เปิดกรุน้ำยากัดสีผม เอาใจสาวเทรนดี้ตัวแม่ งานนี้ใครที่ชอบทำสีผมแซ่บ ๆ และกำลังมองหาน้ำยากัดสีผม ยี่ห้อไหนดี ? ห้ามพลาด !
ช่วงนี้เทรนด์สีผมซัมเมอร์กำลังมาแรง โดยเฉพาะสีผมแซ่บ ๆ จี๊ด ๆ
นี่แหละเหล่าบรรดาสาวเทรนดี้ตัวแม่ชอบกันนักล่ะ
แต่ถ้าอยากจะทำสีผมให้ออกมาแล้วสีสวยชัดโดนใจ ก่อนทำสีผมเชื่อแน่ว่าสาว ๆ
จะต้องกำลังมองหา "น้ำยากัดสีผม" ดี ๆ มาใช้กันอยู่แน่ ๆ
และเพื่อเป็นการเอาใจคุณสาว ๆ
วันนี้กระปุกดอทคอทมีรีวิวน้ำยากัดสีผมมาฝากกันแล้วค่ะ
ดูสิว่ายี่ห้อไหนจะใช้แล้วดี ไม่ทำให้ผมเสีย ตามมาดูกันเลย...
แต่ก่อนที่จะไปดูรีวิว วันนี้กระปุกดอทคอมมีวิธีกัดสีผมด้วยตัวเองมาฝากสาว ๆ กันด้วยล่ะค่ะ ซึ่งวิธีทำก็ง่าย ๆ เลย เพียงแค่เริ่มจากเตรียมความพร้อมด้วยการทาวาสลีนให้ทั่วกรอบหน้าและใบหู จากนั้นผสมส่วนผสมของน้ำยากัดสีผม โดยให้ทำตามคำแนะนำของแต่ละยี่ห้อที่กำหนดไว้ เมื่อได้ส่วนผสมแล้วให้นำมาชโลมเส้นผมให้ทั่วศีรษะ ทิ้งไว้ประมาณ 20-30 นาทีจนสีผมอ่อนลง จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาด อาจจะใช้แชมพูอ่อน ๆ ตามด้วยครีมนวดบำรุงผม เสร็จแล้วเช็ดและเป่าผมให้แห้งเป็นอันเสร็จเรียบร้อย
เอ้า ! เมื่อรู้จักเคล็ดลับการกัดสีผมด้วยตัวเองกันไปแล้ว คราวนี้ลองมาดูรีวิวที่สาว ๆ รอคอยกันดีกว่า...
1. Dcash Master Bleaching Powder Lightener
น้ำยากัดสีผมตัวนี้จะมีให้เลือกทำ 2 โทนสี คือสีขาวและสีบลอนด์อ่อนค่ะสาว ๆ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในยี่ห้อที่สาว ๆ นิยมใช้กันมากเลยทีเดียว เพราะทำเสร็จแล้วผมจะนุ่ม ไม่แห้ง แต่ทั้งนี้กลิ่นอาจจะฉุนไปนิด พอย้อมสีทับก็ได้สีสวยชัดเจนดี ซึ่งราคาไม่แพงเลยค่ะ ประมาณ 30-40 บาทเท่านั้นเอง
2. Lolane Pixxel Hair Bleaching Powder
ภาพจาก : lolane.com
3. Berina Hair Bleaching Powder
สำหรับตัวนี้จะมีทั้งแบบเป็นซองและเป็นกระปุกให้สาว ๆ ได้เลือกใช้ค่ะ ซึ่งจะมาพร้อมกับน้ำยาดีเวลลอปเปอร์ สำหรับให้ผสมเป็นน้ำยากัดสีผม เมื่อทำออกมาแล้วสีผมจะสว่างแบบเป็นธรรมชาติ ไม่ดูหลอกตา และไม่ทำให้ผมแห้ง ซึ่งสาว ๆ คนไหนที่ไม่ได้ทำสีผมบ่อย ๆ อาจจะซื้อแบบซองมาใช้ก็ได้ค่ะ ราคาประมาณ 30 กว่าบาท แต่สำหรับสาว ๆ คนไหนที่ชอบเปลี่ยนสีผมบ่อย ๆ กระปุกใหญ่ก็คุ้มเหมือนกันนะคะ ราคาประมาณ 600 กว่าบาทค่ะ
