
โรคที่เด็กยุคใหม่ต้องเผชิญภูมิแพ้ทางเดินหายใจ (modernmom)
ทุกวันนี้เด็กไทยเป็นโรคภูมิแพ้มากขึ้น โดยเฉพาะโรคภูมิแพ้ทางเดินหายใจ เพราะมลภาวะและสารก่อภูมิแพ้ในอากาศมีมากขึ้น ระบบภูมิคุ้มกันของเด็กเปลี่ยนแปลง ทำให้เกิดโรคภูมิแพ้ได้ง่าย การป้องกันไม่ให้อาการภูมิแพ้กำเริบนั้น ต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจโรค และการปฏิบัติตัวของคุณพ่อคุณแม่ด้วยครับ
ต้นตอก่ออาการแพ้
โรคภูมิแพ้เกิดขึ้นได้จาก 2 ปัจจัยใหญ่ ๆ ก็คือ ปัจจัยทางพันธุกรรม และปัจจัยทางสิ่งแวดล้อมครับ เรามาดูกันว่าทั้ง 2 ปัจจัยนี้ มีผลต่อการเกิดโรคภูมิแพ้อย่างไร
ปัจจัยทางพันธุกรรม ลูกน้อยได้รับการถ่ายทอดโรคภูมิแพ้จากพ่อแม่ แม้ว่าพ่อหรือแม่เป็นโรคภูมิแพ้เพียงคนเดียว ลูกก็มีโอกาสเสี่ยงที่จะเป็น ยิ่งพ่อและแม่เป็นโรคหอบหืด ลูกน้อยก็ยิ่งมีโอกาสเป็นโรคภูมิแพ้ทางเดินหายใจมากยิ่งขึ้น
ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม มี 2 ตัวแปรหลักที่เป็นตัวก่อโรค ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ต้องทำความเข้าใจและแยกแยะให้ถูกต้องดังนี้

นอกจากนั้นก็มีขนสัตว์และสะเก็ดของผิวหนังโดยเฉพาะจากแมวกับสุนัข อุจจาระและซากของแมลงสาบ สปอร์ของเชื้อรารวมถึงละอองเกสรหญ้า ที่อาจพบได้จากสิ่งแวดล้อมภายนอกบ้าน โปรตีนจากอาหาร เช่น นมวัว เป็นต้น
แต่อย่างไรก็ดี สารก่อภูมิแพ้สำคัญที่จะทำให้ลูกน้อยของคุณแม่เกิดอาการแพ้ และพบเป็นสาเหตุลำดับต้น ๆ มักจะเป็นไรฝุ่น ขนและสะเก็ดผิวหนังของสัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะแมว ซึ่งแฝงตัวอยู่ในบ้านที่คุณ และลูกน้อยอาศัยอยู่นั่นเอง

รู้จักโรคภูมิแพ้ทางเดินหายใจ
โรคภูมิแพ้ทางเดินหายใจในเด็กแต่ละคนจะมีความรุนแรงไม่เท่ากัน เด็กบางคนอาจจะแค่จาม น้ำมูกไหล มีเสมหะ แต่บางคนอาจรุนแรงถึงขั้นหลอดลมในปอดเกิดการหดตัวหรือเป็นหอบหืดได้ ซึ่งโรคภูมิแพ้ทางเดินหายใจ แบ่งออกได้ดังนี้
ภูมิแพ้ทางเดินหายใจส่วนบน หรือโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ คนทั่วไปเรียกว่าโรคแพ้อากาศนั่นเอง จริง ๆ แล้วเกิดจากการแพ้สารก่อภูมิแพ้ที่มีกับฝุ่นในอากาศ โดยเฉพาะในที่อยู่อาศัยและในห้องนอน
เด็กจะมีอาการจามคันจมูกมีน้ำมูกใสอาจมีอาการคัดจมูก คันตา หายใจติดขัด และมีเสียงครืดคราดได้มักจะเป็นแบบนี้ในช่วงเช้า ๆ และตอนนอน บางครั้งอาจเป็นมากถึงกับทำให้มีปัญหาในการนอนหลับได้ สาเหตุที่เป็นเช่นนี้ เนื่องจากเด็กสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้สำคัญ ที่เกิดจากไรฝุ่นซึ่งอยู่ในที่นอนโดยตรง เด็กที่เป็นภูมิแพ้ทางเดินหายใจส่วนบน อาจมีโรคแทรกซ้อน เช่น ไซนัสอักเสบ หูชั้นกลางอักเสบ หลอดลมอักเสบ อาการนอนกรนเสียงดังได้ง่ายกว่า เด็กที่ไม่เป็นโรคนี้
ภูมิแพ้ทางเดินหายใจส่วนล่าง หรือโรคหอบหืด ซึ่งโรคนี้เด็กจะไม่มีเสมหะ แต่จะมีอาการไอ หอบ แน่นหน้าอก หายใจเข้าออกลำบาก และรู้สึกเหนื่อยง่าย หากเป็นมากขึ้น จะได้ยินเสียงวี้ดเหมือนนกหวีดเวลาหายใจออก และต้องใช้ยาสูดพ่นเข้าปอดเพื่อช่วยขยายหลอดลม
วิธีป้องกันและลดการเกิดอาการภูมิแพ้
โรคภูมิแพ้ทางเดินหายใจไม่จำเป็นต้องพึ่งยาปฏิชีวนะเสมอไป แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ การหลีกเลี่ยงไม่สัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้ที่เป็นสาเหตุ เพียงคุณพ่อคุณแม่ทำตามวิธีข้างล่าง ก็จะช่วยลดการเกิดอาการแพ้ได้ในระดับหนึ่ง





Tips by Sanyo
เทคนิคการเลือกเครื่องฟอกอากาศ
"สารก่อภูมิแพ้" และ "สารกระตุ้นภูมิแพ้" ที่แฝงตัวอยู่ในฝุ่นรอบตัวภายในบ้านและห้องนอน รวมถึงเชื้อไวรัสในอากาศ และฝุ่นควันมลพิษจากภายนอกบ้านที่หายใจเข้าไปทุกวัน อาจเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดอาการของโรคภูมิแพ้ทางเดินหายใจได้
ทางออกที่ดีที่สุดคือ การรักษาความสะอาดภายในบ้านและห้องนอนอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงอากาศที่หมุนเวียนภายในห้องก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญ หากคุณจำเป็นต้องใช้เครื่องฟอกอากาศแล้วล่ะก็ ควรมีวิธีการเลือกซื้อดังนี้




Check list









ขอขอบคุณข้อมูลจาก

Vol.15 No.180 ตุลาคม 2553