คัพเสื้อในคืออะไร คัพเสื้อใน ดูยังไง แล้ววิธีวัดขนาดเสื้อชั้นในที่ถูกต้องทำอย่างไร ถึงแม้สาว ๆ จะใส่กันอยู่ทุกวัน แต่เรื่องนี้หลายคนอาจจะยังงง ๆ และไม่เข้าใจ วันนี้กระปุกดอทคอมจะพาไปไขข้อสงสัยกัน
หากพูดถึงเรื่องใกล้ตัวอย่าง "ชุดชั้นในผู้หญิง" สาว ๆ หลายคนคงจะรู้กันเป็นอย่างดีแล้วว่าชุดชั้นในมีไว้เพื่อใส่พยุงหน้าอกให้ได้รูปทรงที่สวยงามและดูดี ทั้งยังช่วยป้องกันการหย่อนคล้อยของหน้าอกด้วย ซึ่งขนาดของหน้าอกแต่ละคนนั้นก็จะแตกต่างกันออกไป ทำให้ปัจจุบันยกทรงก็มีหลายขนาดให้เลือกใช้ตามแต่ไซซ์ของแต่ละบุคคลด้วย และด้วยขนาดของหน้าอกที่แตกต่างกันนี้เองจึงทำให้มีคำว่า "คัพเสื้อใน" ขึ้นมา ซึ่ง คัพเสื้อในคืออะไร ดูยังไง แล้ววิธีวัดขนาดเสื้อชั้นในที่ถูกต้องจะสามารถทำได้อย่างไร วันนี้กระปุกดอทคอมมีข้อมูลมาให้ทำความเข้าใจกันค่ะ
คัพเสื้อในคืออะไร ?
ความหมายของ คัพเสื้อใน ก็คือขนาดของยกทรงนั่นเองค่ะ โดยยกทรงจะมีการวัดเป็น 2 ขนาด คือ ขนาดของคัพ และขนาดของรอบอก ซึ่งทั่วไปแล้วการวัดขนาดของยกทรงจะมีระบบที่แตกต่างกันไป โดยมี 2 ระบบ ก็คือ วัดเป็นเซนติเมตร และวัดเป็นนิ้ว และจะแบ่งย่อยออกเป็นคัพ A, B, C, D, E เรียงจากขนาดหน้าอกเล็กและใหญ่ไปตามลำดับ ซึ่งการวัดขนาดของยกทรงในประเทศไทยนั้นส่วนใหญ่มักจะใช้ระบบเซนติเมตรเป็นหลัก ทั้งนี้ คัพเสื้อใน ดูยังไง สาว ๆ สามารถดูได้จากป้ายตัวเลขระบุไซซ์ที่ติดไว้กับชุดชั้นในได้เลยค่ะ ตัวอย่างเช่น A65, B70 หรือ 30A, 32B หรือ 36/80 A, 34/75 B, 32/70 C เป็นต้น
วิธีวัดขนาดเสื้อชั้นใน ทำอย่างไร ?
สำหรับวิธีวัดขนาดเสื้อชั้นใน สาว ๆ สามารถวัดได้ด้วยตัวเอง โดยมีขั้นตอน 3 สเต็ปง่าย ๆ ดังนี้ค่ะ
1. ยืนตรงแล้วใช้สายวัดตัว (หน่วยเซนติเมตร) วัดตำแหน่งรอบอก โดยให้สายวัดผ่านจุดหัวถันทั้ง 2 ข้าง และต้องวัดให้พอดีตัว ไม่รัดแน่นหรือหลวมจนเกินไป
2. ใช้สายวัดวัดรอบใต้อกอีกครั้ง (หน่วยเซนติเมตร) โดยการวัดจุดนี้จะบอกถึงขนาดของลำตัว
3. เมื่อได้ค่าวัดทั้ง 2 จุดแล้ว ให้นำมาคำนวณเปรียบเทียบไซซ์ตามนี้...
