ผิวแห้งหน้าหนาว ผิวแตกหน้าหนาว จะมีวิธีรับมืออย่างไรให้ผิวยังคงความชุ่มชื้นดูมีสุขภาพดีจนใคร ๆ ต่างพากันอิจฉา ตามมาดูเคล็ดลับดี ๆ ที่อยากบอกต่อกันได้เลย...
หลังจากที่เผชิญกับอากาศร้อนกันมาเป็นเวลานาน เมื่อย่างเข้าสู่ปลายปี
อาจทำให้สาว ๆ
หลายคนรู้สึกสดชื่นไปกับอากาศเย็นสบายเพราะลมหนาวที่พัดผ่านเข้ามา
แต่ทราบไหมคะว่าการที่อุณหภูมิลดลงในช่วงหน้าหนาวนั้นก็ส่งผลทำให้ความชุ่มชื้นที่มีอยู่ในผิวของสาว
ๆ ลดลงด้วยเช่นกัน ซึ่งถือเป็นสาเหตุสำคัญเลยก็ว่าได้ที่ทำให้ผิวแห้งกร้าน
ผิวแตก ผิวลอกเป็นขุย และมีอาการคันยิบ ๆ ตามมา
แล้วจะมีวิธีดูแลผิวหน้าหนาวอย่างไรให้กลับมาชุ่มชื่นอิ่มน้ำได้เหมือนเดิม ไม่ยากค่ะ วันนี้กระปุกดอทคอมมีเคล็ดลับดี ๆ เกี่ยวกับวิธีรับมือผิวแห้ง ผิวแตกหน้าหนาวมาฝากกันแล้ว จะมีวิธีอะไรบ้าง ไปเตรียมตัวให้พร้อมกันเลย
1. ดื่มน้ำเติมความชุ่มชื้นให้ผิว
เมื่อสาว ๆ เริ่มรู้สึกว่าผิวของตัวเองแห้งแตก ตกสะเก็ดและเริ่มมีอาการคันยิบ ๆ ขึ้นมาแล้วละก็ อย่านิ่งนอนใจนะคะ ควรดื่มน้ำในแต่ละวันให้เพียงพอต่อความต้องการ เพื่อให้น้ำเข้าไปฟื้นบำรุงให้ผิวแห้งกร้านจากการสูญเสียความชุ่มชื้น ช่วยให้ผิวกลับมาอิ่มน้ำได้เหมือนเดิม นอกจากนี้สาว ๆ ยังสามารถดื่มเครื่องดื่มอุ่น ๆ เช่น น้ำอุ่นผสมน้ำมะนาว โกโก้หรือชาร้อนบ่อย ๆ ในช่วงหน้าหนาว ก็จะเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยบำรุงทำให้ผิวรู้สึกสดชื่นจากภายในได้ค่ะ
2. รับประทานผัก-ผลไม้ที่มีปริมาณน้ำสูง
สาว ๆ ทราบไหมคะว่าการกินผักและผลไม้ที่มีปริมาณน้ำมาก ๆ เช่น แตงกวา มะเขือเทศ แครอต แอปเปิล ส้ม กีวี แตงโม และแคนตาลูป ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยคืนความชุ่มชื้นให้กับผิวแห้งกร้านได้เป็นอย่างดีค่ะ เพราะในผัก-ผลไม้ฉ่ำน้ำเหล่านี้มีสารอาหารสำคัญและวิตามินต่าง ๆ เช่น วิตามิน C และสารต้านอนุมูลอิสระ ที่จะช่วยบำรุงให้ผิวพรรณของสาว ๆ เปล่งปลั่งดูมีสุขภาพดีขึ้นนั่นเองค่ะ
3. หลีกเลี่ยงการอาบน้ำอุ่นเป็นเวลานาน ๆ
สาว ๆ ทราบไหมคะว่าการอาบน้ำอุ่นเป็นเวลานาน เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นได้พอ ๆ กับการออกไปเผชิญกับลมหนาวข้างนอกเลยทีเดียว เพราะการอาบน้ำในอุณหภูมิที่สูง ยิ่งมากเท่าไหร่ก็ยิ่งเป็นการดึงความชุ่มชื้นออกไปจากผิวได้มากเท่านั้น และยิ่งไปกว่านั้นน้ำมันธรรมชาติที่มีอยู่ในผิวหนังของเราก็จะถูกขจัดออกไปด้วย ทำให้ผิวแห้งกร้านได้ง่ายมากขึ้น ทางที่ดีสาว ๆ ควรหลีกเลี่ยงการอาบน้ำที่มีอุณหภูมิสูงเป็นเวลานานในช่วงหน้าหนาวจะดีกว่าค่ะ
4. ทามอยส์เจอไรเซอร์ หรือโลชั่นบำรุงผิวแห้งแตก
