โบว์ แวนด้า เปิดใจ ปอ จากไป 2 ปี พร้อมฟังความในใจจากปาก พ่อแม่ ในวันที่เจอลูกสะใภ้คนนี้ครั้งแรก ด้านแม่ถาม เอาเรื่องจริงไหม เสียใจที่ความสุขของลูกมีเวลาน้อยมาก
แม้ตัวจะจากไปกว่า 2 ปีแล้ว แต่พระเอกผู้ล่วงลับ ปอ ทฤษฎี ก็ยังคงอยู่ในความทรงจำของใครหลายคน โดยเฉพาะแฟนคลับและคนในครอบครัวอย่างภรรยาสุดที่รัก โบว์ แวนด้า และลูกสาว น้องมะลิ พาขวัญ ล่าสุด โบว์ แวนด้า และ รศ.สงวน - คุณแม่พิศมัย สหวงษ์ คุณพ่อคุณแม่ของ หนุ่มปอ ก็ได้ออกมาเปิดใจแบบหมดเปลือก พร้อมเปิดไร่นาป่าสงวน ที่ จ.บุรีรัมย์ เป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปี หลังสูญเสีย หนุ่มปอ ในรายการ Woody World ช่อง Workpoint23
โดย โบว์ ได้เปิดใจถึงสามีสุดที่รักว่า ปอ เป็นคนรักครอบครัวมาก จะงกแต่กับตัวเอง แต่กับคนในครอบครัวจะทุ่มเทให้ทุกอย่าง คุณพ่อป่วยโรคหัวใจ ปอก็ซื้อที่ขนาดใหญ่ ทำไร่ป่าสงวน ให้คุณพ่อได้อยู่กับธรรมชาติ จนอาการดีขึ้น เวลาว่างของปอ คือ การกลับมาหาพ่อแม่ ส่วนตอนที่คบกันก็ไม่ถึงขั้นไม่ออกไปไหนด้วยกันเลย แต่ออกบ่อยมาก อาศัยเดินห่างกัน แล้วโทร. หากันมากกว่า ซึ่งตัวเขาเองก็รู้สึกผิดมากที่ไม่สามารถแสดงความรักกับลูกได้ในที่สาธารณะ ซึ่งเราเองก็รู้สึกผิดเหมือนกันที่ยืนยันให้เขาปิดเรื่องนี้
นอกจากนี้ โบว์ จะเล่าวินาทีที่ยากที่สุด กับการบอกลาปอครั้งสุดท้าย ช่วงที่เขาป่วย 70 วัน เป็นช่วงที่เราทุกข์ทรมานมาก เราถามหมอทุกวันว่า พี่ปอรอดไหมคะวันนี้ และทุกวันนี้ถึงแม้เขาจะจากไปแล้ว แต่สำหรับตนก็ยังรู้สึกว่าเขายังอยู่กับตน ทุกวันนี้บอกน้องมะลิ เสมอว่า พ่อคอยมองอยู่
ทางด้าน คุณแม่พิศมัย ก็ได้เปิดใจถึงวันแรกที่ปอพาลูกสะใภ้คนนี้มาแนะนำว่า จำได้ เอาเรื่องจริงไหม ผู้หญิงคนนี้ก็สวย เอ๊ะ ทำไมหน้าบึ้งจังเลย แม่เป็นคนขี้สงสาร ยิ่งเราได้ไปอยู่ด้วยกัน 70 วันนั้น ก็เข้าใจ ปอเขาจะยิ้มตลอดเวลาเห็นแม่คุยกับโบว์ ยิ่งพอมามีมะลิ แม่มาดูมะลิให้ เขายิ่งมีความสุข ยังเสียใจความสุขของเขาทำไมมันน้อย ความสุขของเขาคือการเห็นคนที่เขารักมีความสุข อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน ได้ยินเขาคุยกับเพื่อน เพื่อนถามปอก็มีตังค์ ทำไมไม่ไปซื้อบ้านหลังใหญ่ ๆ ให้โบว์เขาอยู่แบบมีความสุข ปอบอกไม่เอา เวลาเขาไปทำงานกลับดึก ๆ ผู้หญิง 3 คน คือ โบว์ แม่ มะลิ จะอยู่ยังไง
