แม้สภาพอากาศของเมืองไทยจะแปรปรวนขนาดไหน ยังไงเราก็อยากออกจากบ้านไปทำอะไรสนุก ๆ กันอยู่ดีใช่ไหมล่ะคะ ยิ่งถ้าได้ไปว่ายน้ำคลายร้อนสักหน่อยนะ โอ้โห.. ฟินอย่าบอกใคร ! แต่เอ๊ะ บางทีสาว ๆ ก็ลืมไปเลยรึเปล่าว่าถึงแม้จะอยู่ใต้น้ำ ผิวของเราก็คล้ำเสียได้จากรังสี UVA และ UVB ที่สะท้อนมาทำร้ายได้เช่นกัน เพราะฉะนั้นต้องจำไว้เลยว่า "ครีมกันแดดกันน้ำ" เป็นไอเทมที่ควรทาตัวก่อนออกไปลุยกิจกรรมท้าแดดทุกครั้ง โดยเฉพาะกิจกรรมลุยน้ำ ท้าแดดจ้า อย่างตอนออกทริปเที่ยวทะเลด้วยแล้ว ยิ่งต้องมั่นใจเลยว่าครีมกันแดดที่ใช้นั้นกันแดด กันน้ำ และกันเหงื่อได้จริง ไม่งั้นต่อให้ทาหนาแค่ไหนก็ไม่ได้ผลอยู่ดี
ว่าแต่คนอื่นเขานิยมใช้ครีมกันแดดกันน้ำตัวไหนกันบ้างล่ะเนี่ย ? ถ้าคุณสาว ๆ กำลังสงสัย วันนี้กระปุกดอทคอมมีคำตอบมาให้ถึงที่ ด้วยการคัดครีมกันแดดทาตัวสุดฮิต แห่งปี 2018 มารีวิวทั้งหมด 5 ตัวด้วยกัน จะได้รู้กันไปเลยว่ามียี่ห้อไหนบ้าง ที่พร้อมช่วยสาว ๆ ต่อสู้กับทุกสภาพอากาศ แต่ก่อนอื่นเราไปทำความรู้จักคุณสมบัติของแต่ละตัวกันก่อนดีกว่าค่ะ
1. NIVEA Sun Protect & Refresh Cooling Sun Mist SPF50 PA++++
เปิดมาด้วยสเปรย์กันแดดจากแบรนด์ที่สาวไทยคุ้นหน้าคุ้นตากันดี ตัวนี้มีส่วนผสมของเมนทอลเป็นตัวชูโรง ให้สัมผัสเป็นละอองน้ำเย็น ๆ ฉีดแล้วรู้สึกสดชื่น สบายผิว ทำให้หายหงุดหงิดจากแดดร้อน ๆ ทั้งยังกันน้ำ กันเหงื่อ และกันแดด ฉีดแล้วสามารถออกไปข้างนอกได้ทันที เหมาะสำหรับสาว ๆ ที่ไม่มีเวลานั่งรอครีมซึมเข้าผิวในชั่วโมงเร่งด่วน ใช้ง่าย เหมาะกับกิจกรรม เช่น วิ่งมาราธอน ปั่นจักรยาน เดินเขา พกพาง่ายและใช้คล่องในราคา 499 บาท ต่อขนาด 200 กรัม
2. NIVEA Sun Protect & Moisture Body Lotion SPF50 PA++++
ครีมกันแดดทาตัวจากเจ้าเดิม แต่เป็นสูตรเนื้อโลชั่นที่มีส่วนผสมของสารกันแดด SPF50 และวิตามินอีเข้มข้น 96% คือเป็นได้ทั้งเกราะป้องกันผิวจากรังสี UVA, UVB และเป็นได้ทั้งผู้ช่วยฟื้นบำรุงความชุ่มชื้นของผิวที่สูญเสียไปจากแดด ไม่ทำให้ผิวแห้งกร้าน หรือเกิดริ้วรอยก่อนวัย มีคุณสมบัติกันน้ำ กันเหงื่อ ไม่หลุดลอกง่ายอีกด้วย ขนาด 125 มิลลิลิตร ราคา 345 บาทค่ะ
3. Banana Boat Sport Sunscreen Lotion SPF50 PA+++
โลชั่นกันแดดแบบสปอร์ต ๆ สำหรับสาวขาลุยที่ชอบทำกิจกรรมกลางแจ้ง ตัวนี้เป็นสูตรพิเศษ ที่เนื้อครีมไม่แตกตัวแม้โดนน้ำหรือเหงื่อ หมดห่วงเรื่องรูขุมขนอุดตัน พร้อมปกป้องรังสีทั้ง UVA และรังสี UVB ได้อย่างครอบคลุม เรียกว่าทาปุ๊บ ก็พร้อมลุยแดด ลุยฝนทั้งวันได้เลย หลอดขนาด 90 มิลลิลิตร ราคา 395 บาท
4. P.O.Care Aloe Moisturizing Sun Block Lotion SPF50 PA+++