ผิวที่โดนลมหนาวเป็นเวลานาน ๆ จะแห้งแตกเป็นขุยและมีอาการคันยิบ ๆ ตามมา สาว ๆ ควรบำรุงผิวกายด้วยมอยส์เจอไรเซอร์ที่อุดมไปด้วยคอลลาเจน หรือสารสกัดจากธรรมชาติ เช่น น้ำแร่ ดอกลาเวนเดอร์ ดอกคาโมมายล์ ทาเป็นประจำทุกวันก็จะช่วยบรรเทาอาการผิวแห้ง คัน และช่วยฟื้นคืนให้ผิวกายของสาว ๆ กลับมาอิ่มน้ำ และเนียนนุ่มน่าสัมผัสได้ค่ะ
5. DIY มาสก์หน้าบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น
ผิวหน้าของสาว ๆ ที่สัมผัสกับลมหนาว จำเป็นอย่างมากที่ต้องบำรุงให้ชุ่มชื้น โดยสาว ๆ สามารถทำมาสก์หน้าบำรุงได้ง่าย ๆ ด้วยการนำไข่แดง 2 ฟอง ผสมกับน้ำมันมะกอก 3-4 หยด คนให้เข้ากันนำมาพอกหน้าทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที แล้วล้างออก ทำสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ไข่แดงที่อุดมไปด้วยวิตามิน A และเลซิติน และน้ำมันมะกอกที่อุดมไปด้วยวิตามิน E, K และสารต้านอนุมูลอิสระ จะช่วยบำรุงผิวรักษาผิวที่แห้งกร้านของสาว ๆ ให้กลับมาเนียนนุ่มชุ่มชื้นน่าสัมผัสได้อีกครั้ง
6. ปากแห้งแตกเป็นขุยรับมือด้วยลิปบาล์ม
ในช่วงหน้าหนาว สาว ๆ จะเห็นได้ว่าริมฝีปากมักจะแห้งแตกเป็นขุยดูไม่น่ามอง สาเหตุเกิดจากผิวหนังกำพร้าที่อยู่ชั้นนอกสุดสูญเสียความชุ่มชื้นจากการสัมผัสอากาศเย็นเป็นเวลานาน ดังนั้นสาว ๆ จึงควรบำรุงด้วยการทาลิปบาล์มเป็นประจำทุกวัน ส่วนหนังกำพร้าที่แห้งแตกเป็นขุย สามารถขจัดออกได้อย่างอ่อนโยนด้วยการใช้แปรงสีฟันถูเบา ๆ ก็จะช่วยให้ริมฝีปากของสาว ๆ กลับมาเนียนเรียบได้เหมือนเดิมแล้วค่ะ
7. บำรุงผิวส้นเท้าแห้งแตกด้วยการทาครีมบำรุง
หากสาว ๆ มีปัญหาผิวที่ส้นเท้าแห้งแตกเป็นร่องลึก มีวิธีดูแลรักษาง่าย ๆ ค่ะ ด้วยการทาครีมบำรุง เช่น ทาจาระบีที่ทำจากปิโตรเลียมหรือน้ำมันพืช ทาด้วยน้ำมันมะกอก หรือทาด้วยวาสลีนแล้วสวมถุงเท้าเข้านอนทุกคืน ก็จะช่วยบำรุงให้ผิวหนังบริเวณส้นเท้าหายจากอาการแห้งแตกได้ภายในระยะเวลาอันรวดเร็วค่ะ
8. หลีกเลี่ยงการใส่เสื้อผ้าที่ทำให้เกิดการระคายเคืองผิว
ในช่วงหน้าหนาวสาว ๆ ควรหลีกเลี่ยงเสื้อผ้าที่อาจทำให้เกิดอาการระคายเคือง ผิวแห้งแตก เช่น เสื้อผ้าที่ทำจากขนสัตว์ หรือเสื้อผ้าที่ใส่ส่วนผสมของสารเคมีในขั้นตอนการผลิต แล้วหันมาสวมใส่เสื้อผ้าที่ทำจากเส้นใยธรรมชาติแทน เช่น ผ้าฝ้าย ผ้าลินิน หรือผ้าไหม ที่สามารถระบายอากาศได้ดี สวมใส่สบาย แล้วค่อยสวมเสื้อกันหนาวทับอีกชั้น ก็จะเป็นการช่วยถนอมผิวของสาว ๆ ให้ห่างไกลจากอาการระคายเคืองในช่วงที่ผิวแห้งแตกได้เป็นอย่างดีค่ะ
