รอยสิวแก้ด้วยอะไรได้บ้าง ? สาว ๆ ไม่ต้องเสียเวลาขบคิดหาวิธีกันอีกต่อไปแล้วค่ะ เพราะวันนี้กระปุกดอทคอมมีวิธีกำจัดรอยสิวที่ให้ผลลัพธ์ดีเยี่ยมภายในเวลาอันรวดเร็วมาฝากกันแล้ว รับรองเวิร์กมาก !
1. หน้าใสไร้รอยสิวด้วยมันฝรั่ง มะนาว และทับทิม
สูตรนี้ง่ายมากค่ะ นำมันฝรั่ง 1 ลูก มาขูดให้เป็นฝอย ปั่นผสมกับเมล็ดทับทิม ½ ถ้วยตวง มะนาวครึ่งลูกและน้ำเปล่า 1 ช้อนโต๊ะ จากนั้นนำมาตักใส่ในถาดพลาสติกสำหรับทำน้ำแข็ง แล้วนำไปแช่ช่องฟรีซให้แข็งเป็นก้อนแล้วนำมาถูเบา ๆ ที่ใบหน้าบริเวณรอยสิว แล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น น้ำมันฝรั่งจะช่วยกระชับรูขุมขน กรดผลไม้ AHA ที่มีอยู่ในมะนาวจะช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วให้หลุดออกและช่วยให้ผิวหน้าขาวกระจ่างใส ส่วนทับทิมช่วยให้ผิวหน้ากระชับเต่งตึงและบำรุงผิวให้เปล่งปลั่งสดใส สาว ๆ สามารถใช้น้ำแข็ง 1-2 ก้อนต่อวัน ผิวหน้าก็จะค่อย ๆ เนียนใสขึ้น รอยแผลเป็นต่าง ๆ ก็จะเริ่มจางลงค่ะ
2. น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิลช่วยทำให้รอยแผลเป็นจางลง
คุณสาว ๆ ทราบไหมคะว่าน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิล (Apple Cider Vinegar) มีกรดผลไม้ AHA ช่วยลดเลือนรอยสิว จุดด่างดำและแผลเป็นจากสิวให้หายไปได้ เพียงบดกล้วยหอมครึ่งลูกเข้ากับน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิล 2 ช้อนชานำมาทาบริเวณที่เป็นรอยสิว ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาทีแล้วล้างออกและทำ 3 ครั้งต่อวัน จะรู้สึกได้ว่าผิวหน้าค่อย ๆ เนียนใสขึ้นอย่างเห็นได้ชัดค่ะ
3. ยาสีฟันช่วยลดรอยสิวและจุดด่างดำให้หายเกลี้ยง !
ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อว่าค่ะว่ายาสีฟันที่เราใช้อยู่เป็นประจำทุกวัน มีสารต้านเชื้อแบคทีเรียและมีสารฟอกสีที่สามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ หากนำยาสีฟันมาแต้มที่รอยสิวทิ้งไว้ประมาณ 30 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น ทำซ้ำสองครั้งต่อสัปดาห์ จะช่วยสมานแผลที่สึกหรอจากสิวอักเสบและลดเลือนจุดด่างดำบนใบหน้าให้ค่อย ๆ จางลงจนมีสีผิวสม่ำเสมอกันทั่วทั้งใบหน้าค่ะ
4. ลดเลือนรอยสิวด้วยน้ำมันมะพร้าวและน้ำมันมะกอก