โลชั่นกันแดดสำหรับผิวหน้าและผิวกาย ที่มาพร้อมกับสารสกัดจากว่านหางจระเข้และน้ำผึ้ง ก็เลยมั่นใจได้ว่านอกจากจะช่วยปกป้องผิวจากแดดแล้ว ยังช่วยบำรุงผิวให้เนียนนุ่มชุ่มชื้น รวมถึงฟื้นฟูและลดอาการแสบไหม้ของผิวที่ถูกทำร้ายอีกด้วย ตัวนี้สาว ๆ ผิวแพ้ง่ายก็ใช้ได้เพราะไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม หลอดขนาด 115 มิลลิลิตร ราคาอยู่ที่ 420 บาท
5. Cancer Council Ultra Sunscreen SPF50 PA+++
กันแดดตัวฮิตจากออสเตรเลียที่มีเนื้อโลชั่นบางเบา ใช้ทาได้ทั้งผิวหน้า ผิวกาย และเหมาะกับทุกสภาพผิว โดดเด่นในเรื่องกันน้ำ กันเหงื่อได้ยาวนานถึง 4 ชั่วโมง ทั้งยังเป็นสูตรที่เพิ่มประสิทธิภาพกันแดดให้สูงขึ้นเป็นพิเศษ จัดว่าหายห่วงเรื่องสู้แดดเปรี้ยงได้ เพราะแดดออสเตรเลียเนี่ยฤทธิ์เดชรุนแรงไม่แพ้บ้านเรานะเออ หลอดขนาด 110 มิลลิลิตร ราคา 400 บาท
เมื่อได้เห็นคุณสมบัติกันครบถ้วนทุกตัวแล้ว งั้นมาเริ่มพิสูจน์ความดีงามกันเลยดีกว่า โดยเราจะใช้ครีมกันแดดลงสนามทดสอบ 5 ด่านด้วยกัน คือ ด่านเปรียบเทียบเนื้อครีม ด่านทดสอบเนื้อสัมผัสและการซึมซาบ ด่านทดสอบความเหนอะหนะ ด่านทดสอบประสิทธิภาพกันน้ำ และด่านทดสอบประสิทธิภาพกันแดด นั่นแน่ะ ! สงสัยล่ะสิว่าจะมีใครได้คะแนนเต็ม 5 ไปบ้าง ถ้าอยากรู้ก็ตามเรามาทางนี้โลดด..
ด่านเปรียบเทียบเนื้อครีม
สำหรับด่านแรก เราจะพักเรื่องให้คะแนนเอาไว้ก่อน แล้วมาดูที่ตัวผลิตภัณฑ์ว่ามีเนื้อครีมเบาบางหรือเข้มข้น และมีกลิ่นแตกต่างกันยังไง
ผลการเปรียบเทียบ
NIVEA Spray : ตัวสเปรย์ออกมาเป็นละอองน้ำสีขาวขุ่น แล้วจางเป็นน้ำเหลว ๆ ไหลลงมาตามแขน ฉีดแล้วสัมผัสได้ถึงความเย็น ๆ คูล ๆ ทันที มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ แต่ตอนแรกจะมีกลิ่นแอลกอฮอล์ออกมาเล็กน้อย
NIVEA Body Lotion : เนื้อครีมสีขุ่นที่สุด ออกไปทางเหลืองนิด ๆ แต่สัมผัสบางเบา กลิ่นหอมตีขึ้นมาชัดเจน แต่ก็ไม่ทำให้ฉุนจมูกอะไร
Banana Boat : เนื้อครีมเป็นโลชั่น เรียกว่าไม่หนัก ไม่หนา ให้สัมผัสบางเบา ไม่ไหลเยิ้มตอนป้าย มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ เหมือนกันแดดรุ่นอื่นของแบรนด์
P.O. Care : เนื้อครีมเข้มข้นเป็นอันดับสอง รองลงมาจากตัว Cancer Council กลิ่นกันแดดออกแรงที่สุด ไปทางตุ่น ๆ หน่อย
Cancer Council : เนื้อครีมจับตัวเป็นก้อน ค่อนข้างบีบยาก ออกข้น ๆ หนัก ๆ คล้ายวิปครีม ดีตรงที่ไม่มีกลิ่นเหม็นหืน แต่ก็ไม่มีกลิ่นหอมเหมือนกัน
ด่านทดสอบเนื้อสัมผัสและการซึมซาบ
ลองใช้ครีมกันแดดทั้ง 5 ตัวถูวนไปตรงหลังมือดูเรื่อย ๆ ก็ค้นพบว่านอกจากแต่ละตัวจะมีเนื้อสัมผัสที่ต่างกันแล้ว ยังใช้เวลาซึมซาบลงผิวไม่เท่ากันด้วยนะ
ผลการทดสอบ
NIVEA Spray : พอลองถูตัวละอองสเปรย์ซ้ำอีกครั้ง ก็ยิ่งสัมผัสถึงความเย็นได้ชัดเจนมาก แล้วยังซึมซาบลงสู่ผิวได้ไว ไม่ต้องถูวนซ้ำหลายรอบแต่แอบทิ้งความมันไว้เล็กน้อยขอหักจุดนี้เป็น 4.5/5 คะแนน
