เปิดเส้นทางสู่สายงาน ช่างแต่งหน้า อาชีพอิสระรายได้ดีที่หลายคนกำลังสนใจ ใครที่มีความฝันและใจรักในศิลปะการแต่งหน้า งานนี้ห้ามพลาดเด็ดขาด
ถือเป็นหนึ่งในอาชีพที่มีคนจับตามองมากที่สุดในตอนนี้เลยทีเดียว สำหรับ ช่างแต่งหน้า หรือ Makeup Artist ที่นอกจากจะชื่อเสียง และรายได้ให้ตัวเองเป็นกอบเป็นกำแล้ว ยังเป็นอาชีพที่มีอิสระในการทำงาน รวมถึงมีโอกาสได้พบกับคนดังมากมายในทุกวงการอีกด้วย แต่กว่าจะได้ไปอยู่ในจุดที่ประสบความสำเร็จแบบนั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่าย วันนี้กระปุกดอทคอมเลยขอจัดเต็ม รวบรวม 5 เคล็ดลับการเตรียมตัวสู่การเป็นช่างแต่งหน้ามืออาชีพมาฝากกัน พร้อมตอบคำถามว่ามีสถาบันไหนที่เปิดสอนหลักสูตรวิชาสอนแต่งหน้าบ้าง ใครรู้ตัวว่ามีอยากเป็นเจ้าแม่แห่งวงการเครื่องสำอาง ตามเรามาทางนี้เลยจ้าา..
อยากเป็นช่างแต่งหน้า ต้องเตรียมตัวอะไรบ้าง ?
เพราะเป็นอาชีพที่เน้นทักษะเฉพาะตัว "การเรียนรู้ การฝึกฝน ประสบการณ์ และใจรัก" จึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด แต่การเริ่มต้นเตรียมความพร้อมก็สำคัญไม่แพ้กัน เราเลยรวบรวม 5 เสต็ปการเตรียมตัวง่าย ๆ มาฝาก มาดูกันสิว่าจุดเริ่มต้นสู่การเป็นช่างแต่งหน้ามืออาชีพ ต้องทำยังไงบ้าง..
1. เรียนรู้สั่งสมวิชา
ศิลปะการแต่งหน้าอาจฟังดูเป็นเรื่องง่ายที่ใคร ๆ ก็แต่งได้ แต่หากคุณอยากเป็นช่างแต่งหน้ามืออาชีพอย่างจริงจัง ก็ต้องอาศัยความรู้ ความสามารถ ทั้งทางทฤษฎีและปฏิบัติ เริ่มตั้งแต่ทำความรู้จักอุปกรณ์แต่งหน้า ทฤษฎีสี การลงแสงและเงา รู้จักโครงสร้างใบหน้าที่แตกต่างกันของมนุษย์ รวมถึงศึกษาการใช้เครื่องสำอางแต่ละประเภทให้ถูกต้องและถูกจุด หากไม่มีทุนในการสมัครเรียน ก็สามารถหาคลิปสอนตามโซเชียลมีเดียได้เยอะแยะเลยค่ะ
2. เตรียมเครื่องมือหากินให้พร้อม
ถ้าทหารมีปืนในสนามรบ ช่างแต่งหน้าก็มีอุปกรณ์และเครื่องสำอางนี่แหละเป็นอาวุธ จะใช้แบรนด์ไหนค่อยว่ากัน แต่ควรมีเครื่องสำอางพื้นฐานติดตัวไว้ก่อน อย่างพวก รองพื้น, คอนซีลเลอร์, แป้งฝุ่นหรือแป้งพัฟ, อายแชโดว์, อายไลเนอร์, มาสคาร่า, ลิปสติก และบลัชออน ที่สำคัญต้องมีหลายเฉดสีสำหรับสีผิวที่แตกต่างกันอีกด้วย หลังจากนั้น ค่อยสะสมอุปกรณ์เพิ่มลูกเล่นอื่น ๆ เช่น กลิตเตอร์, ขนตาปลอม หรือของตกแต่งแฟนซีต่าง ๆ