สาว ๆ ที่กลุ้มใจเพราะใบหน้าหมองคล้ำเต็มไปด้วยจุดด่างดำ สูตรนี้ช่วยได้ค่ะ เพียงนำน้ำมันมะกอกมาผสมกับน้ำมันมะพร้าวเข้าด้วยกันทาทิ้งไว้ตรงที่เป็นรอยสิวประมาณ 4-5 นาที จะช่วยให้รอยสิวที่มีสีเข้มค่อย ๆ จางลงได้ค่ะ เพราะน้ำมันมะกอกที่อุดมไปด้วยวิตามิน E และ K จะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิวหน้าได้เป็นอย่างดี ส่วนน้ำมันมะพร้าวมีสารฆ่าเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย สามารถช่วยรักษาอาการอักเสบและช่วยสมานแผลที่เกิดจากรอยสิวให้จางลงได้ในเวลาอันรวดเร็วค่ะ
5. ไข่ขาวช่วยรักษารอยสิว เผยผิวหน้าเนียนเรียบได้ดั่งใจ
คุณสาว ๆ ทราบไหมคะว่าไข่ขาวที่อุดมไปด้วยโปรตีน สามารถช่วยในการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอในร่างกาย และช่วยสมานแผลเป็นจากรอยสิวได้ดี เพียงแค่ทาไข่ขาวบริเวณรอยสิวที่เป็นแผลเป็น ปล่อยทิ้งไว้ข้ามคืนแล้วล้างออกในช่วงเช้า จะช่วยให้ผิวหน้าได้รับการฟื้นฟูและเกลี้ยงเกลาขึ้น หมดปัญหารอยสิวกวนใจแน่นอนค่ะ
6. แผลเป็นจางหายด้วยเบกกิ้งโซดาผสมน้ำผึ้ง
มีอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้สาว ๆ สามารถรักษารอยแผลเป็นที่เกิดจากสิวให้จางหายไปได้อย่างรวดเร็ว ด้วยการนำเบกกิ้งโซดา 2 ช้อนชาและน้ำผึ้ง 2 ช้อนชามาผสมให้เข้ากัน แล้วนำมาทานวดเป็นวงกลมตรงรอยสิวที่เป็นแผลเป็น ทิ้งไว้ประมาณ 3 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น วิธีนี้นอกจากจะช่วยให้แผลเป็นจางหายไปได้แล้ว ยังช่วยลดสิวอักเสบที่มีแนวโน้มว่าจะกลายมาเป็นแผลเป็นได้ด้วยค่ะ
7. น้ำแตงกวาผสมโยเกิร์ต ช่วยซ่อมแซมและผลัดเซลล์ผิว
สาว ๆ ที่อยากให้รอยแผลเป็นจางลง ผิวหน้าเนียนเรียบขึ้น ใช้สูตรนี้ได้ผลแน่นอนค่ะ เพียงนำโยเกิร์ตรสธรรมชาติมาผสมกับน้ำแตงกวาทาบนใบหน้าตรงที่มีรอยสิว ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่นก็จะช่วยให้รอยสิวที่เป็นแผลเป็นค่อย ๆ เลือนหายไป เพราะโยเกิร์ตมีกรดแลคติกที่มีฤทธิ์ช่วยกัดกร่อนเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดออก ฟื้นฟูและช่วยกระตุ้นการเกิดเซลล์ใหม่ ส่วนแตงกวาช่วยซ่อมแซมผิวที่เกิดรอยสิวด้วยวิตามิน A และ B1 สูตรนี้นอกจากจะช่วยให้แผลเป็นจางลงแล้ว ยังช่วยบำรุงและฟื้นฟูผิวหน้าให้เนียนนุ่มชุ่มชื่นและขาวกระจ่างใสขึ้นกว่าเดิมด้วยค่ะ
รอยสิวบนใบหน้าจริงอยู่ว่าต้องอาศัยเวลาในการซ่อมแซมและฟื้นฟูนานสักหน่อยกว่าจะกลับมามีผิวที่เนียนเรียบเหมือนเดิมอีกครั้ง แต่ถ้าสาว ๆ ใช้สูตรที่กระปุกดอทคอมนำมาฝากในวันนี้ ไม่แน่นะคะผิวหน้าของคุณอาจจะกลับมาสวยใสไร้รอยสิวได้ในเวลาอันรวดเร็วก็เป็นได้
ข้อมูลจาก : beautycaremagazine.com, thelifesquare.com, thebeautymadness.com, organicfacts.net, naturalremedyideas.com
รอยสิวแก้ด้วยอะไรได้บ้าง