NIVEA Body Lotion : พอลองถูวนดูแล้ว รู้สึกว่าตัวนี้จะบางเบาที่สุด เพราะเกลี่ยง่าย เนื้อครีมไม่ข้น ไม่หนาจนเกินไป ทำให้ซึมลงผิวไวมาก และที่สัมผัสได้ชัดเจนคือสีผิวดูขาวขึ้น แต่ก็ไม่วอก รอแป๊บหนึ่งจะรู้สึกเย็น ๆ ฟีลสบายผิว ถูกจริตมาก เอาไปเลย 5/5 คะแนน
Banana Boat : เนื้อครีมเกลี่ยง่าย กลิ่นหอมกำลังดี ชอบตรงที่ไม่มีความมันหลงเหลืออยู่เลย แปลว่าซึมซาบไวมาก แต่ก็แอบมีความเหนอะอยู่บ้าง ทำให้ต้องใช้เวลาถูนิดหนึ่ง ขอหักเล็กน้อยเป็น 4.5/5 คะแนน
P.O. Care : เนื้อครีมเกลี่ยง่ายซึมซาบไวพอสมควร ให้สัมผัสชุ่มชื้นเหมือนมีครีมบาง ๆ มาเคลือบผิว น่าจะเพราะมีส่วนผสมมอยส์เจอไรเซอร์อยู่ด้วย แอบทิ้งความมันเล็กน้อย แต่ก็ไม่รู้สึกเยิ้มอะไรมากมาย ได้ไป 3.5/5 คะแนน
Cancer Council : ตัวครีมมีความข้นเบอร์สิบ ทำให้เกลี่ยยาก ทาแล้วไม่ขาว ไม่วอก กว่าจะซึมหายเข้าผิวต้องถูวนอยู่หลายครั้ง แล้วรอเวลาครีมซึมอีกหลายนาที มีการทิ้งความมันย่องไว้ชัดเจน ใครรีบลงน้ำคงไม่รอด ให้ไป 3/5 คะแนนแล้วกัน
ด่านทดสอบความเหนอะหนะ
หลังจากทดสอบการซึมซาบตรงหลังมือเสร็จ ก็ผ่านไปแล้วประมาณ 15 นาที งั้นเรากลับมาดูครีมกันแดดที่เราทาทิ้งไว้ใต้ท้องแขนกันดีกว่าว่ามีใครแอบเยิ้ม แอบเหนอะเพิ่มขึ้นจากเดิมรึเปล่า โดยใช้วิธีโปรยเม็ดโฟมแล้วดูว่าตัวไหนจะมีเม็ดโฟมติดมากน้อยกว่ากัน
ผลการทดสอบ
NIVEA Spray : ความมันย่องในตอนแรกหายไป เหลือแค่ฟิล์มบาง ๆ เคลือบไว้แบบไม่รู้สึกหนักผิว เรื่องเหนอะหนะเอาใจไป 5/5 คะแนน
NIVEA Body Lotion : จริง ๆ ตัวนี้ก็เบาบาง ซึมซาบลงผิวได้ไวเช่นเดียวกัน แต่ยังแอบมีเม็ดโฟมติดอยู่หน่อย ขอหักไปก่อนเป็น 4/5 คะแนนแล้วกัน
Banana Boat : ครีมเนียนเข้าสู่ผิวแบบไม่ทิ้งคราบ ไม่เหลือความมัน เม็ดโฟมเกาะอยู่น้อยมาก ได้ใจไป 5/5 คะแนน
P.O. Care : ปริมาณเม็ดโฟมติดพอ ๆ กัน แอบมันเหนอะหนะไม่ใช่เล่น คว้าไป 3.5/5 เหมือนกับตัวแรกเป๊ะ
Cancer Council : เห็นชัดว่ามีเม็ดโฟมติดอยู่เยอะ แปลว่ามีความเหนอะหนะในตัวค่อนข้างสูง ได้ไป 3.5/5 คะแนน
ด่านทดสอบประสิทธิภาพกันน้ำ
มาถึงด่านทดสอบคุณสมบัติหลักทั้งที เราก็ขอเล่นใหญ่โดยการใช้เทปแบ่งช่องทาครีมกันแดดไว้ที่แผ่นหลัง รอให้ซึมสู่ผิว 20 นาทีตามเวลาสามัญ เสร็จแล้วก็ลงสระไปว่ายน้ำขำ ๆ ก่อน จะได้ดูว่ามียี่ห้อไหนบ้างที่กันน้ำได้ดีบ้าง
ผลการทดสอบ
NIVEA Spray : พูดในฐานะที่นางคือสเปรย์ ก็เป็นเรื่องปกติที่จะมีน้ำเกาะผิวเป็นหยด ๆ ชัดเจน เพราะเป็นเหมือนแผ่นฟิล์มเคลือบ แต่พอลงน้ำแล้วแอบรู้สึกว่ามีความมันเล็ก ๆ ขอหักนิดหนึ่ง เอาไป 4 คะแนน
NIVEA Body Lotion : ลองถูแล้วรู้สึกเลยว่าตัวครีมยังเคลือบอยู่บนผิว แอบมีความนุ่ม ๆ ลื่น ๆ ไม่มีคราบขาวหลุดลอก ถือว่าดีไม่น้อยหน้าใคร คว้าไป 4.5/5 คะแนน
Banana Boat : ตัวนี้คือโอเคมากเรื่องกันน้ำ ไม่มีคราบน้ำเกาะ ไม่ทิ้งคราบขาว ตัวครีมยังเกาะผิวได้ดี ถูแล้วลื่น ๆ ผิว เอาไป 4.5/5 คะแนน