เห็นไหมคะว่าวิธีรับมือกับปัญหาผิวแห้ง ผิวแตกในช่วงหน้าหนาวไม่ใช่เรื่องยากเลย เพียงแค่สาว ๆ ดูแลและบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นอยู่ตลอดเวลาตามเคล็ดลับที่นำมาฝากกันในวันนี้ รับรองว่าลมหนาวจะไม่สามารถพัดพาความชุ่มชื้นออกไปจากผิวสวยของสาว ๆ ได้อย่างแน่นอนค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก : thealternativedaily.com, bewell.com, stylecraze.com, webmd.com
แล้วจะมีวิธีดูแลผิวหน้าหนาวอย่างไรให้กลับมาชุ่มชื่นอิ่มน้ำได้เหมือนเดิม ไม่ยากค่ะ วันนี้กระปุกดอทคอมมีเคล็ดลับดี ๆ เกี่ยวกับวิธีรับมือผิวแห้ง ผิวแตกหน้าหนาวมาฝากกันแล้ว จะมีวิธีอะไรบ้าง ไปเตรียมตัวให้พร้อมกันเลย
1. ดื่มน้ำเติมความชุ่มชื้นให้ผิว
เมื่อสาว ๆ เริ่มรู้สึกว่าผิวของตัวเองแห้งแตก ตกสะเก็ดและเริ่มมีอาการคันยิบ ๆ ขึ้นมาแล้วละก็ อย่านิ่งนอนใจนะคะ ควรดื่มน้ำในแต่ละวันให้เพียงพอต่อความต้องการ เพื่อให้น้ำเข้าไปฟื้นบำรุงให้ผิวแห้งกร้านจากการสูญเสียความชุ่มชื้น ช่วยให้ผิวกลับมาอิ่มน้ำได้เหมือนเดิม นอกจากนี้สาว ๆ ยังสามารถดื่มเครื่องดื่มอุ่น ๆ เช่น น้ำอุ่นผสมน้ำมะนาว โกโก้หรือชาร้อนบ่อย ๆ ในช่วงหน้าหนาว ก็จะเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยบำรุงทำให้ผิวรู้สึกสดชื่นจากภายในได้ค่ะ
สาว ๆ ทราบไหมคะว่าการกินผักและผลไม้ที่มีปริมาณน้ำมาก ๆ เช่น แตงกวา มะเขือเทศ แครอต แอปเปิล ส้ม กีวี แตงโม และแคนตาลูป ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยคืนความชุ่มชื้นให้กับผิวแห้งกร้านได้เป็นอย่างดีค่ะ เพราะในผัก-ผลไม้ฉ่ำน้ำเหล่านี้มีสารอาหารสำคัญและวิตามินต่าง ๆ เช่น วิตามิน C และสารต้านอนุมูลอิสระ ที่จะช่วยบำรุงให้ผิวพรรณของสาว ๆ เปล่งปลั่งดูมีสุขภาพดีขึ้นนั่นเองค่ะ
3. หลีกเลี่ยงการอาบน้ำอุ่นเป็นเวลานาน ๆ
สาว ๆ ทราบไหมคะว่าการอาบน้ำอุ่นเป็นเวลานาน เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นได้พอ ๆ กับการออกไปเผชิญกับลมหนาวข้างนอกเลยทีเดียว เพราะการอาบน้ำในอุณหภูมิที่สูง ยิ่งมากเท่าไหร่ก็ยิ่งเป็นการดึงความชุ่มชื้นออกไปจากผิวได้มากเท่านั้น และยิ่งไปกว่านั้นน้ำมันธรรมชาติที่มีอยู่ในผิวหนังของเราก็จะถูกขจัดออกไปด้วย ทำให้ผิวแห้งกร้านได้ง่ายมากขึ้น ทางที่ดีสาว ๆ ควรหลีกเลี่ยงการอาบน้ำที่มีอุณหภูมิสูงเป็นเวลานานในช่วงหน้าหนาวจะดีกว่าค่ะ
4. ทามอยส์เจอไรเซอร์ หรือโลชั่นบำรุงผิวแห้งแตก
ผิวที่โดนลมหนาวเป็นเวลานาน ๆ จะแห้งแตกเป็นขุยและมีอาการคันยิบ ๆ ตามมา สาว ๆ ควรบำรุงผิวกายด้วยมอยส์เจอไรเซอร์ที่อุดมไปด้วยคอลลาเจน หรือสารสกัดจากธรรมชาติ เช่น น้ำแร่ ดอกลาเวนเดอร์ ดอกคาโมมายล์ ทาเป็นประจำทุกวันก็จะช่วยบรรเทาอาการผิวแห้ง คัน และช่วยฟื้นคืนให้ผิวกายของสาว ๆ กลับมาอิ่มน้ำ และเนียนนุ่มน่าสัมผัสได้ค่ะ
