บลัชออน คืออะไร คำถามที่มือใหม่หัดแต่งอยากรู้ เรามีคำตอบพร้อมเทคนิคการเลือกใช้ให้สาว ๆ ได้มีพวงแก้มสวยเป๊ะมาฝากกัน
ได้ยินชื่อเสียงกันมาเนิ่นนาน ว่าเป็นไอเทมติดกระเป๋าที่สาว ๆ ทุกคนขาดไม่ได้เลย สำหรับ "บลัชออน" เครื่องสำอางที่รู้จักกันดีว่าช่วยเสกลุคสวยใส ให้พวงแก้มนั้นดูสุขภาพดี มีสีแดงระเรื่ออย่างเป็นธรรมชาติ แต่สำหรับมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มหัดแต่งหน้าคงยังไม่คุ้นหูกันเท่าไรนัก มาค่ะ ! วันนี้กระปุกดอทคอมจะขออาสา พาทุกคนไปรู้จักกับบิ้วตี้ไอเทมยอดฮิตตัวนี้กันให้มากขึ้น ถ้าคุณกำลังสงสัยว่าบลัชออน คืออะไร ทำมาจากอะไร ก็ไม่ควรพลาดทุกประการ แถมเรายังมีเคล็ดลับการเลือกใช้บลัชออนให้เข้ากับสภาพผิว และการปัดบลัชออนให้เข้ากับรูปหน้าเป็นของแถมให้อีกด้วย ว่าแล้วก็อย่ารอช้า ตามไปดูเกร็ดความรู้ดี ๆ กันเลยดีกว่าค่ะ ^^
บลัชออน คืออะไร ทำมาจากอะไร ?
บลัชออน (Blush on) คือเครื่องสำอางสำหรับใช้ปัดบริเวณแก้ม เน้นผลิตเฉดสีโทนส้ม ชมพู และแดง เพื่อให้ผิวหน้าดูสุขภาพดี มีเลือดฝาด ดูมีชีวิตชีวามากขึ้น ทั้งยังช่วยปรับโครงหน้าให้เรียวลง คมชัด แถมขับผิวให้เปล่งปลั่ง สดใส และหน้าอ่อนกว่าวัยยิ่งกว่าเดิมอีกด้วย ซึ่งความเป็นจริง ในวงการเครื่องสำอางจะเรียกว่า บลัชเชอร์ (Blusher) มาจากคำภาษาอังกฤษคือ Blush ที่แปลว่าเขินจนหน้าแดง แต่คนไทยนิยมเรียกติดปากว่า บลัชออน ที่เป็นชื่อเทคนิกของการนำบลัชเชอร์มาปัดแก้ม ให้ใบหน้าดูมีโหนกแก้ม มีสันแก้ม และมีสีสันมากขึ้นนั่นเอง
โดยบลัชออน เกิดจากการนำผงสีหรือพิกเมนต์สีมาผสมกับผงแป้งและกรดไขมันสกัดจากธรรมชาติอย่างสัตว์ หรือผักผลไม้ เพื่อทำให้เนื้อของบลัชออนมีความเนียนนุ่ม ชุ่มชื้น ใช้ทาได้สะดวกนอกจากนี้ยังมีสารประกอบต่าง ๆ จำพวกไมกา (Mica), ซิงก์ออกไซด์ (Zinc Oxcide) และไททาเนียมออกไซด์ (Titanium Oxcide) ที่ช่วยให้ตัวพิกเมนต์มีสีที่โดดเด่น แจ่มชัดมากยิ่งขึ้นรวมอยู่ด้วย ซึ่งตัวผงสีที่ผ่านการรับรองมาตรฐานว่าปลอดภัย จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยามีมากเกือบ 100 สี ทำให้บลัชออนสมัยนี้ มีเฉดสีให้เลือกซื้อมากมายอย่างที่เห็นกัน
ประเภทของบลัชออน
เมื่อได้รู้จักกันไปแล้วว่าบลัชออนคืออะไร คราวนี้มาดู 3 ประเภทบลัชออนที่ควรรู้จักกันดีกว่า จะได้รู้ว่าควรเลือกใช้แบบไหนให้เข้ากับสภาพผิวของเรามากที่สุด
1. บลัชออนแบบฝุ่น เป็นประเภทที่ตัวเนื้อมีสัมผัสแห้ง เหมาะสำหรับสาวที่มีผิวหน้ามัน เพราะจะช่วยดักความมันส่วนเกินบนใบหน้าได้ แต่แนะนำให้ปัดหลังจากเสร็จขั้นตอนทารองพื้นและลงแป้งแล้ว ไม่อย่างนั้นความมันส่วนเกินบนใบหน้าอาจทำให้บลัชออนเลือนหายในระหว่างวันได้ นอกจากนี้ไม่ควรปัดในปริมาณมากจนเกินไป เพราะจะทำให้หน้าดูแดงแบบไม่เป็นธรรมชาติ แถมยังต้องเสียเวลาลงแป้งทับอีกครั้งด้วย