P.O. Care : ใช้เวลาซึมซาบนานหน่อย แต่ก็ถือว่ากันน้ำได้ดี แม้จะมีคราบขาว ๆ หลุดออกมาบ้าง แต่ลองถูซ้ำก็ไม่ได้รู้สึกเหนอะหนะอะไร ได้ไป 4/5 คะแนน
Cancer Council : มีคราบขาวหลุดออกมาเล็กน้อย แต่ก็แค่นิดเดียวไม่ขัดใจอะไร ติดตรงที่ผิวรู้สึกเหนอะหนะมากขึ้นหลังโดนน้ำ อาจต้องให้เวลาครีมซึมมากกว่านี้ ให้ไป 4/5 คะแนนก็แล้วกัน
ด่านทดสอบประสิทธิภาพกันแดด
ปิดไปด้วยด่านสุดท้ายที่ทุกคนรอคอย คราวนี้เราจะกระโดดลงสระ ว่ายท่าฟรีสไตล์วนไปทั้งวันค่ะ วนไป ! เรียกว่าพลีชีพให้แดดเผาเปรี้ยง ๆ กันเลยจ้า จะได้ฟันธงได้ว่ามีน้องครีมตัวไหน ที่ปกป้องผิวอันแสนบอบบางของสาว ๆ ได้จริงบ้าง
ผิวส่วนที่ไม่ได้ทาครีมกันแดด คล้ำลงอย่างชัดเจน
ผลการทดสอบ
NIVEA Spray : สีผิวแอบแดง ๆ คล้ำ ๆ ลงนิดหน่อย แต่อยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ ไม่รู้สึกแสบอะไร ให้คะแนนไป 4/5 ค่ะ
NIVEA Body Lotion : ตัวครีมยังเกาะผิวอยู่ ดูไม่ดรอป ไม่คล้ำ ทำได้ดีพอ ๆ กับเรือกล้วย แต่ที่โดดเด่นชัดกว่าคือความขาวใส และไม่รู้สึกแสบผิว ยอมใจในความสู้แดด สู้น้ำ เอาไป 5/5 คะแนน
Banana Boat : ไม่มีความมันเยิ้ม สีผิวไม่ดรอปลงเท่าไร แค่ดูไม่สม่ำเสมอ ก็ถือว่ากันแดดได้ดีมากทีเดียว ติดตรงที่รู้สึกแสบผิวบ้างเล็กน้อย ให้ไป 4.5/5 คะแนน
P.O. Care : ดีตรงไม่ค่อยแสบผิว แปลว่าพวกมอยส์เจอไรเซอร์ช่วยได้อยู่ แต่ผิวเกือบไหม้ชัดเจนเช่นกัน รับไป 3.5/5 คะแนน
Cancer Council : อย่างที่บอกว่าคงต้องให้เวลาครีมซึมมากกว่านี้ เพราะแอบหลุดออกมาตั้งแต่ด่านกันน้ำ กลายเป็นว่าประสิทธิภาพกันแดดลดลง ทำให้ผิวแดงอย่างเห็นได้ชัด ให้ไป 3.5/5 คะแนน
ตารางสรุปคะแนนผลการทดสอบ
หลังฝ่าฟันผ่านมาแล้วครบทุกด่าน มาดูตารางสรุปคะแนนของครีมกันแดดทั้งหมดกันชัด ๆ เลยค่ะ
NIVEA Spray : ด้วยความที่เป็นสเปรย์ ถึงแม้จะกันน้ำได้ดี แต่คิดว่าเหมาะสำหรับกันเหงื่อในกิจกรรมกลางแจ้ง พวกกีฬาบนบกมากกว่าว่ายน้ำลุย ๆ แบบนี้ เพราะตัวสเปรย์คือเย็นจริงเย็นจัง ถ้าใช้หลังตากแดดมาร้อน ๆ ก็น่าจะรู้สึกสดชื่น สบายผิวดี แต่น่าจะต้องฉีดซ้ำกันบ่อยสักหน่อย ถ้าอยากให้กันแดดได้ยาวนานกว่านี้
NIVEA Body Lotion : ตัวนี้คือไม่เสียชื่อที่ทำครีมกันแดดกับครีมบำรุงผิวมานาน พอจับพวกนางมามัดรวมกันเลยค่อนข้างทำได้ดี ชอบตรงที่ทาแล้วผิวแอบขาวขึ้น ผิวไม่แห้งหลังออกแดด จะว่ายน้ำตากแดดทั้งวัน คือเหมาะกับทาไปเที่ยวทะเล ทำกิจกรรมหนัก ๆ แบบตัวเดียวจบเลย
Banana Boat : คุณเรือกล้วยมาวินตรงตัวครีมไม่เหนอะหนะ เห็นได้ชัดตอนแรกว่ากันน้ำดีมาก เรื่องกันแดดก็โอเคเหมือนกัน ติดตรงที่ตากแดดแล้วแสบผิว อาจเพราะไม่มีส่วนผสมของมอยส์เจอไรเซอร์ผสมอยู่ด้วย หลังเสร็จกิจกรรมนู่นนี่ ควรหาโลชั่น พวกสูตร After Sunburn มาทาบำรุง แล้วก็ลดอาคารแสบไหม้หลังโดนแดดอีกที