สูตรคำนวณง่าย ๆ เพื่อหาขนาดคัพและไซซ์ของยกทรง (* หน่วยวัดเป็นเซนติเมตร)
ขนาดคัพ = ผลต่างของรอบอก (ลบ) รอบใต้อก
ไซซ์หน้าอก = ผลที่ได้จากการวัดรอบใต้อก
เทียบขนาดคัพ
9.0-11.0 ซม. = คัพ A
11.5-13.5 ซม. = คัพ B
14.0-16.0 ซม. = คัพ C
16.5-18.5 ซม. = คัพ D
19.0-21.0 ซม. = คัพ E
21.5 ซม. ขึ้นไป = มากกว่าคัพ E
เทียบขนาดไซซ์หน้าอก
63.0-67.0 ซม. = ไซซ์ 65 ซม. หรือ 30 นิ้ว
68.0-72.0 ซม. = ไซซ์ 70 ซม. หรือ 32 นิ้ว
73.0-77.0 ซม. = ไซซ์ 75 ซม. หรือ 34 นิ้ว
78.0-82.0 ซม. = ไซซ์ 80 ซม. หรือ 36 นิ้ว
83.0-87.0 ซม. = ไซซ์ 85 ซม. หรือ 38 นิ้ว
88.0-92.0 ซม. = ไซซ์ 90 ซม. หรือ 40 นิ้ว
93.0-97.0 ซม. = ไซซ์ 95 ซม. หรือ 42 นิ้ว
98.0-102 ซม. = ไซซ์ 100 ซม. หรือ 44 นิ้ว
103.0-107 ซม. = ไซซ์ 105 ซม. หรือ 46 นิ้ว
ตัวอย่างการคำนวณหาขนาดคัพและไซซ์ของยกทรง
หากวัดรอบอกได้ 85 ซม. และวัดรอบใต้อกได้ 71 ซม. ผลต่างคือ (85-71) = 14 ซม.
ผลที่ได้ ขนาดคัพคือ C และขนาดไซซ์คือ 70
ดังนั้น ขนาดยกทรงที่ได้ก็คือ C70, 32C หรือ 32/70 C เป็นต้น
เป็นยังไงบ้างคะสาว ๆ ทีนี้ก็คงรู้จักว่าคัพเสื้อในคืออะไร พร้อมทั้งได้รู้วิธีวัดคัพเสื้อในกันแล้วใช่ไหมล่ะคะ แต่ถึงอย่างไรก็ตาม เสื้อชั้นในแต่ละไซซ์ แต่ละทรง ของแต่ละยี่ห้อ ก็มักจะมีมาตรฐานที่ขนาดไม่เท่ากัน ทางที่ดีหากอยากได้ขนาดของเสื้อชั้นในที่พอดีกับตัวและหน้าอกของเราจริง ๆ สาว ๆ ควรลองสวมใส่ก่อนตัดสินใจซื้อทุกครั้งจะดีที่สุด นอกจากนี้หน้าอกของผู้หญิงก็มักจะมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาตามสรีระและร่างกาย ดังนั้น แนะนำให้สาว ๆ เช็กขนาดของเสื้อชั้นในปีละประมาณ 1-2 ครั้งด้วยนะคะ เพื่อหน้าอกที่สวยได้รูปและจะได้มีเสื้อชั้นในคู่ใจที่เหมาะกับเราที่สุดนั่นเอง
ขอบคุณข้อมูลจาก : corp.wacoal.co.th, jintana.com
คัพเสื้อในคืออะไร ?