3. ฝึกฝนและสั่งสมประสบการณ์
นอกจากคอยอัปเดตว่าเทรนด์แต่งหน้าไหนกำลังมาแรงแล้ว ก็ควรฝึกฝนทักษะของตัวเองอยู่เป็นประจำ ไม่ว่าจะลองแต่งหน้าให้ตัวเองหรือคนรอบข้าง เพื่อฝีมือที่ดีและนิ่งยิ่งขึ้น ทั้งยังทำให้รู้ด้วยอีกว่าตัวเราถนัดแต่งสไตล์ไหน มีจุดดีและจุดด้อยคืออะไร จะได้นำมาแก้ไข ปรับปรุง และพัฒนาต่อไป แล้วก็อย่าลืมเก็บภาพผลงานของตัวเองทั้งหมดไว้ เผื่อสามารถนำไปต่อยอดสู่เส้นทางช่างแต่งหน้ามืออาชีพได้ในอนาคต
4. เลือกสายงานที่รัก
ช่างแต่งหน้า ก็มีสายงานมากมายไม่ต่างอะไรกับอาชีพอื่น อย่างเช่น ช่างแต่งหน้าในงานแต่งงาน, งานรับปริญญา, ช่างแต่งหน้าในวงการบันเทิง, วงการแฟชั่นรันเวย์, ช่างแต่งหน้าเทคนิคพิเศษ หรือช่างแต่งหน้าประจำแบรนด์เครื่องสำอาง ซึ่งหากคุณรู้ตัวแล้วว่าชอบและถนัดการแต่งหน้าสไตล์ไหน ก็ให้มุ่งหน้าฝึกฝนรวมถึงเรียนรู้ในทักษะที่เกี่ยวข้องกับสายนั้นไปด้วยเลย เพราะการมีความรู้เฉพาะทางแบบนี้จะยิ่งเพิ่มรายได้มากขึ้นด้วยค่ะ
5. สร้างเอกลักษณ์ หาคอนเน็กชั่นให้ตนเอง
ไม่ว่าคุณจะมีฝีมือระดับเทพมหากาฬขนาดไหน แต่ถ้าไม่ประกาศให้คนอื่นรู้ก็เท่านั้น ครั้นจะอาศัยให้ลูกค้าแนะนำคุณแบบปากต่อปากอย่างเดียวก็ไม่พอ คุณควรเปิดเว็บไซต์หรือโซเชียลมีเดีย เพื่อเป็นช่องทางโฆษณาตัวเอง ทั้งยังเป็นพื้นที่รวบรวมผลงานที่สามารถบอกได้ว่าคุณมีประสบการณ์มามากเท่าไร นอกจากจะดึงดูดให้ลูกค้าสนใจแล้ว ยังทำให้คุณดูน่าเชื่อถือ เพิ่มโอกาสให้มีงานเข้ามาไม่ขาดมืออีกด้วย
อยากเป็นช่างแต่งหน้า ต้องเรียนอะไร ?
ใครมั่นใจแล้วว่าจะยึดอาชีพช่างแต่งหน้าเป็นอาชีพหลัก ไม่ใช่งานอดิเรกหรือหารายได้เสริม ก็ควรเลือกสมัครสถาบันวิชาชีพที่สอนการแต่งหน้าโดยเฉพาะ จะได้เรียนรู้ทักษะทั้งทางทฤษฎีและทางปฏิบัติอย่างเข้มข้น รวมถึงมีโอกาสได้ออกงานฝึกฝนฝีมืออย่างจริงจัง โดยมีผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด ซึ่งเราก็รวบรวมสถาบันที่มีหลักสูตรน่าสนใจมาให้ ดังนี้ค่ะ
- Make Up Art And Technique School
- Scandinavian Makeup Studio
- International Makeup Fashion Artist
- MTI Make Uo School
- Tiny Make Up Academy
อยากเป็นช่างแต่งหน้า เรียนคณะอะไร ?