? เป็นปัญหาแก้ไม่ตกที่คุณสาว ๆ กลุ้มใจกันอยู่ใช่ไหมคะ
เพราะใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยสิว จุดด่างดำ
และรอยแผลเป็นที่ทำให้ผิวหน้าหมองคล้ำ ไม่เรียบเนียนนั้น
ไม่ว่าจะเมคอัพยังไงก็ปกปิดไม่มิด จนทำให้หลายคนหมดความมั่นใจกันเลยทีเดียว
และถ้าใครที่กำลังหาวิธีลบรอยสิวให้หายไปโดยเร็วที่สุดกันอยู่ละก็
วันนี้กระปุกดอทคอมมีวิธีเริด ๆ ที่จะช่วยให้รอยสิวบนใบหน้าของสาว ๆ
หายวับไปได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งปลอดภัย ไม่ทำร้ายผิว
และช่วยฟื้นฟูสภาพผิวหน้าของสาว ๆ
ให้กลับมาเรียบเนียนและขาวกระจ่างใสอีกครั้งมาฝากกันแล้วค่ะ
จะมีวิธีอะไรบ้าง มาดูกันเลย
สูตรนี้ง่ายมากค่ะ นำมันฝรั่ง 1 ลูก มาขูดให้เป็นฝอย ปั่นผสมกับเมล็ดทับทิม ½ ถ้วยตวง มะนาวครึ่งลูกและน้ำเปล่า 1 ช้อนโต๊ะ จากนั้นนำมาตักใส่ในถาดพลาสติกสำหรับทำน้ำแข็ง แล้วนำไปแช่ช่องฟรีซให้แข็งเป็นก้อนแล้วนำมาถูเบา ๆ ที่ใบหน้าบริเวณรอยสิว แล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น น้ำมันฝรั่งจะช่วยกระชับรูขุมขน กรดผลไม้ AHA ที่มีอยู่ในมะนาวจะช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วให้หลุดออกและช่วยให้ผิวหน้าขาวกระจ่างใส ส่วนทับทิมช่วยให้ผิวหน้ากระชับเต่งตึงและบำรุงผิวให้เปล่งปลั่งสดใส สาว ๆ สามารถใช้น้ำแข็ง 1-2 ก้อนต่อวัน ผิวหน้าก็จะค่อย ๆ เนียนใสขึ้น รอยแผลเป็นต่าง ๆ ก็จะเริ่มจางลงค่ะ
คุณสาว ๆ ทราบไหมคะว่าน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิล (Apple Cider Vinegar) มีกรดผลไม้ AHA ช่วยลดเลือนรอยสิว จุดด่างดำและแผลเป็นจากสิวให้หายไปได้ เพียงบดกล้วยหอมครึ่งลูกเข้ากับน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิล 2 ช้อนชานำมาทาบริเวณที่เป็นรอยสิว ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาทีแล้วล้างออกและทำ 3 ครั้งต่อวัน จะรู้สึกได้ว่าผิวหน้าค่อย ๆ เนียนใสขึ้นอย่างเห็นได้ชัดค่ะ
ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อว่าค่ะว่ายาสีฟันที่เราใช้อยู่เป็นประจำทุกวัน มีสารต้านเชื้อแบคทีเรียและมีสารฟอกสีที่สามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ หากนำยาสีฟันมาแต้มที่รอยสิวทิ้งไว้ประมาณ 30 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น ทำซ้ำสองครั้งต่อสัปดาห์ จะช่วยสมานแผลที่สึกหรอจากสิวอักเสบและลดเลือนจุดด่างดำบนใบหน้าให้ค่อย ๆ จางลงจนมีสีผิวสม่ำเสมอกันทั่วทั้งใบหน้าค่ะ
