
โรคติกส์ โรคทางจิตผสมโรคทางกาย (modernmom)
โดย: ผศ.นพ.ชาตรี วิฑูรชาติ
อีกโรคหนึ่งที่พ่อคุณแม่ควรรู้จัก
ในบรรดาโรคต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับเจ้าหนูจะเป็นโรคทางกายเสียเป็นส่วนใหญ่ แต่ใช่ว่าโรคทางกายจะนำมาซึ่งความเจ็บป่วยอย่างเดียวเสียเมื่อไหร่ โรคทางจิตที่ผสมกับโรคทางกายก็สร้างความเจ็บไข้ให้กับเด็กเหมือนกัน เช่นเดียวกับชื่อโรคที่ดูไม่ค่อยคุ้นอย่าง โรคติกส์ หรือ Tices Disorders
รู้จักโรคติกส์
โรคติกส์ (อ่านออกเสียงว่า "ติ๊ก") เป็นโรคหนึ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรรู้จัก เพราะเป็นโรคที่พบบ่อย ซึ่งการที่คุณพ่อคุณแม่ที่รู้จักลักษณะอาการของโรคนี้ จะสามารถสังเกตเห็น และพอจะวินิจฉัยในเบื้องต้นได้ ซึ่งหากพบอาการแล้ว ก็สามารถที่จะพาลูกไปพบแพทย์เพื่อการตรวจรักษาได้รวดเร็วขึ้น และป้องกันผลเสียที่จะเกิดขึ้นกับอารมณ์ จิตใจของเด็กที่อาจเกิดตามมาได้ ถ้าไม่ได้รับการวินิจฉัยหรือได้รับการวินิจฉัยช้า
2 อาการบ่งบอกติกส์
ลักษณะสำคัญของโรคติกส์ คือมีอาการกระตุกเร็ว ๆ ของกล้ามเนื้อมัดย่อย ๆ (Motor Tics) ที่บริเวณใบหน้า, คอ, ไหล่ เช่น เด็กอาจจะขยิบตา กระตุกมุมปาก ยักไหล่ สะบัดคอ เปล่งเสียงแปลก ๆ (Vocal Tics) ทำเสียงกระแอม เสียงฟุตฟิตทางจมูก เสียงคล้ายสะอึก
สำหรับอาการจะเป็นแบบซ้ำ ๆ รูปแบบเดิมต่อเนื่องเป็นอาทิตย์ เดือนหรือปี ทำให้ดูเหมือนเด็กทำกิริยาแปลก ๆ ซึ่งโดยอาการที่เกิดขึ้นแล้วจะเป็นบ่อยมากชั่วโมงละหลายครั้ง หรือเด็กบางคนเป็นทุกนาที
โรคติกส์มีลักษณะที่แปลกอย่างหนึ่งคือ คนที่เป็นจะสามารถบังคับหักห้ามอาการได้ช่วงระยะหนึ่ง (partial inhibition) แต่ก็ช่วงไม่กี่นาที พอเผลอก็จะกลับมากระตุกอีก ทำให้คุณพ่อคุณแม่ยิ่งไม่เข้าใจว่าเด็กคุมอาการได้แต่ไม่ยอมคุม ขณะที่ตัวเด็กเองก็จะงงตัวเองเหมือนกัน ไม่แน่ใจว่าฉันตั้งใจทำหรือเปล่า ฉันสมควรถูกดุหรือไม่
ติกส์แบ่งได้ 3 ชนิด ตามระดับความรุนแรง คือ



ต้นตอก่อเกิดติกส์
ถึงตรงนี้คุณพ่อคุณแม่คงสงสัยว่า แล้วเจ้าโรคติกส์นี้มันเกิดจากอะไรกันนะ เดิมทีเคยเชื่อกันว่าโรคติกส์เกิดจากปัญหาทางอารมณ์จิตใจ จึงจัดโรคนี้อยู่ในกลุ่มโรคทางจิตเวช แต่จริง ๆ แล้วโรคเกิดจาก



นอกจากนั้น เด็กที่เป็นโรคติกส์จะมีโอกาสเป็นโรคบางชนิดสูงขึ้นกว่าเด็กทั่วไป เช่น โรคสมาธิสั้น โรคย้ำคิดย้ำทำ โรคกังวล พฤติกรรมหุนหัน (impulsive) เป็นต้น
ดูแลเมื่อเกิด...ติกส์




ถึงแม้ว่าลูกเกิดมีอาการติกส์ คุณพ่อคุณแม่ก็อย่าเพิ่งตกอกตกใจมากนัก เพราะนอกจากอาการดังกล่าวแล้ว โรคติกส์ไม่ได้ทำให้เกิดอันตรายต่อสมองหรือร่างกายอย่างอื่นใด เด็กสามารถเติบโต เรียนหนังสือ พัฒนาไปตามศักยภาพ ดำเนินชีวิตได้เหมือนเด็กปกติทุกประการ ยิ่งกว่านั้นโรคติกส์ส่วนใหญ่จะเป็นชนิดชั่วคราวคือหายไปเอง พบน้อยที่เป็นชนิดเรื้อรังที่จะเป็นหลาย ๆ ปี ยิ่งชนิดทูเรทท์ยิ่งพบน้อยมากประมาณ 0.05 - 0.1% เท่านั้น อีกทั้งปัจจุบันยังมียาใหม่ ๆ ที่มีผลข้างเคียงน้อยกว่ายาแต่ก่อนมาก เด็กที่เป็นติกส์จึงไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่โตอะไรเลยครับ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