2. บลัชออนแบบครีม ด้วยความที่ตัวเนื้อเป็นเจลกึ่งเหลว จึงควรทาหลังลงรองพื้นและก่อนลงแป้งฝุ่น สำหรับสาวผิวแห้งแนะนำให้ซื้อสูตรที่มีส่วนผสมสำหรับเพิ่มความชุ่มชื้นมาใช้ ส่วนสาวผิวมันควรเป็นสูตรเนื้อแมตต์ จะช่วยทำให้บลัชออนติดทนนาน และเข้ากับสภาพผิวของเรามากที่สุด
3. บลัชออนแบบน้ำ ตัวเนื้อนั้นจะเป็นแบบเหลว ควรใช้หลังทารองพื้น และเหมาะสำหรับสาวผิวแห้งที่ชอบลุคอวดผิวโกลว์ หรือหน้าฉ่ำ ๆ สไตล์สาวเกาหลี ที่ไม่เน้นลงแป้งฝุ่นอะไรมากมาย แต่ตอนใช้ต้องเกลี่ยให้ดี ไม่อย่างนั้นจะทำให้หน้าของเราดูด่าง เป็นจ้ำ ๆ เหมือนโดนยุงกัดแทน สาว ๆ อาจใช้เทคนิกแตะบลัชออนลงไปที่ฟองน้ำก่อนนำมาโบ๊ะบนใบหน้าก็ได้ค่ะ จะช่วยให้ดูสวยเนียนยิ่งขึ้น
วิธีเลือกเฉดบลัชออนให้เข้ากับสีผิว
- สีผิวขาว ควรใช้บลัชออนโทนสีเบา ๆ อย่าง ชมพูอ่อน, ชมพูพีช, ส้มอ่อน, ส้มพีช และสีส้มอมชมพู พวกเฉด light coral จะทำให้ได้ลุคที่ไม่ดูแดงโอเวอร์จนเกินไป และสวยเป็นธรรมชาติมากที่สุด
- สีผิวแทนหรือสีผิวเข้มกลาง ควรใช้บลัชออนโทนสีชมพูกับส้มเหมือนกับสาวผิวขาว แต่สามารถเลือกใช้สีที่เข้มขึ้นอีกหนึ่งเฉด อย่างพวกชมพูบานเย็น หรือชมพูอมม่วงตุ่น ๆ อย่างเฉด Mauve ได้เหมือนกัน
- สีผิวเข้ม ควรใช้บลัชออนโทนสีสว่างสดใส อย่างสีแดงเลือดนกหมู สีส้มอิฐ และสีน้ำตาลอมแดงหรืออมส้ม เพื่อขับผิวให้ดูเปล่งประกาย สดใส มีสีสันมากขึ้น
วิธีปัดบลัชออนให้เข้ากับรูปหน้า
- ใบหน้ารูปไข่ ปัดบลัชออนบริเวณเหนือโหนกแก้ม ลากเป็นแนวจากกึ่งกลางข้างจมูก เฉียงขึ้นไปจนถึงแนวเดียวกับหางตา จะช่วยเน้นให้สีของบลัชออนดูโดดเด่นมากขึ้นเวลายิ้ม
- ใบหน้ากลม ให้ปัดบลัชออนเหนือโหนกแก้มเหมือนกับคนที่มีหน้ารูปไข่ แต่ต้องปัดเป็นแนวเฉียงเริ่มจากข้างไรผมมาจนถึงกลางใบหน้า เพื่อเน้นบริเวณกรอบหน้าให้หน้าดูเรียวลง และเป็นรูปสวยมากขึ้น
- ใบหน้าเหลี่ยม ให้ปัดบลัชออนตรงกับโหนกแก้มเพื่อลดความคมของใบหน้า และหลอกตาให้โหนกแก้มเดิมไม่ดูเด่นจนเกินไป เสร็จแล้วอย่าลืมใช้บรอนเซอร์มาคอนทัวร์ตรงกรอบหน้าด้วยนะคะ หน้าจะได้ดูเรียวมน และอ่อนโยนขี้นกว่าเดิม
- รูปหน้ายาว ควรปัดบลัชออนแนวขวางบนใบหน้า เริ่มตั้งแต่ปัดในระดับเดียวกับปลายจมูก ให้เป็นรูปคล้ายสามเหลี่ยมคว่ำยาวไปจนเกือบถึงใบหู จะช่วยให้หน้าดูสั้น และสมส่วนพอดี
- รูปหน้าสั้น ให้ปัดบลัชออนเป็นแนวเฉียง เริ่มตั้งแต่ระดับใต้ปลายจมูกสูงขึ้นไปจนถึงขมับ ที่สำคัญคือควรปัดเป็นเส้นโค้ง หลบพวงแก้มตรงกลางใบหน้า เพื่อไม่ให้หน้าดูแบนไร้มิติ และช่วยปรับให้รูปหน้าเรียวยาวมากขึ้นกว่าเดิม
เรียกว่าจัดเกร็ดความรู้และเทคนิคกันไปแบบเต็ม ๆ เลยทีเดียว คราวนี้สาว ๆ ก็สามารถมีพวงแก้มที่สวยเป๊ะ เป็นธรรมชาติ หมดปัญหาคนล้อว่าหน้าแดงเหมือนก้นลิงกันแล้วเน้อออ..
