ทูน หิรัญทรัพย์ เปิดใจเคยเป็นโรคซึมเศร้า เคยเป็นหนักจนคิดโดดตึกฆ่าตัวตาย แต่ได้สติเพราะคำพูดของลูก เคลียร์ปมหย่าภรรยาเพราะความเจ้าชู้ จริงหรือ ??
- สมัยก่อนเป็นคนแรกในวงการบันเทิงที่ใช้คำว่า "คาสโนว่า" จริงไหม ?
- มีข่าวว่า "หย่ากับภรรยาที่คบกันมา 30 ปี" เกิดอะไรขึ้น ?
ทูน หิรัญทรัพย์ : จริง ๆ การใช้ชีวิตคู่ประมาณปีที่ 2-3 ก็จะรู้แล้ว ว่าคู่ที่เราเลือกมาเป็นยังไง อะไรต่าง ๆ เริ่มชัดเจน แล้วอาจจะเป็นเพราะว่าเราถูกอบรมมาตั้งแต่เด็ก ๆ ว่าเราต้องเป็นสุภาพบุรุษ เอาชีวิตใครมาแล้วก็ต้องดูแลเขา พอเราเริ่มชีวิตครอบครัวแล้วเราก็ต้องดูแลให้เต็มที่ อีกอย่างนึงคือเราก็เป็นคนรักลูก ก็กลายเป็นว่าเราต้องอยู่เพื่อลูกด้วยกัน แล้วก็อยู่กันมาเรื่อย ๆ จนถึงเวลาหนึ่งที่ลูกโตแล้ว ก็เลยต่างคนก็อยากจะใช้ชีวิตแบบอิสระ คือต่างคนต่างเข้าใจว่าถ้าอยู่ด้วยกันแล้วไม่มีความสุข มันก็จะทำให้จิตใจเราไม่ค่อยดี เพราะฉะนั้นดีที่สุดคือถ้าเราอยู่ห่างกันแล้วยังมีความสุขแบบนี้น่าจะโอเคกว่า
- เห็นบอกว่าตอนไปหย่า ลูกเป็นคนพาพ่อกับแม่ไปใช่ไหม ?
- ตอนนี้ถือว่าชีวิตนิ่ง และมีความสุขที่สุดไหม ?
ทูน หิรัญทรัพย์ : ถามว่านิ่งไหม ไม่นิ่งครับ เพราะว่า 7-8 ปีที่ผ่านมา พอเราอยู่ที่ออฟฟิศ ทำงานอย่างเดียว เราก็จะเห็นเป้าหมายของชีวิตเราได้ คือสร้างอะไรใหม่ ๆ มีนวัตกรรมด้านความคิดใหม่ ๆ เกิดขึ้น เราก็เลยลุยตรงนี้อย่างเดียวเลย
- งั้นแสดงว่าการหย่าเกิดขึ้นมานานแล้ว ?
- "หย่า" เพราะค้นพบตัวเองว่าเป็นเกย์หรือเปล่า ?
ทูน หิรัญทรัพย์ : จริง ๆ ข่าวนี้มีตั้งแต่หนุ่ม ๆ แล้วครับ เพราะเราเป็นพระเอกที่ไม่ได้เล่นกล้ามหรือมีหน้าอก สรีระเราไม่ได้แมน เป็นพระเอกสำอาง คนก็เลยคิดว่าเราอาจจะเป็นก็ได้ จริง ๆ แล้วเรื่องพวกนี้ในวงการเป็นเรื่องธรรมดามาก ผมมีเพื่อนเกย์เยอะมาก ทั้งที่เป็นดารานักแสดงและนอกวงการด้วย แต่ผมไม่ได้เป็นครับ
- จริง ๆ แล้วเป็นคนเจ้าชู้หรือเปล่า ?