P.O. Care : ในส่วนของเรื่องบำรุงผิวหลังโดนแดดเผานี่ถือว่าทำได้ดีมาก ทาแล้วผิวไม่แสบ ไม่ไหม้ นุ่มลื่นขึ้นชัดเจน กันน้ำก็โอเค แต่ประสิทธิภาพกันแดดยังไม่โดนใจเท่าไร เหมาะกับกิจกรรมเบา ๆ ตากแดด ตากฝนได้พอกรุบกริบ
Cancer Council : โดยรวมจริง ๆ เป็นครีมกันแดดที่กันน้ำได้โอเคตัวหนึ่ง แต่ติดตรงที่มีความมันเยิ้มอยู่ ถ้าเล่นกีฬามีเหงื่อคงเหนอะหนะยิ่งกว่านี้ น่าจะต้องใช้เวลารอครีมซึมผิวมากกว่า 20 นาที ถึงจะช่วยกันน้ำ กันแดดได้ดียิ่งขึ้น
เรียกว่าครีมกันแดดแต่ละยี่ห้อนั้นมีข้อดีแตกต่างกันไป สาว ๆ สามารถเลือกใช้ได้ตามความชอบเลย สมมติว่ามีเวลาแต่งตัวนานก็ทาครีมกันแดดทิ้งไว้แล้วค่อยไปแต่งหน้า หรือถ้าอยู่ในชั่วโมงเร่งด่วน ตัวที่เป็นสเปรย์ก็ถือว่าเป็นผู้ช่วยที่ดี ^^ แต่แอบชอบครีมกันแดดกันน้ำตัวที่มีสารบำรุงผสมอยู่ในตัวนะ เพราะได้ฟีลมั่นใจว่าผิวของเราจะไม่คล้ำลงจากการโดนรังสีนู่นนี่ทำร้าย แถมยังทำให้ผิวเสีย ๆ กลับมาเนียนนุ่มชุ่มชื้น และกระจ่างใสขึ้นได้ด้วย
เอ้า ! ใครรู้ตัวว่าเป็นสาวสปอร์ตสายลุย ก็ต้องไปตามสอยครีมกันแดดสูตรกันน้ำ กันเหงื่อมาติดตัวกันไว้บ้างแล้วล่ะ จะได้มีความมั่นใจเต็มร้อย ต่อให้ต้องเจอแดด เจอฝนหนักขนาดไหนก็ไม่หวั่น ที่สำคัญอย่าลืมทาครีมกันแดดซ้ำทุก ๆ 2 ชั่วโมงด้วยนะคะ ผิวของเราจะได้รับการปกป้องอย่างยาวนานและได้ผลดียิ่งขึ้น แต่ตอนนี้ กำลังสนุกเลยค่ะ ขอตัวไปเล่นน้ำต่อก่อนน้าา ตู้มมมมมม !! (นึกภาพท่าโดดน้ำ อิอิ)
เปิดมาด้วยสเปรย์กันแดดจากแบรนด์ที่สาวไทยคุ้นหน้าคุ้นตากันดี ตัวนี้มีส่วนผสมของเมนทอลเป็นตัวชูโรง ให้สัมผัสเป็นละอองน้ำเย็น ๆ ฉีดแล้วรู้สึกสดชื่น สบายผิว ทำให้หายหงุดหงิดจากแดดร้อน ๆ ทั้งยังกันน้ำ กันเหงื่อ และกันแดด ฉีดแล้วสามารถออกไปข้างนอกได้ทันที เหมาะสำหรับสาว ๆ ที่ไม่มีเวลานั่งรอครีมซึมเข้าผิวในชั่วโมงเร่งด่วน ใช้ง่าย เหมาะกับกิจกรรม เช่น วิ่งมาราธอน ปั่นจักรยาน เดินเขา พกพาง่ายและใช้คล่องในราคา 499 บาท ต่อขนาด 200 กรัม
2. NIVEA Sun Protect & Moisture Body Lotion SPF50 PA++++
ครีมกันแดดทาตัวจากเจ้าเดิม แต่เป็นสูตรเนื้อโลชั่นที่มีส่วนผสมของสารกันแดด SPF50 และวิตามินอีเข้มข้น 96% คือเป็นได้ทั้งเกราะป้องกันผิวจากรังสี UVA, UVB และเป็นได้ทั้งผู้ช่วยฟื้นบำรุงความชุ่มชื้นของผิวที่สูญเสียไปจากแดด ไม่ทำให้ผิวแห้งกร้าน หรือเกิดริ้วรอยก่อนวัย มีคุณสมบัติกันน้ำ กันเหงื่อ ไม่หลุดลอกง่ายอีกด้วย ขนาด 125 มิลลิลิตร ราคา 345 บาทค่ะ
3. Banana Boat Sport Sunscreen Lotion SPF50 PA+++
โลชั่นกันแดดแบบสปอร์ต ๆ สำหรับสาวขาลุยที่ชอบทำกิจกรรมกลางแจ้ง ตัวนี้เป็นสูตรพิเศษ ที่เนื้อครีมไม่แตกตัวแม้โดนน้ำหรือเหงื่อ หมดห่วงเรื่องรูขุมขนอุดตัน พร้อมปกป้องรังสีทั้ง UVA และรังสี UVB ได้อย่างครอบคลุม เรียกว่าทาปุ๊บ ก็พร้อมลุยแดด ลุยฝนทั้งวันได้เลย หลอดขนาด 90 มิลลิลิตร ราคา 395 บาท