ข้อมูลจาก : lifehacker.com, makeupsense.com, webmd.com
บลัชออน คืออะไร ทำมาจากอะไร ?
บลัชออน (Blush on) คือเครื่องสำอางสำหรับใช้ปัดบริเวณแก้ม เน้นผลิตเฉดสีโทนส้ม ชมพู และแดง เพื่อให้ผิวหน้าดูสุขภาพดี มีเลือดฝาด ดูมีชีวิตชีวามากขึ้น ทั้งยังช่วยปรับโครงหน้าให้เรียวลง คมชัด แถมขับผิวให้เปล่งปลั่ง สดใส และหน้าอ่อนกว่าวัยยิ่งกว่าเดิมอีกด้วย ซึ่งความเป็นจริง ในวงการเครื่องสำอางจะเรียกว่า บลัชเชอร์ (Blusher) มาจากคำภาษาอังกฤษคือ Blush ที่แปลว่าเขินจนหน้าแดง แต่คนไทยนิยมเรียกติดปากว่า บลัชออน ที่เป็นชื่อเทคนิกของการนำบลัชเชอร์มาปัดแก้ม ให้ใบหน้าดูมีโหนกแก้ม มีสันแก้ม และมีสีสันมากขึ้นนั่นเอง
โดยบลัชออน เกิดจากการนำผงสีหรือพิกเมนต์สีมาผสมกับผงแป้งและกรดไขมันสกัดจากธรรมชาติอย่างสัตว์ หรือผักผลไม้ เพื่อทำให้เนื้อของบลัชออนมีความเนียนนุ่ม ชุ่มชื้น ใช้ทาได้สะดวกนอกจากนี้ยังมีสารประกอบต่าง ๆ จำพวกไมกา (Mica), ซิงก์ออกไซด์ (Zinc Oxcide) และไททาเนียมออกไซด์ (Titanium Oxcide) ที่ช่วยให้ตัวพิกเมนต์มีสีที่โดดเด่น แจ่มชัดมากยิ่งขึ้นรวมอยู่ด้วย ซึ่งตัวผงสีที่ผ่านการรับรองมาตรฐานว่าปลอดภัย จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยามีมากเกือบ 100 สี ทำให้บลัชออนสมัยนี้ มีเฉดสีให้เลือกซื้อมากมายอย่างที่เห็นกัน
เมื่อได้รู้จักกันไปแล้วว่าบลัชออนคืออะไร คราวนี้มาดู 3 ประเภทบลัชออนที่ควรรู้จักกันดีกว่า จะได้รู้ว่าควรเลือกใช้แบบไหนให้เข้ากับสภาพผิวของเรามากที่สุด
1. บลัชออนแบบฝุ่น เป็นประเภทที่ตัวเนื้อมีสัมผัสแห้ง เหมาะสำหรับสาวที่มีผิวหน้ามัน เพราะจะช่วยดักความมันส่วนเกินบนใบหน้าได้ แต่แนะนำให้ปัดหลังจากเสร็จขั้นตอนทารองพื้นและลงแป้งแล้ว ไม่อย่างนั้นความมันส่วนเกินบนใบหน้าอาจทำให้บลัชออนเลือนหายในระหว่างวันได้ นอกจากนี้ไม่ควรปัดในปริมาณมากจนเกินไป เพราะจะทำให้หน้าดูแดงแบบไม่เป็นธรรมชาติ แถมยังต้องเสียเวลาลงแป้งทับอีกครั้งด้วย
2. บลัชออนแบบครีม ด้วยความที่ตัวเนื้อเป็นเจลกึ่งเหลว จึงควรทาหลังลงรองพื้นและก่อนลงแป้งฝุ่น สำหรับสาวผิวแห้งแนะนำให้ซื้อสูตรที่มีส่วนผสมสำหรับเพิ่มความชุ่มชื้นมาใช้ ส่วนสาวผิวมันควรเป็นสูตรเนื้อแมตต์ จะช่วยทำให้บลัชออนติดทนนาน และเข้ากับสภาพผิวของเรามากที่สุด