สาว ๆ ที่กลุ้มใจเพราะใบหน้าหมองคล้ำเต็มไปด้วยจุดด่างดำ สูตรนี้ช่วยได้ค่ะ เพียงนำน้ำมันมะกอกมาผสมกับน้ำมันมะพร้าวเข้าด้วยกันทาทิ้งไว้ตรงที่เป็นรอยสิวประมาณ 4-5 นาที จะช่วยให้รอยสิวที่มีสีเข้มค่อย ๆ จางลงได้ค่ะ เพราะน้ำมันมะกอกที่อุดมไปด้วยวิตามิน E และ K จะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิวหน้าได้เป็นอย่างดี ส่วนน้ำมันมะพร้าวมีสารฆ่าเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย สามารถช่วยรักษาอาการอักเสบและช่วยสมานแผลที่เกิดจากรอยสิวให้จางลงได้ในเวลาอันรวดเร็วค่ะ
คุณสาว ๆ ทราบไหมคะว่าไข่ขาวที่อุดมไปด้วยโปรตีน สามารถช่วยในการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอในร่างกาย และช่วยสมานแผลเป็นจากรอยสิวได้ดี เพียงแค่ทาไข่ขาวบริเวณรอยสิวที่เป็นแผลเป็น ปล่อยทิ้งไว้ข้ามคืนแล้วล้างออกในช่วงเช้า จะช่วยให้ผิวหน้าได้รับการฟื้นฟูและเกลี้ยงเกลาขึ้น หมดปัญหารอยสิวกวนใจแน่นอนค่ะ
มีอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้สาว ๆ สามารถรักษารอยแผลเป็นที่เกิดจากสิวให้จางหายไปได้อย่างรวดเร็ว ด้วยการนำเบกกิ้งโซดา 2 ช้อนชาและน้ำผึ้ง 2 ช้อนชามาผสมให้เข้ากัน แล้วนำมาทานวดเป็นวงกลมตรงรอยสิวที่เป็นแผลเป็น ทิ้งไว้ประมาณ 3 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น วิธีนี้นอกจากจะช่วยให้แผลเป็นจางหายไปได้แล้ว ยังช่วยลดสิวอักเสบที่มีแนวโน้มว่าจะกลายมาเป็นแผลเป็นได้ด้วยค่ะ
สาว ๆ ที่อยากให้รอยแผลเป็นจางลง ผิวหน้าเนียนเรียบขึ้น ใช้สูตรนี้ได้ผลแน่นอนค่ะ เพียงนำโยเกิร์ตรสธรรมชาติมาผสมกับน้ำแตงกวาทาบนใบหน้าตรงที่มีรอยสิว ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่นก็จะช่วยให้รอยสิวที่เป็นแผลเป็นค่อย ๆ เลือนหายไป เพราะโยเกิร์ตมีกรดแลคติกที่มีฤทธิ์ช่วยกัดกร่อนเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดออก ฟื้นฟูและช่วยกระตุ้นการเกิดเซลล์ใหม่ ส่วนแตงกวาช่วยซ่อมแซมผิวที่เกิดรอยสิวด้วยวิตามิน A และ B1 สูตรนี้นอกจากจะช่วยให้แผลเป็นจางลงแล้ว ยังช่วยบำรุงและฟื้นฟูผิวหน้าให้เนียนนุ่มชุ่มชื่นและขาวกระจ่างใสขึ้นกว่าเดิมด้วยค่ะ
รอยสิวบนใบหน้าจริงอยู่ว่าต้องอาศัยเวลาในการซ่อมแซมและฟื้นฟูนานสักหน่อยกว่าจะกลับมามีผิวที่เนียนเรียบเหมือนเดิมอีกครั้ง แต่ถ้าสาว ๆ ใช้สูตรที่กระปุกดอทคอมนำมาฝากในวันนี้ ไม่แน่นะคะผิวหน้าของคุณอาจจะกลับมาสวยใสไร้รอยสิวได้ในเวลาอันรวดเร็วก็เป็นได้
ข้อมูลจาก : beautycaremagazine.com, thelifesquare.com, thebeautymadness.com, organicfacts.net, naturalremedyideas.com