หากคุณอยากเป็นช่างแต่งหน้าและสนใจสายงานในวงการบันเทิง การเลือกเรียนมหาวิทยาลัยที่มีสาขาวิชาการละคร หรือศิลปะการแสดง จะทำให้คุณมีความรู้รอบด้านนอกเหนือจากการแต่งหน้า อย่างเช่นการออกแบบเสื้อผ้า หรือการออกแบบทรงผม แต่อาจเจอวิชาที่ไม่เกี่ยวข้องอย่าง การแสดง, เขียนบท, การกำกับด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้นควรถามตัวเองดูก่อนว่าในอนาคตอยากทำอะไรกันแน่ แล้วอย่าลืมศึกษาหลักสูตรของคณะนั้นให้ดี จะได้ไม่ต้องรู้สึกเสียดายและเสียเวลาภายหลัง โดยมหาวิทยาลัยที่มีลักสูตรเกี่ยวข้องกับการแต่งหน้า มีดังนี้
- มหาวิทยาลัยศรีปทุม คณะนิเทศศาสตร์ สาขาศิลปะการแสดง
- มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ คณะศิลปกรรมศาสตร์ สาขาวิชาศิลปะการแสดง
- มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ สาขาวิชาการละคอน
- จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณะอักษรศาสตร์ สาขาวิชาศิลปการละคร
- มหาวิทยาลัยทักษิณ คณะศิลปกรรมศาสตร์ สาขาศิลปะการแสดง
ถ้ามั่นใจแล้วว่าอาชีพช่างแต่งหน้าคือความฝันของเราจริง ๆ ก็รีบเตรียมตัวลุยกันให้เต็มเหนี่ยวไปเลย เพราะการได้ทำงานในสิ่งที่ตัวเองรักนี่แหละ คืออะไรที่มีความสุขที่สุด ! กระปุกดอทคอมก็ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนด้วยนะคะ ^^
ข้อมูลจาก : qcmakeupacademy.com, doobydesign.com, onlinemakeupacademy.com
อยากเป็นช่างแต่งหน้า ต้องเตรียมตัวอะไรบ้าง ?
เพราะเป็นอาชีพที่เน้นทักษะเฉพาะตัว "การเรียนรู้ การฝึกฝน ประสบการณ์ และใจรัก" จึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด แต่การเริ่มต้นเตรียมความพร้อมก็สำคัญไม่แพ้กัน เราเลยรวบรวม 5 เสต็ปการเตรียมตัวง่าย ๆ มาฝาก มาดูกันสิว่าจุดเริ่มต้นสู่การเป็นช่างแต่งหน้ามืออาชีพ ต้องทำยังไงบ้าง..
ศิลปะการแต่งหน้าอาจฟังดูเป็นเรื่องง่ายที่ใคร ๆ ก็แต่งได้ แต่หากคุณอยากเป็นช่างแต่งหน้ามืออาชีพอย่างจริงจัง ก็ต้องอาศัยความรู้ ความสามารถ ทั้งทางทฤษฎีและปฏิบัติ เริ่มตั้งแต่ทำความรู้จักอุปกรณ์แต่งหน้า ทฤษฎีสี การลงแสงและเงา รู้จักโครงสร้างใบหน้าที่แตกต่างกันของมนุษย์ รวมถึงศึกษาการใช้เครื่องสำอางแต่ละประเภทให้ถูกต้องและถูกจุด หากไม่มีทุนในการสมัครเรียน ก็สามารถหาคลิปสอนตามโซเชียลมีเดียได้เยอะแยะเลยค่ะ
2. เตรียมเครื่องมือหากินให้พร้อม
ถ้าทหารมีปืนในสนามรบ ช่างแต่งหน้าก็มีอุปกรณ์และเครื่องสำอางนี่แหละเป็นอาวุธ จะใช้แบรนด์ไหนค่อยว่ากัน แต่ควรมีเครื่องสำอางพื้นฐานติดตัวไว้ก่อน อย่างพวก รองพื้น, คอนซีลเลอร์, แป้งฝุ่นหรือแป้งพัฟ, อายแชโดว์, อายไลเนอร์, มาสคาร่า, ลิปสติก และบลัชออน ที่สำคัญต้องมีหลายเฉดสีสำหรับสีผิวที่แตกต่างกันอีกด้วย หลังจากนั้น ค่อยสะสมอุปกรณ์เพิ่มลูกเล่นอื่น ๆ เช่น กลิตเตอร์, ขนตาปลอม หรือของตกแต่งแฟนซีต่าง ๆ