ทูน หิรัญทรัพย์ : เราเป็นคนชื่นชมกับทุก ๆ คนนะ ชื่นชมกับความหล่อ ชื่นชมกับความสวย เราไม่กีดกั้นอะไรความคิดใหม่ ๆ ถามว่าเป็นคนเจ้าชู้ไหม ผมเป็นคนชอบมองของสวย ๆ งาม ๆ มากกว่า และเป็นคนที่จีบผู้หญิงไม่เป็น เพราะฉะนั้นจะเป็นคนเจ้าชู้ได้ยังไง
ทูน หิรัญทรัพย์ : มันมี 2 วัย คือวัยที่เด็กไปเลยกับผู้ใหญ่
คือวัยเด็กเราไม่ยุ่งอยู่แล้ว ต่ำกว่า 11 เพราะมันผิดกฎหมาย
คือสมัยก่อนจะเป็นเด็กนักเรียนที่แบบมาขอลายเซ็นอะไรแบบนี้
อีกกลุ่มนึงก็คือโตไปเลย 40-50 ขึ้น ซึ่งตอนนั้นเราอายุประมาณ 20 กว่า ๆ
เราก็คิดว่าอายุเยอะกว่าเรา จะไหวไหม ก็ประมาณนั้น
- ทั้งที่ชีวิตมีแทบทุกอย่าง ทำไมถึงเป็น "โรคซึมเศร้า" เกิดขึ้นได้ยังไง ?
- ถึงขนาดเคยคิด "ฆ่าตัวตาย" ด้วยใช่ไหม ?
ทูน หิรัญทรัพย์ : หลังจากนั้นมันก็หนักขึ้น ก็คิดทำร้ายตัวเอง เพราะชีวิตคนเราช่วงหนึ่งมันจะต้องมีช่วงดรอป ช่วงที่มันตกมาก ๆ เราก็ไม่รู้จะทำอะไร คิดว่าถ้าเราไม่อยู่ปัญหาทุกอย่างมันก็จะหายไป นั่นเป็นเพราะไม่มีคนคุยด้วย จะคุยกับภรรยา คุยกับลูกก็ไม่ได้ เพราะเราเป็นผู้นำ เราก็จะไม่กล้าคุย ไม่กล้าเปิดอกกับคนที่เราเลี้ยงดูเขาอยู่ ถึงขนาดหาวิธีที่ตายง่าย ๆ โดยไม่เจ็บตัว ที่มาเปิดเผยเพราะไม่อยากให้คนอื่นเป็นแบบเรานะ ถ้าเกิดมีอาการแบบนี้ให้รีบคุยกับใครสักคนหนึ่ง เดี๋ยวนี้หลาย ๆ โรงพยาบาลก็มี Call Center สมัยก่อนคนจะคิดว่าการไปหาหมอจิตแพทย์เป็นโรคจิตหรือเปล่า มันไม่ใช่นะ
- จุดไหนที่รู้สึกตัวแล้วทำให้กลับมาเป็นปกติ ?
- หลังจากนั้นใช้ชีวิตยังไง ?
