
แตงโม นิดา เผยเรื่องราวหลังรับเลี้ยง น้องอีสเตอร์ บอกผู้จัดการเป็นซิงเกิลมัม เลยช่วยกันเลี้ยงน้อง ตอนนี้รักมาก ถึงขั้นต่อเติมบ้านให้น้องอยู่ด้วย
ตอนนี้ แตงโม - นิดา กลายมาเป็นคุณแม่ลูกอ่อนแล้ว หลังจากที่แตงโมรับลูกสาว น้องอีสเตอร์ ของเพื่อนคนสนิทมาเป็นลูกบุญธรรม โดยเจ้าตัวได้อัพเดทพัฒนาการของน้องอีสเตอร์ให้ฟังว่า...

ถามว่า เลี้ยงเองทุกขั้นตอนไหม
แตงโม : ก็ช่วยกันนะคะ เราจะสลับกันแต่คุณกระติกจะเป็นเมนหลักอยู่แล้ว เพราะเขาเป็นแม่คอยให้นม เขาจะมีสายใยความผูกพันที่เป็นแม่ลูกโดยกำเนิดนะคะ แต่ของโมจะเป็นคุณแม่เสริมที่คอยอำนวยความสะดวก
น้องเลี้ยงยากไหม ?
แตงโม : อีสเตอร์เป็นเด็กที่เลี้ยงง่ายมากเลยค่ะ ต้องขอบคุณพระเจ้า เราโชคดีมาก ๆ ที่น้องไม่ร้องเลยนอกจากหิว ไม่งอแงเลยค่ะ ถ้าไม่ร้องก็อ้อแอ้ ตอนแรกเราก็กังวลว่าจะมีเด็กจำนวนหนึ่งที่เป็นโคลิกคือร้องแบบไม่มีสาเหตุนะคะ ร้องเป็นประจำทุกเวลานี้ในทุกวัน ตอนแรกเราก็กลัวเพราะมีลูกพี่สาวที่เป็นลูกพี่ลูกน้องของเขาก็เป็นเหมือนกัน เราก็กลัวว่าถ้าเป็นแบบนั้นจะทำอย่างไร เราไม่รู้ว่าเขาต้องการอะไร ไม่รู้จะรับมือยังไง แต่สรุปว่าไม่เป็น ไม่งอแงเลย
แตงโม : ค่อนข้างติดนะคะ แต่โมไม่ค่อยแสดงออกสักเท่าไหร่ โมคิดถึงอยู่ตลอด ๆ วัน ๆ ก็เปิดแต่คลิปลูกดู กลับบ้านเร็ว นอนเร็ว ต้องนอนเร็วเพราะต้องชาร์จตัวเอง ถ้าน้องตื่นเมื่อไหร่เราต้องพร้อมเสมอ ทำงานเดี๋ยวนี้ไม่ค่อยได้ไปห้างสักเท่าไหร่แล้วค่ะ เพราะว่าจะรีบกลับบ้านไปหาลูกอย่างเดียว ส่วนเรื่องเปลี่ยนผ้าอ้อมเราทำเป็น เราเรียนตั้งแต่เป็นผู้ช่วยพยาบาลแล้ว จะมีพื้นฐานมาอยู่แล้ว
มีลูกแล้วชีวิตเปลี่ยนไปไหม
แตงโม : เปลี่ยนค่ะ ทั้งโมและกระติก เราจะต้องใจเย็นขึ้น เพราะว่าเด็กไม่สามารถพูดได้ เราต้องเล่นเกมทายใจ เราต้องอดทนกับการหาสาเหตุว่าเป็นเพราะอะไร คอยสังเกตตลอด และเราอยากจะเป็นคุณแม่ที่ดีค่ะ พัฒนาตัวเองและอยากมีศักยภาพในการดูแลน้องที่ดี และเริ่มวางแผนอะไรในระยะไกลมากขึ้น เพิ่มความมั่นคงให้ตัวเองอย่างรวดเร็วค่ะ โมเชื่อว่าสัญชาตญาณความเป็นแม่ทุกคนเป็นแบบนี้แน่นอน คือแม่ของน้องเป็นคนสนิทของโม รู้จักกันมาสิบกว่าปีแล้ว เรียกง่าย ๆ ว่าเป็นเพื่อนแท้ ไม่ใช่แค่เพื่อนเที่ยว เราอยู่บ้านเดียวกัน เราอยู่ด้วยกันมานานมากแล้วนะคะ จะมีบางช่วงที่แยกกันอยู่ เมื่อก่อนอยู่คอนโดเดียวกันพอต่างคนต่างมีแฟนก็แยกกันไปอยู่กับแฟน พอตอนนี้ไม่มีแฟนก็กลับมาอยู่ด้วยกันอีกแล้ว เขาเป็นซิงเกิลมัม พอโมเลิกกับโตโน่ก็เอาเขามาอยู่ด้วย มาเป็นผู้จัดการ มาอยู่ด้วยกันเหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน ลูกเขาก็เหมือนลูกเราค่ะ
เรื่องการจัดการตามกฎหมาย
แตงโม : ในเรื่องของเอกสารเป็นแค่กระดาษนะคะ โมไม่ได้อยากเป็นเจ้าของใคร เพราะลูกกับแม่เขาเกิดมาจากสายเลือดเดียวกัน โมไม่ได้ต้องการยึดลูกใครมาเป็นของตัวเอง พอเขาโตมาเขาก็มีแม่คนเดียวนั่นแหละค่ะ เพียงแค่โมเป็นแม่ด้วยความรู้สึกด้วยหัวใจ ก็จะดูแลเขาไปเรื่อย ๆ จนกว่าเขาจะไม่ต้องการค่ะ
แตงโม : เมื่อก่อนอยากมีลูกของตัวเองค่ะ แต่พอมีอีสเตอร์แล้ว เขาเติมเต็มได้ครบถ้วนเลยค่ะ น่ารักมากจริง ๆ คุณพ่อโมก็หลงมาก ต้องบอกว่าบ้านที่เราอยู่ตอนนี้ต่อเติมอยู่เพื่อให้น้องได้มีพื้นที่ได้เล่นในอนาคตด้วย
ทางพ่อเด็กมีการติดต่อมาบ้างไหม ?
แตงโม : เขาก็มีการติดต่อมาบ้างค่ะ ไม่ถึงกับเกลียดขี้หน้ากัน เราก็คำนึงถึงความสำคัญที่ลูกจำเป็นต้องมีพ่อและมีแม่ค่ะ เขาก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะไม่ได้สนิทกัน เป็นเรื่องส่วนตัวของกระติกค่ะ เรื่องบางเรื่องเราให้เขาเป็นคนตัดสินใจเองนะคะ
ภาพจาก Instagram melonpveerapong