ส่วนทางด้าน
คุณพ่อสงวน ก็บอกว่า มันรู้สึกได้ พอโบว์มาอยู่กับเขาแล้ว เขาดีขึ้น
เขามีความสุข เขากลัวพ่อแม่จะไม่ชอบโบว์ พ่อก็บอกทำไมไปคิดอย่างนั้น
เรื่องบ้าน เขาห่วง เพราะหมู่บ้านที่เขาอยู่มันปลอดภัย จะให้เขาไปสร้างบ้าน
เขาก็ไม่เอา อยู่ตั้งแต่เขาเป็นนักศึกษา จนเป็นดารา อยู่มา 20-30 ปี
ทาวน์เฮ้าส์เล็ก ๆ รู้จักกันหมด ปูเสื่อกินข้าวกันกลางหมู่บ้าน
ไม่เหมือนกรุงเทพฯ เหมือนบุรีรัมย์ ทำให้เขานึกถึงบ้าน
คุณพ่อ ยังเผยว่า ตนก็ห่วงที่โบว์อยู่กับหลานที่กรุงเทพฯ ที่หนักสุดคือคิดถึง บางทีพาคุณย่าไปอยู่เป็นอาทิตย์เลย อาจจะมีคนตั้งข้อสังเกตว่า พวกเรายังอยู่ดีมีสุขด้วยกันไหม ระหว่างโบว์ที่อยู่ไกลกับหลาน แล้วเราที่อยู่ทางนี้ พูดได้เลยว่า ไม่เคยห่างกัน
ทั้งนี้ คุณพ่อ ยังบอกอีกว่า ที่ยังมีห่วงอีกก็คือเรื่องงาน คืออยู่กับปอเขามีประสบการณ์บ้าง มันไม่มีอะไรเท่าความจริงใจ ซื่อสัตย์ จริงใจกับทุกคน บางทีเงินไม่ได้สำคัญอย่างเดียว ถ้าอื่น ๆ มันดีเงินจะมาเอง เราไม่ดีสักอย่างมีแต่ความเลวร้ายมันจะเข้ามา แต่ตนเชื่ออย่างหนึ่งว่า โบว์ เป็นหญิงแกร่งคนหนึ่ง ก็เชื่อใจในความสามารถของเขา ในประสบการณ์ความฉลาดในการที่จะดูแลตัวเอง ดูแลหลาน และเรื่องต่าง ๆ
ภาพจาก WOODYTALK
แม้ตัวจะจากไปกว่า 2 ปีแล้ว แต่พระเอกผู้ล่วงลับ ปอ ทฤษฎี ก็ยังคงอยู่ในความทรงจำของใครหลายคน โดยเฉพาะแฟนคลับและคนในครอบครัวอย่างภรรยาสุดที่รัก โบว์ แวนด้า และลูกสาว น้องมะลิ พาขวัญ ล่าสุด โบว์ แวนด้า และ รศ.สงวน - คุณแม่พิศมัย สหวงษ์ คุณพ่อคุณแม่ของ หนุ่มปอ ก็ได้ออกมาเปิดใจแบบหมดเปลือก พร้อมเปิดไร่นาป่าสงวน ที่ จ.บุรีรัมย์ เป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปี หลังสูญเสีย หนุ่มปอ ในรายการ Woody World ช่อง Workpoint23
โดย โบว์ ได้เปิดใจถึงสามีสุดที่รักว่า ปอ เป็นคนรักครอบครัวมาก จะงกแต่กับตัวเอง แต่กับคนในครอบครัวจะทุ่มเทให้ทุกอย่าง คุณพ่อป่วยโรคหัวใจ ปอก็ซื้อที่ขนาดใหญ่ ทำไร่ป่าสงวน ให้คุณพ่อได้อยู่กับธรรมชาติ จนอาการดีขึ้น เวลาว่างของปอ คือ การกลับมาหาพ่อแม่ ส่วนตอนที่คบกันก็ไม่ถึงขั้นไม่ออกไปไหนด้วยกันเลย แต่ออกบ่อยมาก อาศัยเดินห่างกัน แล้วโทร. หากันมากกว่า ซึ่งตัวเขาเองก็รู้สึกผิดมากที่ไม่สามารถแสดงความรักกับลูกได้ในที่สาธารณะ ซึ่งเราเองก็รู้สึกผิดเหมือนกันที่ยืนยันให้เขาปิดเรื่องนี้
นอกจากนี้ โบว์ จะเล่าวินาทีที่ยากที่สุด กับการบอกลาปอครั้งสุดท้าย ช่วงที่เขาป่วย 70 วัน เป็นช่วงที่เราทุกข์ทรมานมาก เราถามหมอทุกวันว่า พี่ปอรอดไหมคะวันนี้ และทุกวันนี้ถึงแม้เขาจะจากไปแล้ว แต่สำหรับตนก็ยังรู้สึกว่าเขายังอยู่กับตน ทุกวันนี้บอกน้องมะลิ เสมอว่า พ่อคอยมองอยู่
ทางด้าน คุณแม่พิศมัย ก็ได้เปิดใจถึงวันแรกที่ปอพาลูกสะใภ้คนนี้มาแนะนำว่า จำได้ เอาเรื่องจริงไหม ผู้หญิงคนนี้ก็สวย เอ๊ะ ทำไมหน้าบึ้งจังเลย แม่เป็นคนขี้สงสาร ยิ่งเราได้ไปอยู่ด้วยกัน 70 วันนั้น ก็เข้าใจ ปอเขาจะยิ้มตลอดเวลาเห็นแม่คุยกับโบว์ ยิ่งพอมามีมะลิ แม่มาดูมะลิให้ เขายิ่งมีความสุข ยังเสียใจความสุขของเขาทำไมมันน้อย ความสุขของเขาคือการเห็นคนที่เขารักมีความสุข อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน ได้ยินเขาคุยกับเพื่อน เพื่อนถามปอก็มีตังค์ ทำไมไม่ไปซื้อบ้านหลังใหญ่ ๆ ให้โบว์เขาอยู่แบบมีความสุข ปอบอกไม่เอา เวลาเขาไปทำงานกลับดึก ๆ ผู้หญิง 3 คน คือ โบว์ แม่ มะลิ จะอยู่ยังไง
คุณพ่อ ยังเผยว่า ตนก็ห่วงที่โบว์อยู่กับหลานที่กรุงเทพฯ ที่หนักสุดคือคิดถึง บางทีพาคุณย่าไปอยู่เป็นอาทิตย์เลย อาจจะมีคนตั้งข้อสังเกตว่า พวกเรายังอยู่ดีมีสุขด้วยกันไหม ระหว่างโบว์ที่อยู่ไกลกับหลาน แล้วเราที่อยู่ทางนี้ พูดได้เลยว่า ไม่เคยห่างกัน
ทั้งนี้ คุณพ่อ ยังบอกอีกว่า ที่ยังมีห่วงอีกก็คือเรื่องงาน คืออยู่กับปอเขามีประสบการณ์บ้าง มันไม่มีอะไรเท่าความจริงใจ ซื่อสัตย์ จริงใจกับทุกคน บางทีเงินไม่ได้สำคัญอย่างเดียว ถ้าอื่น ๆ มันดีเงินจะมาเอง เราไม่ดีสักอย่างมีแต่ความเลวร้ายมันจะเข้ามา แต่ตนเชื่ออย่างหนึ่งว่า โบว์ เป็นหญิงแกร่งคนหนึ่ง ก็เชื่อใจในความสามารถของเขา ในประสบการณ์ความฉลาดในการที่จะดูแลตัวเอง ดูแลหลาน และเรื่องต่าง ๆ
ภาพจาก WOODYTALK