4. P.O.Care Aloe Moisturizing Sun Block Lotion SPF50 PA+++
โลชั่นกันแดดสำหรับผิวหน้าและผิวกาย ที่มาพร้อมกับสารสกัดจากว่านหางจระเข้และน้ำผึ้ง ก็เลยมั่นใจได้ว่านอกจากจะช่วยปกป้องผิวจากแดดแล้ว ยังช่วยบำรุงผิวให้เนียนนุ่มชุ่มชื้น รวมถึงฟื้นฟูและลดอาการแสบไหม้ของผิวที่ถูกทำร้ายอีกด้วย ตัวนี้สาว ๆ ผิวแพ้ง่ายก็ใช้ได้เพราะไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม หลอดขนาด 115 มิลลิลิตร ราคาอยู่ที่ 420 บาท
5. Cancer Council Ultra Sunscreen SPF50 PA+++
กันแดดตัวฮิตจากออสเตรเลียที่มีเนื้อโลชั่นบางเบา ใช้ทาได้ทั้งผิวหน้า ผิวกาย และเหมาะกับทุกสภาพผิว โดดเด่นในเรื่องกันน้ำ กันเหงื่อได้ยาวนานถึง 4 ชั่วโมง ทั้งยังเป็นสูตรที่เพิ่มประสิทธิภาพกันแดดให้สูงขึ้นเป็นพิเศษ จัดว่าหายห่วงเรื่องสู้แดดเปรี้ยงได้ เพราะแดดออสเตรเลียเนี่ยฤทธิ์เดชรุนแรงไม่แพ้บ้านเรานะเออ หลอดขนาด 110 มิลลิลิตร ราคา 400 บาท
ด่านเปรียบเทียบเนื้อครีม
สำหรับด่านแรก เราจะพักเรื่องให้คะแนนเอาไว้ก่อน แล้วมาดูที่ตัวผลิตภัณฑ์ว่ามีเนื้อครีมเบาบางหรือเข้มข้น และมีกลิ่นแตกต่างกันยังไง
NIVEA Spray : ตัวสเปรย์ออกมาเป็นละอองน้ำสีขาวขุ่น แล้วจางเป็นน้ำเหลว ๆ ไหลลงมาตามแขน ฉีดแล้วสัมผัสได้ถึงความเย็น ๆ คูล ๆ ทันที มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ แต่ตอนแรกจะมีกลิ่นแอลกอฮอล์ออกมาเล็กน้อย
NIVEA Body Lotion : เนื้อครีมสีขุ่นที่สุด ออกไปทางเหลืองนิด ๆ แต่สัมผัสบางเบา กลิ่นหอมตีขึ้นมาชัดเจน แต่ก็ไม่ทำให้ฉุนจมูกอะไร
Banana Boat : เนื้อครีมเป็นโลชั่น เรียกว่าไม่หนัก ไม่หนา ให้สัมผัสบางเบา ไม่ไหลเยิ้มตอนป้าย มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ เหมือนกันแดดรุ่นอื่นของแบรนด์
P.O. Care : เนื้อครีมเข้มข้นเป็นอันดับสอง รองลงมาจากตัว Cancer Council กลิ่นกันแดดออกแรงที่สุด ไปทางตุ่น ๆ หน่อย
Cancer Council : เนื้อครีมจับตัวเป็นก้อน ค่อนข้างบีบยาก ออกข้น ๆ หนัก ๆ คล้ายวิปครีม ดีตรงที่ไม่มีกลิ่นเหม็นหืน แต่ก็ไม่มีกลิ่นหอมเหมือนกัน
ด่านทดสอบเนื้อสัมผัสและการซึมซาบ
ลองใช้ครีมกันแดดทั้ง 5 ตัวถูวนไปตรงหลังมือดูเรื่อย ๆ ก็ค้นพบว่านอกจากแต่ละตัวจะมีเนื้อสัมผัสที่ต่างกันแล้ว ยังใช้เวลาซึมซาบลงผิวไม่เท่ากันด้วยนะ
NIVEA Spray : พอลองถูตัวละอองสเปรย์ซ้ำอีกครั้ง ก็ยิ่งสัมผัสถึงความเย็นได้ชัดเจนมาก แล้วยังซึมซาบลงสู่ผิวได้ไว ไม่ต้องถูวนซ้ำหลายรอบแต่แอบทิ้งความมันไว้เล็กน้อยขอหักจุดนี้เป็น 4.5/5 คะแนน
NIVEA Body Lotion : พอลองถูวนดูแล้ว รู้สึกว่าตัวนี้จะบางเบาที่สุด เพราะเกลี่ยง่าย เนื้อครีมไม่ข้น ไม่หนาจนเกินไป ทำให้ซึมลงผิวไวมาก และที่สัมผัสได้ชัดเจนคือสีผิวดูขาวขึ้น แต่ก็ไม่วอก รอแป๊บหนึ่งจะรู้สึกเย็น ๆ ฟีลสบายผิว ถูกจริตมาก เอาไปเลย 5/5 คะแนน