ผิวหน้าของสาว ๆ ที่สัมผัสกับลมหนาว จำเป็นอย่างมากที่ต้องบำรุงให้ชุ่มชื้น โดยสาว ๆ สามารถทำมาสก์หน้าบำรุงได้ง่าย ๆ ด้วยการนำไข่แดง 2 ฟอง ผสมกับน้ำมันมะกอก 3-4 หยด คนให้เข้ากันนำมาพอกหน้าทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที แล้วล้างออก ทำสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ไข่แดงที่อุดมไปด้วยวิตามิน A และเลซิติน และน้ำมันมะกอกที่อุดมไปด้วยวิตามิน E, K และสารต้านอนุมูลอิสระ จะช่วยบำรุงผิวรักษาผิวที่แห้งกร้านของสาว ๆ ให้กลับมาเนียนนุ่มชุ่มชื้นน่าสัมผัสได้อีกครั้ง
6. ปากแห้งแตกเป็นขุยรับมือด้วยลิปบาล์ม
ในช่วงหน้าหนาว สาว ๆ จะเห็นได้ว่าริมฝีปากมักจะแห้งแตกเป็นขุยดูไม่น่ามอง สาเหตุเกิดจากผิวหนังกำพร้าที่อยู่ชั้นนอกสุดสูญเสียความชุ่มชื้นจากการสัมผัสอากาศเย็นเป็นเวลานาน ดังนั้นสาว ๆ จึงควรบำรุงด้วยการทาลิปบาล์มเป็นประจำทุกวัน ส่วนหนังกำพร้าที่แห้งแตกเป็นขุย สามารถขจัดออกได้อย่างอ่อนโยนด้วยการใช้แปรงสีฟันถูเบา ๆ ก็จะช่วยให้ริมฝีปากของสาว ๆ กลับมาเนียนเรียบได้เหมือนเดิมแล้วค่ะ
7. บำรุงผิวส้นเท้าแห้งแตกด้วยการทาครีมบำรุง
หากสาว ๆ มีปัญหาผิวที่ส้นเท้าแห้งแตกเป็นร่องลึก มีวิธีดูแลรักษาง่าย ๆ ค่ะ ด้วยการทาครีมบำรุง เช่น ทาจาระบีที่ทำจากปิโตรเลียมหรือน้ำมันพืช ทาด้วยน้ำมันมะกอก หรือทาด้วยวาสลีนแล้วสวมถุงเท้าเข้านอนทุกคืน ก็จะช่วยบำรุงให้ผิวหนังบริเวณส้นเท้าหายจากอาการแห้งแตกได้ภายในระยะเวลาอันรวดเร็วค่ะ
8. หลีกเลี่ยงการใส่เสื้อผ้าที่ทำให้เกิดการระคายเคืองผิว
ในช่วงหน้าหนาวสาว ๆ ควรหลีกเลี่ยงเสื้อผ้าที่อาจทำให้เกิดอาการระคายเคือง ผิวแห้งแตก เช่น เสื้อผ้าที่ทำจากขนสัตว์ หรือเสื้อผ้าที่ใส่ส่วนผสมของสารเคมีในขั้นตอนการผลิต แล้วหันมาสวมใส่เสื้อผ้าที่ทำจากเส้นใยธรรมชาติแทน เช่น ผ้าฝ้าย ผ้าลินิน หรือผ้าไหม ที่สามารถระบายอากาศได้ดี สวมใส่สบาย แล้วค่อยสวมเสื้อกันหนาวทับอีกชั้น ก็จะเป็นการช่วยถนอมผิวของสาว ๆ ให้ห่างไกลจากอาการระคายเคืองในช่วงที่ผิวแห้งแตกได้เป็นอย่างดีค่ะ
เห็นไหมคะว่าวิธีรับมือกับปัญหาผิวแห้ง ผิวแตกในช่วงหน้าหนาวไม่ใช่เรื่องยากเลย เพียงแค่สาว ๆ ดูแลและบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นอยู่ตลอดเวลาตามเคล็ดลับที่นำมาฝากกันในวันนี้ รับรองว่าลมหนาวจะไม่สามารถพัดพาความชุ่มชื้นออกไปจากผิวสวยของสาว ๆ ได้อย่างแน่นอนค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก : thealternativedaily.com, bewell.com, stylecraze.com, webmd.com