ตำรวจปราบปรามยาเสพติด (ปส.) เผยผลตรวจสอบเส้นทางการเงิน แพท ณปภา พบมีการโอนเงินให้บุคคลอื่นหลักล้านบาท ให้เวลา 2 สัปดาห์ ส่งเอกสารธุรกรรมการเงินเพิ่ม-เตรียมออกหมายเรียกผู้รับโอนสอบสวนเร็ว ๆ นี้ จากกรณีที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติด (ปส.) ได้มีการออกหมายเรียกดาราสาว แพท ณปภา ภรรยาของ นายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือ เบนซ์ เรซซิ่ง ผู้ต้องหาคดีฟอกเงินและสมคบการฟอกเงินเครือข่ายไซซะนะ แก้วพิมพา เข้าให้ปากคำในฐานะพยาน เพื่อชี้แจงที่มาทรัพย์สิน ซึ่งต่อมา แพท ณปภา ได้เดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่ พร้อมเปิดเผยว่า ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีฟอกเงิน ยืนยันว่าเงินทั้งหมดที่เธอมีนั้น มาจากการทำงานในวงการบันเทิง
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ล่าสุด (20 มีนาคม 2560) พล.ต.ต. พรชัย เจริญวงศ์
รองผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เปิดเผยว่า
ได้รับข้อมูลเพิ่มเติมจากฝ่ายสืบสวนสอบสวนหลังมีการตรวจสอบอย่างละเอียดเกี่ยวการทำธุรกรรมทางการเงินของ
แพท ณปภา พบว่ามีการโอนเงินไปยังกลุ่มบุคคลอื่นอีกหลายบุคคลรวมหลักล้านบาท
แต่ไม่สามารถบอกรายชื่อได้ว่าเป็นใครบ้าง
โดยเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่จะมีการออกหมายเรียกบุคคลที่รับโอนเงินดังกล่าวมาสอบปากคำ
นอกจากนี้
ในส่วนที่มีการสอบปากคำแพท ณปภา ไปแล้วนั้น
ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบเอกสารการให้ปากคำของพยานทั้งหมด
และยังรอเอกสารทางการเงินของดาราสาวเพิ่มเติมอีก ทั้งนี้
ทางเจ้าหน้าที่ยืนยันว่าจะดำเนินการด้วยความระมัดระวังและให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย
ขณะที่
พล.ต.ต. ชาตรี ไพศาลศิลป์ รองผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เปิดเผยว่า
คาดว่าหลังจากนี้อาจเรียก แพท ณปภา มาสอบปากคำแน่นอน
เนื่องจากพบว่ามีการโอนเงินไปมาระหว่าง แพท ณปภา และ นายอัครกิตติ์
หลายครั้งในห้วง 1 ปี แต่ขณะนี้ต้องรอเอกสารหลักฐานจาก แพท ณปภา
และคาดว่าจะได้รับภายใน 2 สัปดาห์ แต่หากเจ้าตัวเงียบหาย
เจ้าหน้าที่จะสอบถามถึงข้อขัดข้อง และหากยังไม่มีพยานหลักฐานอีก
ก็สามารถนำพยานบุคคลมาชี้แจงยืนยัน
ก่อนเจ้าหน้าที่จะทำการสอบปากคำและตรวจสอบฐานภาษีของบุคคลที่ถูกกล่าวอ้าง
แต่สุดท้ายหากเจ้าตัวยังไม่สามารถชี้แจงที่มาของเงินที่เจ้าหน้าที่สงสัยได้
ก็อาจจะเข้าข่ายฐานความผิดเช่นเดียวกับ นายอัครกิตติ์ สามี