Banana Boat : เนื้อครีมเกลี่ยง่าย กลิ่นหอมกำลังดี ชอบตรงที่ไม่มีความมันหลงเหลืออยู่เลย แปลว่าซึมซาบไวมาก แต่ก็แอบมีความเหนอะอยู่บ้าง ทำให้ต้องใช้เวลาถูนิดหนึ่ง ขอหักเล็กน้อยเป็น 4.5/5 คะแนน
P.O. Care : เนื้อครีมเกลี่ยง่ายซึมซาบไวพอสมควร ให้สัมผัสชุ่มชื้นเหมือนมีครีมบาง ๆ มาเคลือบผิว น่าจะเพราะมีส่วนผสมมอยส์เจอไรเซอร์อยู่ด้วย แอบทิ้งความมันเล็กน้อย แต่ก็ไม่รู้สึกเยิ้มอะไรมากมาย ได้ไป 3.5/5 คะแนน
Cancer Council : ตัวครีมมีความข้นเบอร์สิบ ทำให้เกลี่ยยาก ทาแล้วไม่ขาว ไม่วอก กว่าจะซึมหายเข้าผิวต้องถูวนอยู่หลายครั้ง แล้วรอเวลาครีมซึมอีกหลายนาที มีการทิ้งความมันย่องไว้ชัดเจน ใครรีบลงน้ำคงไม่รอด ให้ไป 3/5 คะแนนแล้วกัน
ด่านทดสอบความเหนอะหนะ
หลังจากทดสอบการซึมซาบตรงหลังมือเสร็จ ก็ผ่านไปแล้วประมาณ 15 นาที งั้นเรากลับมาดูครีมกันแดดที่เราทาทิ้งไว้ใต้ท้องแขนกันดีกว่าว่ามีใครแอบเยิ้ม แอบเหนอะเพิ่มขึ้นจากเดิมรึเปล่า โดยใช้วิธีโปรยเม็ดโฟมแล้วดูว่าตัวไหนจะมีเม็ดโฟมติดมากน้อยกว่ากัน
NIVEA Spray : ความมันย่องในตอนแรกหายไป เหลือแค่ฟิล์มบาง ๆ เคลือบไว้แบบไม่รู้สึกหนักผิว เรื่องเหนอะหนะเอาใจไป 5/5 คะแนน
NIVEA Body Lotion : จริง ๆ ตัวนี้ก็เบาบาง ซึมซาบลงผิวได้ไวเช่นเดียวกัน แต่ยังแอบมีเม็ดโฟมติดอยู่หน่อย ขอหักไปก่อนเป็น 4/5 คะแนนแล้วกัน
Banana Boat : ครีมเนียนเข้าสู่ผิวแบบไม่ทิ้งคราบ ไม่เหลือความมัน เม็ดโฟมเกาะอยู่น้อยมาก ได้ใจไป 5/5 คะแนน
P.O. Care : ปริมาณเม็ดโฟมติดพอ ๆ กัน แอบมันเหนอะหนะไม่ใช่เล่น คว้าไป 3.5/5 เหมือนกับตัวแรกเป๊ะ
Cancer Council : เห็นชัดว่ามีเม็ดโฟมติดอยู่เยอะ แปลว่ามีความเหนอะหนะในตัวค่อนข้างสูง ได้ไป 3.5/5 คะแนน
ด่านทดสอบประสิทธิภาพกันน้ำ
มาถึงด่านทดสอบคุณสมบัติหลักทั้งที เราก็ขอเล่นใหญ่โดยการใช้เทปแบ่งช่องทาครีมกันแดดไว้ที่แผ่นหลัง รอให้ซึมสู่ผิว 20 นาทีตามเวลาสามัญ เสร็จแล้วก็ลงสระไปว่ายน้ำขำ ๆ ก่อน จะได้ดูว่ามียี่ห้อไหนบ้างที่กันน้ำได้ดีบ้าง
NIVEA Spray : พูดในฐานะที่นางคือสเปรย์ ก็เป็นเรื่องปกติที่จะมีน้ำเกาะผิวเป็นหยด ๆ ชัดเจน เพราะเป็นเหมือนแผ่นฟิล์มเคลือบ แต่พอลงน้ำแล้วแอบรู้สึกว่ามีความมันเล็ก ๆ ขอหักนิดหนึ่ง เอาไป 4 คะแนน
NIVEA Body Lotion : ลองถูแล้วรู้สึกเลยว่าตัวครีมยังเคลือบอยู่บนผิว แอบมีความนุ่ม ๆ ลื่น ๆ ไม่มีคราบขาวหลุดลอก ถือว่าดีไม่น้อยหน้าใคร คว้าไป 4.5/5 คะแนน
Banana Boat : ตัวนี้คือโอเคมากเรื่องกันน้ำ ไม่มีคราบน้ำเกาะ ไม่ทิ้งคราบขาว ตัวครีมยังเกาะผิวได้ดี ถูแล้วลื่น ๆ ผิว เอาไป 4.5/5 คะแนน
P.O. Care : ใช้เวลาซึมซาบนานหน่อย แต่ก็ถือว่ากันน้ำได้ดี แม้จะมีคราบขาว ๆ หลุดออกมาบ้าง แต่ลองถูซ้ำก็ไม่ได้รู้สึกเหนอะหนะอะไร ได้ไป 4/5 คะแนน