ภาพจาก : berinacosmetics.com
4. Boset Bronze Hair Bleaching Powder
ตัวนี้เป็นผงฟอกสีผม ที่ใช้ผสมกับน้ำยาไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ยี่ห้อเดียวกันที่เป็นสูตรน้ำนม ซึ่งสาว ๆ หลายคนที่เคยใช้บอกต่อกันมาว่ากลิ่นไม่ฉุน ทำแล้วสีผมอ่อนลงเร็ว ซึ่งจะได้สีประมาณเหลืองอ่อน หรือสีบลอนด์ แถมยังติดทนชัดอีกด้วย ราคาอยู่ที่ประมาณ 35-400 กว่าบาท แล้วแต่ขนาดค่ะสาว ๆ
5. Cruset Hair Bleaching Cream A900
สำหรับน้ำยากัดสีผมตัวนี้เป็นสูตรเนื้อครีมค่ะสาว ๆ ใช้งานง่าย เกลี่ยง่าย ทำแล้วช่วยเปลี่ยนสีผมให้อ่อนลงได้เร็ว แถมยังช่วยบำรุงผมให้ชุ่มชื่น เงางาม และสีผมที่ได้ก็ชัดเจน สว่างอย่างเป็นธรรมชาติ นับเป็นตัวเลือกที่ดี ใครที่ไม่อยากผมแห้งเสียห้ามพลาดเลยค่ะ ราคาประมาณ 60 กว่าบาท
ภาพจาก : cruset.net
ทีนี้ก็คงจะรู้กันแล้วใช่ไหมล่ะคะสาว ๆ
ว่าจะเลือกใช้น้ำยากัดสีผมยี่ห้อไหนดี เอ้า !
ถ้าอย่างนั้นอย่ารอช้ากันอยู่เลย รีบไปหาสีผมแซ่บ ๆ
มาแรงในช่วงนี้ทำกันเลยดีกว่า...
- สำหรับคนที่กำลังมองหาสีผม 2021 ดูได้ทีนี่เลย -
- เพื่อนๆ สามารถติดตามอ่านเนื้อหา สีผมสวยๆ ได้ที่นี่ -
แต่ก่อนที่จะไปดูรีวิว วันนี้กระปุกดอทคอมมีวิธีกัดสีผมด้วยตัวเองมาฝากสาว ๆ กันด้วยล่ะค่ะ ซึ่งวิธีทำก็ง่าย ๆ เลย เพียงแค่เริ่มจากเตรียมความพร้อมด้วยการทาวาสลีนให้ทั่วกรอบหน้าและใบหู จากนั้นผสมส่วนผสมของน้ำยากัดสีผม โดยให้ทำตามคำแนะนำของแต่ละยี่ห้อที่กำหนดไว้ เมื่อได้ส่วนผสมแล้วให้นำมาชโลมเส้นผมให้ทั่วศีรษะ ทิ้งไว้ประมาณ 20-30 นาทีจนสีผมอ่อนลง จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาด อาจจะใช้แชมพูอ่อน ๆ ตามด้วยครีมนวดบำรุงผม เสร็จแล้วเช็ดและเป่าผมให้แห้งเป็นอันเสร็จเรียบร้อย
เอ้า ! เมื่อรู้จักเคล็ดลับการกัดสีผมด้วยตัวเองกันไปแล้ว คราวนี้ลองมาดูรีวิวที่สาว ๆ รอคอยกันดีกว่า...
