วแบบฝุ่น ช่องสีน้ำตาล 3. ใช้มาสคาร่าคิ้วสีน้ำตาลปัดให้เส้นขนคิ้วเรียงเป็นระเบียบ 4. เก็บทรงคิ้วด้วยคอนซีลเลอร์ แล้วใช้เมจิกเขียนคิ้วเก็บรายละเอียดในส่วนที่ขาดหายไป การเขียนคิ้วแบบนี้จะทำให้ดูหน้าดุ ดูแข็ง ถ้าเราเขียนคิ้วด้วยสีเข้มมาก ๆ เพราะฉะนั้นอย่าลืมเบลนสีคิ้วให้มีสีที่อ่อนลงบริเวณหัวคิ้วนะคะ
ต่อด้วยการแต่งตา
4U2 : 4 Color Eyeshadow 04 Mellow
อายแชโดว์ที่ใช้ในลุคนี้สีเป็นโทนส้มทองแดง+น้ำตาล สามารถใช้แต่งหน้าได้หลายแบบ รอบนี้จะแต่งแบบให้ดูสนุกสนานสดใส ใครไม่ใช่สาวหวาน ไม่อยากให้ดูเป็นทางการมากเกินไป ลองแต่งตามลุคนี้ได้นะคะ สีที่ใช้เรียงตามภาพด้านบนนี้เลยจ้า ขั้นตอนการแต่งตา 1. ทาอายไพรเมอร์ให้ทั่วเปลือกตา 2. ทาอายแชโดว์สีขาวสว่าง (1) บริเวณหัวตามาจนถึงกลางเปลือกตา 3. ทาอายแชโดว์สีส้ม-ทองแดง (2) บริเวณหางตาเกลี่ยมาถึงกลางเปลือกตาแล้วเบลนให้กลมกลืน 4. ระบายสี (2) ที่บริเวณหางตามาจนถึงกลางขอบตาล่าง 5. วาดอายไลเนอร์ให้ชิดขอบตาโดยให้บริเวณหางตาลากยาวออกมาให้หางตาตกเล็กน้อย หรือใครชอบแคทอาย ก็ตวัดปลายเฉียงขึ้นได้นะคะ 6. ลงอายแชโดว์สีน้ำตาลเข้มระบายบริเวณหางตาเล็กน้อย 7. เขียนอายไลเนอร์สีเงินบริเวณหัวตาและใช้อายแชโดว์ทาทับ 8. ดัดขนตาและปัดมาสคาร่าทั้งบนและล่าง 9. ติดขนตาปลอมให้เกินออกมาบริเวณหางตา โดยให้เลือกแบบหางตามีความยาว วิธีการติดให้ติดเลยขอบตาออกมาเล็กน้อย จะทำให้ตาดูเรียวยาวขึ้นค่ะ
เสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะสำหรับการแต่งตาโทนสดใสที่ดูน่ารัก ซน ๆ
อายไลเนอร์ที่ใช้ในรอบนี้ค่ะ Catrice Gel Liner #Black Malissa Kiss : Super Black Ultra HD Eyeliner Cosluxe Trust Me Wink Auto Eyeliner #Glist ขนตาปลอม Cosluxe 5-02
จูนเลือกใช้ขนตาปลอมสีน้ำตาลรุ่นใหม่ของ cosluxe ชอบที่เป็นสีน้ำตาลแบบเส้นขนธรรมชาติ ไม่ดูหลอกตา ตัดออกครึ่งหนึ่งและติดเพียงบริเวณหางตา ทำให้ตาดูหวานและดวงตาดูเรียวยาวขึ้น การปัดแก้ม 4U2 Matt Blush 03 Aspire สีส้มสดผสมสีพีช
4U2 Shimmer Blush 01 Dazzle สีชมพูพีชผสมชิมเมอร์สีทอง
สวอชสีให้ดูนะคะ เมื่อปัดทับกันจะได้สีที่น่ารักและดูเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้นค่ะ
วิธีการปัดแก้ม
ให้ปัดสีส้มแมตต์บริเวณโหนกแก้มอะไรเข้ามาใกล้หางตา (ในจุดสีดำ) และใช้บลัชออนชนิดชิมเมอร์ปัดบริเวณหน้าแก้มให้ดูสดใสขึ้น และช่วยลดความเข้มของสีส้มสดได้ (จุดสีแดง) ใช้แปรงสะอาด ๆ เบลนสีให้กลมกลืน ขั้นตอนสุดท้ายแล้ว มาทาปากกันดีกว่าค่ะ
ลิปสติกแบบลิควิดเนื้อแมตต์ LolaLove Lip Matte #Wanna Lipaholic #07 Passion Ville #01 เริ่มจากทาสีส้มสดเนื้อลิควิดที่ด้านในริมฝีปาก ทาทับด้วยสี Lipaholic #07 เล็กน้อย เก็บขอบปากด้วย Passion Ville #01 ใช้พู่กันทาปากให้ทั่ว จะได้ริมฝีปากแบบอั้มแล้วค่ะ (กล้าเทียบเนอะ อิอิ) เสร็จแล้วค่ะสำหรับลุคที่ 3 กว่าจะมาถึงตรงนี้ เหนื่อยกันเลยทีเดียว ><
สดใสและดูเป็นตัวของตัวเองที่สุด ใครที่เป็นแนวอินดี้ ชอบความแปลกใหม่ ไม่อยากซ้ำใคร ลองดูแนวนี้ได้นะคะ ไม่จำเป็นต้องเป็นโทนสีนี้นะคะ สาว ๆ สามารถเปลี่ยนเป็นโทนสีที่ชอบได้เลย
เป็นยังไงกันบ้างคะสำหรับ 3 ลุครับปริญญา จัดมาให้เต็มที่เลยหวังว่าจะถูกใจกันนะคะ และใน How to นี้พี่จูนก็ขอถือโอกาสอวยพรให้น้องทุกคนที่กำลังจะจบการศึกษาและก้าวเข้าสู่วัยทำงาน ขอให้มีชีวิตการทำงานที่ประสบความสำเร็จ มีสติกับการใช้ชีวิตในทุก ๆ วัน และอย่าลืมว่าสุขภาพสำคัญที่สุด หาเวลาพักผ่อนให้กับตัวเองบ้างนะคะ
เป็นอย่างไรบ้างคะสาว ๆ กับการแต่งหน้ารับปริญญาด้วยตัวเองทั้ง 3 ลุค 3 สไตล์ ที่กระปุกดอทคอมจัดเต็มเอามาให้ชมกันในวันนี้ หวังว่าจะช่วยให้สาว ๆ ได้ไอเดียการแต่งหน้ารับปริญญาของตัวเองกันบ้างนะคะ ^^