Cancer Council : มีคราบขาวหลุดออกมาเล็กน้อย แต่ก็แค่นิดเดียวไม่ขัดใจอะไร ติดตรงที่ผิวรู้สึกเหนอะหนะมากขึ้นหลังโดนน้ำ อาจต้องให้เวลาครีมซึมมากกว่านี้ ให้ไป 4/5 คะแนนก็แล้วกัน
ด่านทดสอบประสิทธิภาพกันแดด
ปิดไปด้วยด่านสุดท้ายที่ทุกคนรอคอย คราวนี้เราจะกระโดดลงสระ ว่ายท่าฟรีสไตล์วนไปทั้งวันค่ะ วนไป ! เรียกว่าพลีชีพให้แดดเผาเปรี้ยง ๆ กันเลยจ้า จะได้ฟันธงได้ว่ามีน้องครีมตัวไหน ที่ปกป้องผิวอันแสนบอบบางของสาว ๆ ได้จริงบ้าง
ผิวส่วนที่ไม่ได้ทาครีมกันแดด คล้ำลงอย่างชัดเจน
ผลการทดสอบ
NIVEA Spray : สีผิวแอบแดง ๆ คล้ำ ๆ ลงนิดหน่อย แต่อยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ ไม่รู้สึกแสบอะไร ให้คะแนนไป 4/5 ค่ะ
NIVEA Body Lotion : ตัวครีมยังเกาะผิวอยู่ ดูไม่ดรอป ไม่คล้ำ ทำได้ดีพอ ๆ กับเรือกล้วย แต่ที่โดดเด่นชัดกว่าคือความขาวใส และไม่รู้สึกแสบผิว ยอมใจในความสู้แดด สู้น้ำ เอาไป 5/5 คะแนน
Banana Boat : ไม่มีความมันเยิ้ม สีผิวไม่ดรอปลงเท่าไร แค่ดูไม่สม่ำเสมอ ก็ถือว่ากันแดดได้ดีมากทีเดียว ติดตรงที่รู้สึกแสบผิวบ้างเล็กน้อย ให้ไป 4.5/5 คะแนน
P.O. Care : ดีตรงไม่ค่อยแสบผิว แปลว่าพวกมอยส์เจอไรเซอร์ช่วยได้อยู่ แต่ผิวเกือบไหม้ชัดเจนเช่นกัน รับไป 3.5/5 คะแนน
Cancer Council : อย่างที่บอกว่าคงต้องให้เวลาครีมซึมมากกว่านี้ เพราะแอบหลุดออกมาตั้งแต่ด่านกันน้ำ กลายเป็นว่าประสิทธิภาพกันแดดลดลง ทำให้ผิวแดงอย่างเห็นได้ชัด ให้ไป 3.5/5 คะแนน
ตารางสรุปคะแนนผลการทดสอบ
หลังฝ่าฟันผ่านมาแล้วครบทุกด่าน มาดูตารางสรุปคะแนนของครีมกันแดดทั้งหมดกันชัด ๆ เลยค่ะ
NIVEA Body Lotion : ตัวนี้คือไม่เสียชื่อที่ทำครีมกันแดดกับครีมบำรุงผิวมานาน พอจับพวกนางมามัดรวมกันเลยค่อนข้างทำได้ดี ชอบตรงที่ทาแล้วผิวแอบขาวขึ้น ผิวไม่แห้งหลังออกแดด จะว่ายน้ำตากแดดทั้งวัน คือเหมาะกับทาไปเที่ยวทะเล ทำกิจกรรมหนัก ๆ แบบตัวเดียวจบเลย
Banana Boat : คุณเรือกล้วยมาวินตรงตัวครีมไม่เหนอะหนะ เห็นได้ชัดตอนแรกว่ากันน้ำดีมาก เรื่องกันแดดก็โอเคเหมือนกัน ติดตรงที่ตากแดดแล้วแสบผิว อาจเพราะไม่มีส่วนผสมของมอยส์เจอไรเซอร์ผสมอยู่ด้วย หลังเสร็จกิจกรรมนู่นนี่ ควรหาโลชั่น พวกสูตร After Sunburn มาทาบำรุง แล้วก็ลดอาคารแสบไหม้หลังโดนแดดอีกที
P.O. Care : ในส่วนของเรื่องบำรุงผิวหลังโดนแดดเผานี่ถือว่าทำได้ดีมาก ทาแล้วผิวไม่แสบ ไม่ไหม้ นุ่มลื่นขึ้นชัดเจน กันน้ำก็โอเค แต่ประสิทธิภาพกันแดดยังไม่โดนใจเท่าไร เหมาะกับกิจกรรมเบา ๆ ตากแดด ตากฝนได้พอกรุบกริบ
Cancer Council : โดยรวมจริง ๆ เป็นครีมกันแดดที่กันน้ำได้โอเคตัวหนึ่ง แต่ติดตรงที่มีความมันเยิ้มอยู่ ถ้าเล่นกีฬามีเหงื่อคงเหนอะหนะยิ่งกว่านี้ น่าจะต้องใช้เวลารอครีมซึมผิวมากกว่า 20 นาที ถึงจะช่วยกันน้ำ กันแดดได้ดียิ่งขึ้น