1. Dcash Master Bleaching Powder Lightener
น้ำยากัดสีผมตัวนี้จะมีให้เลือกทำ 2 โทนสี คือสีขาวและสีบลอนด์อ่อนค่ะสาว ๆ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในยี่ห้อที่สาว ๆ นิยมใช้กันมากเลยทีเดียว เพราะทำเสร็จแล้วผมจะนุ่ม ไม่แห้ง แต่ทั้งนี้กลิ่นอาจจะฉุนไปนิด พอย้อมสีทับก็ได้สีสวยชัดเจนดี ซึ่งราคาไม่แพงเลยค่ะ ประมาณ 30-40 บาทเท่านั้นเอง
ภาพจาก : shopotam.ru
สาว ๆ คนไหนที่ฟอกสีผมแล้วอยากได้สีผมสว่างมาก ๆ ตัวนี้แหละค่ะที่สาว ๆ กำลังตามหา เพราะทำออกมาแล้วสีผมจะอ่อนมาก ๆ สว่างถึงระดับ 10 เชียวล่ะค่ะ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งยี่ห้อที่ได้รับความนิยมเช่นเดียวกัน เพราะไม่ทำให้ผมแห้งเสีย ราคาอยู่ที่กล่องละประมาณ 30-40 บาท แต่ทั้งนี้หากใครที่ไม่อยากได้สีที่สว่างมากเกินไป โลแลนเขาก็ยังมีสูตรสว่างปานกลางเป็นตัวเลือกให้สาว ๆ อีกด้วยล่ะ
สำหรับตัวนี้จะมีทั้งแบบเป็นซองและเป็นกระปุกให้สาว ๆ ได้เลือกใช้ค่ะ ซึ่งจะมาพร้อมกับน้ำยาดีเวลลอปเปอร์ สำหรับให้ผสมเป็นน้ำยากัดสีผม เมื่อทำออกมาแล้วสีผมจะสว่างแบบเป็นธรรมชาติ ไม่ดูหลอกตา และไม่ทำให้ผมแห้ง ซึ่งสาว ๆ คนไหนที่ไม่ได้ทำสีผมบ่อย ๆ อาจจะซื้อแบบซองมาใช้ก็ได้ค่ะ ราคาประมาณ 30 กว่าบาท แต่สำหรับสาว ๆ คนไหนที่ชอบเปลี่ยนสีผมบ่อย ๆ กระปุกใหญ่ก็คุ้มเหมือนกันนะคะ ราคาประมาณ 600 กว่าบาทค่ะ
4. Boset Bronze Hair Bleaching Powder
ตัวนี้เป็นผงฟอกสีผม ที่ใช้ผสมกับน้ำยาไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ยี่ห้อเดียวกันที่เป็นสูตรน้ำนม ซึ่งสาว ๆ หลายคนที่เคยใช้บอกต่อกันมาว่ากลิ่นไม่ฉุน ทำแล้วสีผมอ่อนลงเร็ว ซึ่งจะได้สีประมาณเหลืองอ่อน หรือสีบลอนด์ แถมยังติดทนชัดอีกด้วย ราคาอยู่ที่ประมาณ 35-400 กว่าบาท แล้วแต่ขนาดค่ะสาว ๆ
ภาพจาก : เฟซบุ๊ก boset
5. Cruset Hair Bleaching Cream A900
สำหรับน้ำยากัดสีผมตัวนี้เป็นสูตรเนื้อครีมค่ะสาว ๆ ใช้งานง่าย เกลี่ยง่าย ทำแล้วช่วยเปลี่ยนสีผมให้อ่อนลงได้เร็ว แถมยังช่วยบำรุงผมให้ชุ่มชื่น เงางาม และสีผมที่ได้ก็ชัดเจน สว่างอย่างเป็นธรรมชาติ นับเป็นตัวเลือกที่ดี ใครที่ไม่อยากผมแห้งเสียห้ามพลาดเลยค่ะ ราคาประมาณ 60 กว่าบาท