ทูน หิรัญทรัพย์ : ก็ตัดสินใจไปพบจิตแพทย์ เพราะฉะนั้นอย่างที่บอกว่าเราคุยกับใครไม่ได้ ก็มีการให้ยาแล้วก็อะไรต่าง ๆ แล้วก็คุยกับเรา เราก็เลยได้รู้ว่าถ้าเราได้คุยหรือสื่อสารอะไรกับใครสักคน เป็นการระบายชนิดหนึ่ง เป็นการบอกความลับความนึกคิดของเราออกมาโดยที่เราไม่เคยปรึกษากับใคร เพราะฉะนั้นถ้าใครมีความคิดแบบนี้ ท้อใจหรืออะไรสักนิดหนึ่ง ให้โทร. ไปหาจิตแพทย์ได้เลย เขาจะช่วยหาทางออกให้เรา แต่ว่าเราต้องเลือกเอง เขาจะให้ Choice เรามา แล้วเราก็ต้องเลือกเพื่อหาทางออกให้กับตัวเองครับ
ติดตามรายการ คุยแซ่บShow ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 14.00-15.00 น. ทางช่อง One31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama
เคยโดนโรคซึมเศร้าเล่นงานอย่างหนัก ถึงขั้นคิดสั้นกันเลยทีเดียว
สำหรับนักแสดงรุ่นใหญ่ อย่าง ทูน หิรัญทรัพย์
แถมยังมีกระแสเมาท์แรงว่าเจ้าชู้ตัวพ่อ จนต้องหย่ากับภรรยา
ล่าสุดเจ้าตัวมาเปิดใจผ่านทางรายการ คุยแซ่บShow ทางช่อง One31 ที่มีพีเค
ปิยะวัฒน์ และหนิง ปณิตา เป็นพิธีกร
- สมัยก่อนเป็นคนแรกในวงการบันเทิงที่ใช้คำว่า "คาสโนว่า" จริงไหม ?
ทูน หิรัญทรัพย์ : คือสมัยก่อนต้องบอกว่าในประเทศไทยเนี่ย
การถูกเนื้อต้องตัวไม่ได้ เพราะประเพณีคนไทยถือว่าเป็นเรื่องแปลก
แล้วด้วยความที่เราเป็นเด็กหัวนอก เขาอาจจะคิดว่าเราเฟรนด์ลี่เกินไป
คิดแบบฝรั่งเกินไป ก็เลยอาจจะมองว่าเป็นคนเจ้าชู้
แต่ยุคนี้เป็นเรื่องธรรมดาแล้ว
- มีข่าวว่า "หย่ากับภรรยาที่คบกันมา 30 ปี" เกิดอะไรขึ้น ?
ทูน หิรัญทรัพย์ : จริง ๆ การใช้ชีวิตคู่ประมาณปีที่ 2-3 ก็จะรู้แล้ว ว่าคู่ที่เราเลือกมาเป็นยังไง อะไรต่าง ๆ เริ่มชัดเจน แล้วอาจจะเป็นเพราะว่าเราถูกอบรมมาตั้งแต่เด็ก ๆ ว่าเราต้องเป็นสุภาพบุรุษ เอาชีวิตใครมาแล้วก็ต้องดูแลเขา พอเราเริ่มชีวิตครอบครัวแล้วเราก็ต้องดูแลให้เต็มที่ อีกอย่างนึงคือเราก็เป็นคนรักลูก ก็กลายเป็นว่าเราต้องอยู่เพื่อลูกด้วยกัน แล้วก็อยู่กันมาเรื่อย ๆ จนถึงเวลาหนึ่งที่ลูกโตแล้ว ก็เลยต่างคนก็อยากจะใช้ชีวิตแบบอิสระ คือต่างคนต่างเข้าใจว่าถ้าอยู่ด้วยกันแล้วไม่มีความสุข มันก็จะทำให้จิตใจเราไม่ค่อยดี เพราะฉะนั้นดีที่สุดคือถ้าเราอยู่ห่างกันแล้วยังมีความสุขแบบนี้น่าจะโอเคกว่า
- เห็นบอกว่าตอนไปหย่า ลูกเป็นคนพาพ่อกับแม่ไปใช่ไหม ?
ทูน หิรัญทรัพย์ : ใช่ครับ คือจริง ๆ แล้วลูก ๆ
นี่อยู่ในเหตุการณ์เห็นคุณพ่อคุณแม่ร้องเพลงใส่กันตลอด (หัวเราะ)
เขาก็เลยบอกว่าถ้าอยู่ด้วยกันแล้วไม่มีความสุข
ก็ควรจะเดินคนละทางหรือแยกกันอยู่อะไรแบบนี้ แล้วเราก็คิดว่าอันนี้อาจจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดก็ได้ เพราะว่าสุขภาพจิตของลูก ๆ
ก็สำคัญมากกว่าของพวกเรา
- ตอนนี้ถือว่าชีวิตนิ่ง และมีความสุขที่สุดไหม ?