นอกจากคอยอัปเดตว่าเทรนด์แต่งหน้าไหนกำลังมาแรงแล้ว ก็ควรฝึกฝนทักษะของตัวเองอยู่เป็นประจำ ไม่ว่าจะลองแต่งหน้าให้ตัวเองหรือคนรอบข้าง เพื่อฝีมือที่ดีและนิ่งยิ่งขึ้น ทั้งยังทำให้รู้ด้วยอีกว่าตัวเราถนัดแต่งสไตล์ไหน มีจุดดีและจุดด้อยคืออะไร จะได้นำมาแก้ไข ปรับปรุง และพัฒนาต่อไป แล้วก็อย่าลืมเก็บภาพผลงานของตัวเองทั้งหมดไว้ เผื่อสามารถนำไปต่อยอดสู่เส้นทางช่างแต่งหน้ามืออาชีพได้ในอนาคต
4. เลือกสายงานที่รัก
ช่างแต่งหน้า ก็มีสายงานมากมายไม่ต่างอะไรกับอาชีพอื่น อย่างเช่น ช่างแต่งหน้าในงานแต่งงาน, งานรับปริญญา, ช่างแต่งหน้าในวงการบันเทิง, วงการแฟชั่นรันเวย์, ช่างแต่งหน้าเทคนิคพิเศษ หรือช่างแต่งหน้าประจำแบรนด์เครื่องสำอาง ซึ่งหากคุณรู้ตัวแล้วว่าชอบและถนัดการแต่งหน้าสไตล์ไหน ก็ให้มุ่งหน้าฝึกฝนรวมถึงเรียนรู้ในทักษะที่เกี่ยวข้องกับสายนั้นไปด้วยเลย เพราะการมีความรู้เฉพาะทางแบบนี้จะยิ่งเพิ่มรายได้มากขึ้นด้วยค่ะ
5. สร้างเอกลักษณ์ หาคอนเน็กชั่นให้ตนเอง
ไม่ว่าคุณจะมีฝีมือระดับเทพมหากาฬขนาดไหน แต่ถ้าไม่ประกาศให้คนอื่นรู้ก็เท่านั้น ครั้นจะอาศัยให้ลูกค้าแนะนำคุณแบบปากต่อปากอย่างเดียวก็ไม่พอ คุณควรเปิดเว็บไซต์หรือโซเชียลมีเดีย เพื่อเป็นช่องทางโฆษณาตัวเอง ทั้งยังเป็นพื้นที่รวบรวมผลงานที่สามารถบอกได้ว่าคุณมีประสบการณ์มามากเท่าไร นอกจากจะดึงดูดให้ลูกค้าสนใจแล้ว ยังทำให้คุณดูน่าเชื่อถือ เพิ่มโอกาสให้มีงานเข้ามาไม่ขาดมืออีกด้วย
ใครมั่นใจแล้วว่าจะยึดอาชีพช่างแต่งหน้าเป็นอาชีพหลัก ไม่ใช่งานอดิเรกหรือหารายได้เสริม ก็ควรเลือกสมัครสถาบันวิชาชีพที่สอนการแต่งหน้าโดยเฉพาะ จะได้เรียนรู้ทักษะทั้งทางทฤษฎีและทางปฏิบัติอย่างเข้มข้น รวมถึงมีโอกาสได้ออกงานฝึกฝนฝีมืออย่างจริงจัง โดยมีผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด ซึ่งเราก็รวบรวมสถาบันที่มีหลักสูตรน่าสนใจมาให้ ดังนี้ค่ะ
- Make Up Art And Technique School
- Scandinavian Makeup Studio
- International Makeup Fashion Artist
- MTI Make Uo School
- Tiny Make Up Academy
อยากเป็นช่างแต่งหน้า เรียนคณะอะไร ?
หากคุณอยากเป็นช่างแต่งหน้าและสนใจสายงานในวงการบันเทิง การเลือกเรียนมหาวิทยาลัยที่มีสาขาวิชาการละคร หรือศิลปะการแสดง จะทำให้คุณมีความรู้รอบด้านนอกเหนือจากการแต่งหน้า อย่างเช่นการออกแบบเสื้อผ้า หรือการออกแบบทรงผม แต่อาจเจอวิชาที่ไม่เกี่ยวข้องอย่าง การแสดง, เขียนบท, การกำกับด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้นควรถามตัวเองดูก่อนว่าในอนาคตอยากทำอะไรกันแน่ แล้วอย่าลืมศึกษาหลักสูตรของคณะนั้นให้ดี จะได้ไม่ต้องรู้สึกเสียดายและเสียเวลาภายหลัง โดยมหาวิทยาลัยที่มีลักสูตรเกี่ยวข้องกับการแต่งหน้า มีดังนี้
- มหาวิทยาลัยศรีปทุม คณะนิเทศศาสตร์ สาขาศิลปะการแสดง
- มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ คณะศิลปกรรมศาสตร์ สาขาวิชาศิลปะการแสดง
- มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ สาขาวิชาการละคอน
- จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณะอักษรศาสตร์ สาขาวิชาศิลปการละคร
- มหาวิทยาลัยทักษิณ คณะศิลปกรรมศาสตร์ สาขาศิลปะการแสดง
ข้อมูลจาก : qcmakeupacademy.com, doobydesign.com, onlinemakeupacademy.com