3. บลัชออนแบบน้ำ ตัวเนื้อนั้นจะเป็นแบบเหลว ควรใช้หลังทารองพื้น และเหมาะสำหรับสาวผิวแห้งที่ชอบลุคอวดผิวโกลว์ หรือหน้าฉ่ำ ๆ สไตล์สาวเกาหลี ที่ไม่เน้นลงแป้งฝุ่นอะไรมากมาย แต่ตอนใช้ต้องเกลี่ยให้ดี ไม่อย่างนั้นจะทำให้หน้าของเราดูด่าง เป็นจ้ำ ๆ เหมือนโดนยุงกัดแทน สาว ๆ อาจใช้เทคนิกแตะบลัชออนลงไปที่ฟองน้ำก่อนนำมาโบ๊ะบนใบหน้าก็ได้ค่ะ จะช่วยให้ดูสวยเนียนยิ่งขึ้น
- สีผิวขาว ควรใช้บลัชออนโทนสีเบา ๆ อย่าง ชมพูอ่อน, ชมพูพีช, ส้มอ่อน, ส้มพีช และสีส้มอมชมพู พวกเฉด light coral จะทำให้ได้ลุคที่ไม่ดูแดงโอเวอร์จนเกินไป และสวยเป็นธรรมชาติมากที่สุด
- สีผิวแทนหรือสีผิวเข้มกลาง ควรใช้บลัชออนโทนสีชมพูกับส้มเหมือนกับสาวผิวขาว แต่สามารถเลือกใช้สีที่เข้มขึ้นอีกหนึ่งเฉด อย่างพวกชมพูบานเย็น หรือชมพูอมม่วงตุ่น ๆ อย่างเฉด Mauve ได้เหมือนกัน
- สีผิวเข้ม ควรใช้บลัชออนโทนสีสว่างสดใส อย่างสีแดงเลือดนกหมู สีส้มอิฐ และสีน้ำตาลอมแดงหรืออมส้ม เพื่อขับผิวให้ดูเปล่งประกาย สดใส มีสีสันมากขึ้น
- ใบหน้ารูปไข่ ปัดบลัชออนบริเวณเหนือโหนกแก้ม ลากเป็นแนวจากกึ่งกลางข้างจมูก เฉียงขึ้นไปจนถึงแนวเดียวกับหางตา จะช่วยเน้นให้สีของบลัชออนดูโดดเด่นมากขึ้นเวลายิ้ม
- ใบหน้ากลม ให้ปัดบลัชออนเหนือโหนกแก้มเหมือนกับคนที่มีหน้ารูปไข่ แต่ต้องปัดเป็นแนวเฉียงเริ่มจากข้างไรผมมาจนถึงกลางใบหน้า เพื่อเน้นบริเวณกรอบหน้าให้หน้าดูเรียวลง และเป็นรูปสวยมากขึ้น
- ใบหน้าเหลี่ยม ให้ปัดบลัชออนตรงกับโหนกแก้มเพื่อลดความคมของใบหน้า และหลอกตาให้โหนกแก้มเดิมไม่ดูเด่นจนเกินไป เสร็จแล้วอย่าลืมใช้บรอนเซอร์มาคอนทัวร์ตรงกรอบหน้าด้วยนะคะ หน้าจะได้ดูเรียวมน และอ่อนโยนขี้นกว่าเดิม
- รูปหน้ายาว ควรปัดบลัชออนแนวขวางบนใบหน้า เริ่มตั้งแต่ปัดในระดับเดียวกับปลายจมูก ให้เป็นรูปคล้ายสามเหลี่ยมคว่ำยาวไปจนเกือบถึงใบหู จะช่วยให้หน้าดูสั้น และสมส่วนพอดี
- รูปหน้าสั้น ให้ปัดบลัชออนเป็นแนวเฉียง เริ่มตั้งแต่ระดับใต้ปลายจมูกสูงขึ้นไปจนถึงขมับ ที่สำคัญคือควรปัดเป็นเส้นโค้ง หลบพวงแก้มตรงกลางใบหน้า เพื่อไม่ให้หน้าดูแบนไร้มิติ และช่วยปรับให้รูปหน้าเรียวยาวมากขึ้นกว่าเดิม
เรียกว่าจัดเกร็ดความรู้และเทคนิคกันไปแบบเต็ม ๆ เลยทีเดียว คราวนี้สาว ๆ ก็สามารถมีพวงแก้มที่สวยเป๊ะ เป็นธรรมชาติ หมดปัญหาคนล้อว่าหน้าแดงเหมือนก้นลิงกันแล้วเน้อออ..
ข้อมูลจาก : lifehacker.com, makeupsense.com, webmd.com