ทูน หิรัญทรัพย์ : ถามว่านิ่งไหม ไม่นิ่งครับ เพราะว่า 7-8 ปีที่ผ่านมา พอเราอยู่ที่ออฟฟิศ ทำงานอย่างเดียว เราก็จะเห็นเป้าหมายของชีวิตเราได้ คือสร้างอะไรใหม่ ๆ มีนวัตกรรมด้านความคิดใหม่ ๆ เกิดขึ้น เราก็เลยลุยตรงนี้อย่างเดียวเลย
- งั้นแสดงว่าการหย่าเกิดขึ้นมานานแล้ว ?
ทูน หิรัญทรัพย์ : ใช่ครับ ผ่านมา 10 กว่าปีแล้วครับ
คือถ้ามีการหย่าเกิดขึ้น คนที่เสียหายที่สุดไม่ว่าจะสังคมไหนก็แล้วแต่
คือฝ่ายผู้หญิง งั้นทำยังไงไม่ให้เขาเสียหาย ก็ต้องเก็บไว้เงียบ ๆ
แต่พอมาช่วงนี้คนก็อาจจะสังเกตเห็นว่าเราไม่ได้ไปแบบครอบครัวเหมือนสมัยก่อน
ก็เลยมีคำถามเกิดขึ้น เราก็เลยต้องบอกความจริง
- "หย่า" เพราะค้นพบตัวเองว่าเป็นเกย์หรือเปล่า ?
ทูน หิรัญทรัพย์ : จริง ๆ ข่าวนี้มีตั้งแต่หนุ่ม ๆ แล้วครับ เพราะเราเป็นพระเอกที่ไม่ได้เล่นกล้ามหรือมีหน้าอก สรีระเราไม่ได้แมน เป็นพระเอกสำอาง คนก็เลยคิดว่าเราอาจจะเป็นก็ได้ จริง ๆ แล้วเรื่องพวกนี้ในวงการเป็นเรื่องธรรมดามาก ผมมีเพื่อนเกย์เยอะมาก ทั้งที่เป็นดารานักแสดงและนอกวงการด้วย แต่ผมไม่ได้เป็นครับ
- จริง ๆ แล้วเป็นคนเจ้าชู้หรือเปล่า ?
ทูน หิรัญทรัพย์ : เราเป็นคนชื่นชมกับทุก ๆ คนนะ ชื่นชมกับความหล่อ ชื่นชมกับความสวย เราไม่กีดกั้นอะไรความคิดใหม่ ๆ ถามว่าเป็นคนเจ้าชู้ไหม ผมเป็นคนชอบมองของสวย ๆ งาม ๆ มากกว่า และเป็นคนที่จีบผู้หญิงไม่เป็น เพราะฉะนั้นจะเป็นคนเจ้าชู้ได้ยังไง
- ตั้งแต่เป็นพระเอกมา ผู้หญิงวิ่งเข้ามาหาพร้อมกันมากที่สุดกี่คน ?
- ทั้งที่ชีวิตมีแทบทุกอย่าง ทำไมถึงเป็น "โรคซึมเศร้า" เกิดขึ้นได้ยังไง ?