ความหมายของ คัพเสื้อใน ก็คือขนาดของยกทรงนั่นเองค่ะ โดยยกทรงจะมีการวัดเป็น 2 ขนาด คือ ขนาดของคัพ และขนาดของรอบอก ซึ่งทั่วไปแล้วการวัดขนาดของยกทรงจะมีระบบที่แตกต่างกันไป โดยมี 2 ระบบ ก็คือ วัดเป็นเซนติเมตร และวัดเป็นนิ้ว และจะแบ่งย่อยออกเป็นคัพ A, B, C, D, E เรียงจากขนาดหน้าอกเล็กและใหญ่ไปตามลำดับ ซึ่งการวัดขนาดของยกทรงในประเทศไทยนั้นส่วนใหญ่มักจะใช้ระบบเซนติเมตรเป็นหลัก ทั้งนี้ คัพเสื้อใน ดูยังไง สาว ๆ สามารถดูได้จากป้ายตัวเลขระบุไซซ์ที่ติดไว้กับชุดชั้นในได้เลยค่ะ ตัวอย่างเช่น A65, B70 หรือ 30A, 32B หรือ 36/80 A, 34/75 B, 32/70 C เป็นต้น
สำหรับวิธีวัดขนาดเสื้อชั้นใน สาว ๆ สามารถวัดได้ด้วยตัวเอง โดยมีขั้นตอน 3 สเต็ปง่าย ๆ ดังนี้ค่ะ
1. ยืนตรงแล้วใช้สายวัดตัว (หน่วยเซนติเมตร) วัดตำแหน่งรอบอก โดยให้สายวัดผ่านจุดหัวถันทั้ง 2 ข้าง และต้องวัดให้พอดีตัว ไม่รัดแน่นหรือหลวมจนเกินไป
2. ใช้สายวัดวัดรอบใต้อกอีกครั้ง (หน่วยเซนติเมตร) โดยการวัดจุดนี้จะบอกถึงขนาดของลำตัว
3. เมื่อได้ค่าวัดทั้ง 2 จุดแล้ว ให้นำมาคำนวณเปรียบเทียบไซซ์ตามนี้...
ขนาดคัพ = ผลต่างของรอบอก (ลบ) รอบใต้อก
ไซซ์หน้าอก = ผลที่ได้จากการวัดรอบใต้อก
9.0-11.0 ซม. = คัพ A
11.5-13.5 ซม. = คัพ B
14.0-16.0 ซม. = คัพ C
16.5-18.5 ซม. = คัพ D
19.0-21.0 ซม. = คัพ E
21.5 ซม. ขึ้นไป = มากกว่าคัพ E
เทียบขนาดไซซ์หน้าอก
63.0-67.0 ซม. = ไซซ์ 65 ซม. หรือ 30 นิ้ว
68.0-72.0 ซม. = ไซซ์ 70 ซม. หรือ 32 นิ้ว
73.0-77.0 ซม. = ไซซ์ 75 ซม. หรือ 34 นิ้ว
78.0-82.0 ซม. = ไซซ์ 80 ซม. หรือ 36 นิ้ว
83.0-87.0 ซม. = ไซซ์ 85 ซม. หรือ 38 นิ้ว
88.0-92.0 ซม. = ไซซ์ 90 ซม. หรือ 40 นิ้ว
93.0-97.0 ซม. = ไซซ์ 95 ซม. หรือ 42 นิ้ว
98.0-102 ซม. = ไซซ์ 100 ซม. หรือ 44 นิ้ว
103.0-107 ซม. = ไซซ์ 105 ซม. หรือ 46 นิ้ว
หากวัดรอบอกได้ 85 ซม. และวัดรอบใต้อกได้ 71 ซม. ผลต่างคือ (85-71) = 14 ซม.
ผลที่ได้ ขนาดคัพคือ C และขนาดไซซ์คือ 70
ดังนั้น ขนาดยกทรงที่ได้ก็คือ C70, 32C หรือ 32/70 C เป็นต้น
เป็นยังไงบ้างคะสาว ๆ ทีนี้ก็คงรู้จักว่าคัพเสื้อในคืออะไร พร้อมทั้งได้รู้วิธีวัดคัพเสื้อในกันแล้วใช่ไหมล่ะคะ แต่ถึงอย่างไรก็ตาม เสื้อชั้นในแต่ละไซซ์ แต่ละทรง ของแต่ละยี่ห้อ ก็มักจะมีมาตรฐานที่ขนาดไม่เท่ากัน ทางที่ดีหากอยากได้ขนาดของเสื้อชั้นในที่พอดีกับตัวและหน้าอกของเราจริง ๆ สาว ๆ ควรลองสวมใส่ก่อนตัดสินใจซื้อทุกครั้งจะดีที่สุด นอกจากนี้หน้าอกของผู้หญิงก็มักจะมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาตามสรีระและร่างกาย ดังนั้น แนะนำให้สาว ๆ เช็กขนาดของเสื้อชั้นในปีละประมาณ 1-2 ครั้งด้วยนะคะ เพื่อหน้าอกที่สวยได้รูปและจะได้มีเสื้อชั้นในคู่ใจที่เหมาะกับเราที่สุดนั่นเอง
ขอบคุณข้อมูลจาก : corp.wacoal.co.th, jintana.com