ไทด์ เอกพันธ์ เปิดตรงจากหัวใจ กรณีเตรียมหย่าภรรยา ยุ้ย คนึงนิจ รับชีวิตคู่มีปัญหากันมาตลอด เลยตัดสินใจยุติความสัมพันธ์ไว้เท่านี้ รับรองไม่มีปัญหามือที่สาม เคลียร์กับภรรยาแล้วก่อนคุยผู้หญิงคนอื่น
ข่าวคราวของ ไทด์ เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์ ที่ตัดสินใจยุติชีวิตคู่กับภรรยา ยุ้ย คนึงนิจ ศิริพงษ์ปรีดา ยังคงได้รับความสนใจอยู่ โดยล่าสุด (8 กุมภาพันธ์ 2560) ไทด์ เอกพันธ์ ก็ได้ออกมาเปิดใจเรื่องนี้หมดเปลือก พร้อมกับบอกว่า ตนและภรรยาเตรียมไปหย่ากันในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ก่อนวันวาเลนไทน์เพียง 1 วัน
ถึงกระนั้น เราก็รอให้ลูกอายุมากขึ้นเพื่อให้ลูกเข้าใจ เพื่อที่เราจะขอใช้ชีวิตของใครของมัน แต่เราก็ยังดูแลลูก เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เรารู้กัน 2 คนเท่านั้น อย่าไปเอาคนอื่นมาเกี่ยวข้อง
ครอบครัวของเราแยกกันอยู่ แยกกันนอนมา 3 ปี เราไม่มีเพศสัมพันธ์กันมาเกือบ 3 ปี บางครั้งต้องนอนด้วยกันเพื่อให้ลูกเห็นว่าพ่อกับแม่ยังรักกันอยู่ ลูกเองเขาก็คอยดู แต่พอถึงวันหนึ่ง ตนก็เป็นฝ่ายบอกว่าแยกกันอยู่ดีกว่า เมื่ออธิบายให้ลูกฟังลูกโอเค ลูกไม่อยากให้พ่อทำงานแล้วกลับบ้านมาหน้าเครียด ถ้าพ่อมีความสุข ลูกก็พร้อมที่จะร่วมสุขกับพ่อ
ส่วนข่าวเรื่องมือที่สามนั้น เหมือนกับเราไปบอกภรรยาว่า เราเลิกกันดีกว่า เพื่อให้ต่างคนต่างไปเจอคนที่ดีกว่า แต่ไม่นานจากนั้นตนก็ได้ไปคุยกับคนอื่น แล้วเรื่องนี้ไปถึงหูของอดีตภรรยา ทั้งที่ตลอด 3 ปีตนไม่มีอะไรกับภรรยาเลย ตนชัดเจนอยู่แล้ว ตนบอกกับภรรยาว่าขอเลิก และบอกกับสาวคนใหม่ว่าตอนนี้แยกกันอยู่กับภรรยา เรื่องนี้ไม่มีอะไรคลุมเครือ
อีกอย่าง ตนทำงานทุกวัน ละคร 5 เรื่อง พิธีกร 5 รายการ จนไม่มีเวลาให้เขา เขาก็เลยงอน และไม่ได้ง้อกัน บางทีตนกลับมาตี 2 ตี 3 ก็อยากกินน้ำกินข้าว มันก็ไม่มี จนวันหนึ่งเขาย้ายไปนอนข้างล่างเกือบปี จนตนเอาตัวออกจากบ้านไปอยู่ที่อื่น แต่เสาร์-อาทิตย์ ยังมาเจอกัน ส่วนเรื่องการดูแลลูกนั้น ลูกอยู่กับคุณแม่ 4 วัน อยู่กับตน 3 วัน
อย่างไรก็ตาม เราตัดสินใจว่าจะหย่ากันเมื่อเดือนธันวาคม 2559 และจะทำเรื่องหย่าให้เสร็จสิ้นในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2560 ตอนนี้เขาเองก็เข้าใจว่า มันไม่มีประโยชน์ที่จะเหนี่ยวรั้งกันไว้ เพราะถึงอย่างไรเราก็ต้องแยกกันอยู่อยู่แล้ว เขาเองฝากลูกมาบอกว่าพร้อมแล้ว ส่วนเรื่องทรัพย์สมบัติใด ๆ นั้น ตนจะเป็นฝ่ายดำเนินการ
"เราใจหายเหมือนกัน อยู่กันมา 12 ปี เราก็ภาวนาให้ชีวิตเขาเจริญรุ่งเรือง ไปเจอคนที่รักเขา มีเวลาให้กับเขา เขาเองก็ไม่ได้ทำผิดอะไร ไม่มีอะไรเสียหาย"