ทูน หิรัญทรัพย์ : คือไม่ใช่ทุกคนที่ชีวิตจะประสบความสำเร็จ
มันก็ต้องมีการเดินไปแล้วล้มบ้าง การที่เฟลครั้งหนึ่งในชีวิต
มันทำให้เราแบบ เฮ้ย ! เกิดอะไรขึ้น ทำไมชีวิตครอบครัวเราเป็นแบบนี้
เราจะต้องมีใหม่ไหม ทุกอย่างมันถาโถมเข้ามา แล้วเราจะเอายังไงดี มันก็สับสน
มันก็เลยเกิดเป็นคำว่าโรคซึมเศร้าขึ้น เพราะเราอยากหนีไปเลย
อยากมีโลกใหม่อีกใบ อยากอยู่คนเดียวเงียบ ๆ ตอนนั้นก็ดื่มเหล้าหนัก ดื่ม 10
กว่าชนิด ก็น็อกไปเลย
หลังจากนั้นก็รู้ลิมิตตัวเองว่าเราสามารถดื่มได้แค่ไหน
- ถึงขนาดเคยคิด "ฆ่าตัวตาย" ด้วยใช่ไหม ?
ทูน หิรัญทรัพย์ : หลังจากนั้นมันก็หนักขึ้น ก็คิดทำร้ายตัวเอง เพราะชีวิตคนเราช่วงหนึ่งมันจะต้องมีช่วงดรอป ช่วงที่มันตกมาก ๆ เราก็ไม่รู้จะทำอะไร คิดว่าถ้าเราไม่อยู่ปัญหาทุกอย่างมันก็จะหายไป นั่นเป็นเพราะไม่มีคนคุยด้วย จะคุยกับภรรยา คุยกับลูกก็ไม่ได้ เพราะเราเป็นผู้นำ เราก็จะไม่กล้าคุย ไม่กล้าเปิดอกกับคนที่เราเลี้ยงดูเขาอยู่ ถึงขนาดหาวิธีที่ตายง่าย ๆ โดยไม่เจ็บตัว ที่มาเปิดเผยเพราะไม่อยากให้คนอื่นเป็นแบบเรานะ ถ้าเกิดมีอาการแบบนี้ให้รีบคุยกับใครสักคนหนึ่ง เดี๋ยวนี้หลาย ๆ โรงพยาบาลก็มี Call Center สมัยก่อนคนจะคิดว่าการไปหาหมอจิตแพทย์เป็นโรคจิตหรือเปล่า มันไม่ใช่นะ
- จุดไหนที่รู้สึกตัวแล้วทำให้กลับมาเป็นปกติ ?
ทูน หิรัญทรัพย์ : คือตอนที่เราอยู่บนดาดฟ้ายอดตึกที่สูงประมาณ 40
กว่าชั้น แกล้งบอกเขาว่าจะขึ้นไปดูโลเคชั่นถ่ายหนัง ระหว่างทางก็คิดตลอด
จะทำดีไหม มันก็มีความคิดหนึ่งแวบเข้ามา คือคำว่า
หนูอยากให้ป๊าอยู่ให้ถึงเห็นหนูวันรับปริญญา มันก็เลยได้สติมา
แล้วก็อยากจะอยู่ให้ถึงวันนั้น
- หลังจากนั้นใช้ชีวิตยังไง ?
ทูน หิรัญทรัพย์ : ก็ตัดสินใจไปพบจิตแพทย์ เพราะฉะนั้นอย่างที่บอกว่าเราคุยกับใครไม่ได้ ก็มีการให้ยาแล้วก็อะไรต่าง ๆ แล้วก็คุยกับเรา เราก็เลยได้รู้ว่าถ้าเราได้คุยหรือสื่อสารอะไรกับใครสักคน เป็นการระบายชนิดหนึ่ง เป็นการบอกความลับความนึกคิดของเราออกมาโดยที่เราไม่เคยปรึกษากับใคร เพราะฉะนั้นถ้าใครมีความคิดแบบนี้ ท้อใจหรืออะไรสักนิดหนึ่ง ให้โทร. ไปหาจิตแพทย์ได้เลย เขาจะช่วยหาทางออกให้เรา แต่ว่าเราต้องเลือกเอง เขาจะให้ Choice เรามา แล้วเราก็ต้องเลือกเพื่อหาทางออกให้กับตัวเองครับ
ติดตามรายการ คุยแซ่บShow ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 14.00-15.00 น. ทางช่อง One31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama