ฮันนีมูนคนเดียว เทรนด์ฮิตของคู่แต่งงานยุคใหม่ ไม่ต้องมานั่งทะเลาะกันเรื่องสถานที่กระชับความหวานให้เสียเวลา เพราะเดี๋ยวนี้เขาไปเที่ยวคนเดียวกันได้แล้ว
คู่รักหลายคู่มักจะทุ่มเทเวลาในการเตรียมตัวจัดงานแต่งงานมานานนับปี ทั้งเตรียมของ ทั้งเชิญแขก พอถึงวันแต่งจริง ๆ ยังต้องมายืนเหนื่อยกันให้วุ่น เพื่อให้วันนั้นเป็นวันอันแสนพิเศษที่น่าจดจำ หลังจากวันงานที่วุ่นวายจบลง ถ้าได้ไปพักผ่อนฮันนีมูนกันสัก 2-3 วัน แบบไม่ต้องห่วงอะไรเลยคงจะสุขใจไม่น้อย อย่างไรก็ตาม ใช่ว่าการไปฮันนีมูน จะนำมาซึ่งความสุขเสมอไป เพราะคู่รักหลายคู่กลับต้องมาทะเลาะเรื่องไลฟ์สไตล์การท่องเที่ยว ที่ช่างแตกต่างกันเสียเหลือเกิน ฝ่ายหญิงชอบท่องเที่ยวตามชนบท ส่วนฝ่ายชายกลับชอบดูแสงสีอยู่ในเมือง ถ้าเป็นเสียอย่างนี้ การเริ่มต้นเที่ยวด้วยกัน ในฐานะสามีและภรรยา คงปั่นป่วนไม่แพ้เตรียมจัดงานแต่งแน่นอน
แต่ไม่ต้องเป็นห่วงไป หากใครกลัวว่าการเลือกสถานที่ไปเที่ยวจะทำให้น้ำผึ้งพระจันทร์แสนหวาน กลับกลายมาเป็นน้ำผึ้งสุดขม เพราะเดี๋ยวนี้เขากำลังมีเทรนด์ใหม่ อย่างการไป ฮันนีมูนคนเดียวนั่นเอง ว่าแต่การไปฮันนีมูนคนเดียวจะแก้ปัญหานี้ได้จริง หรือว่าจะยิ่งทำให้ทะเลาะกันหนักกว่าเดิมนั้น วันนี้กระปุกดอทคอมได้หาข้อมูลน่าสนใจนี้มาฝากกันแล้ว
โดยเทรนด์การแยกกันไปเที่ยวในช่วงฮันนีมูนนั้น เกิดขึ้นมาจากความชอบของคนรุ่นใหม่ ที่อยากจะออกไปดูโลกกว้างตามแต่ใจอยากไป เลยเกิดเป็นกระแสการท่องเที่ยวคนเดียวขึ้นมา แม้กระทั่งช่วงหลังแต่งงาน ความชอบส่วนตัวแบบนี้ก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปเลย คู่รักที่คบกันมานานคงเข้าใจเรื่องนี้ดี อย่างคู่ของ Irene O’Brien สาวสวยวัย 37 ปี และสามีของเธอ Mel Maclaine วัย 40 ปี ทั้งคู่ต่างมีความชอบเรื่องการท่องเที่ยวที่ต่างกัน ฉะนั้นหลังจากวันที่ทั้งคู่แต่งงาน แล้วต้องไปฮันนีมูนกัน Irene O’Brien จึงตัดสินใจไปเที่ยวแคนาดาคนเดียว เพราะเธออยากไปเที่ยวที่นั่นมานานมากแล้ว ส่วนสามีของเธอเลือกที่จะไปเที่ยวฝรั่งเศส เพราะเขาอยากดูทีมฟุตบอลสุดโปรดลงแข่งขันที่นั่น โดยทั้งคู่ไม่ได้บอกใครเกี่ยวกับเรื่องนี้ เนื่องจากกลัวคนอื่นมองว่ามันเป็นเรื่องแปลก แต่พอกลับมาจากทริปฮันนีมูนแบบแยกกันไป พวกเขาทั้งสองไม่ได้รู้สึกเสียดายอะไรเลยที่ไม่ไปเที่ยวด้วยกัน ทว่า กลับรู้สึกดีและเหมือนได้ปลุกพลังความรักขึ้นมาใหม่ด้วยซ้ำ ด้วยทั้งคู่มีเรื่องอยากเล่าให้อีกฝ่ายได้ฟังมากมาย แถมช่วงเวลาที่แยกกันนั้น ก็ทำให้คิดถึงกันมากขึ้นเสียอีก
ซึ่งคู่รักหลายคู่ที่ผ่านการแต่งงานและเคยไปฮันนีมูนร่วมกันมาแล้ว ต่างเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับเทรนด์ใหม่นี้ ฝั่งที่เห็นด้วย ส่วนใหญ่แล้วมักจะพบเจอกับประสบการณ์ฮันนีมูนที่ไม่น่าประทับใจเท่าไร มีทั้งคู่ที่ได้อยู่แต่ในโรงแรมทั้งวัน เพราะอีกฝ่ายไม่ชอบพบเจอผู้คน หรือบางครั้งก็ต้องได้ไปเที่ยวในประเทศที่ตนไม่ค่อยอยากจะไป แต่ขัดใจคู่รักไม่ได้ เป็นต้น สำหรับฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย ให้เหตุผลมาว่าการไปฮันนีมูน เปรียบเหมือนจุดเริ่มต้นของการใช้ชีวิตคู่ การได้ทะเลาะกันบ้าง ได้รับรู้ข้อดี-ข้อเสียของกันและกันระหว่างไปท่องเที่ยว จะได้นำมาปรังปรุงความสัมพันธ์ในอนาคตได้นั่นเอง
ทั้งนี้ สำหรับเทรนด์การฮันนีมูนคนเดียวไม่ใช่เรื่องที่ถูกหรือผิด แต่อาจจะดีกับคู่รักที่มีไลฟ์สไตล์ต่างกันเสียอีก ส่วนคู่รักคู่ไหนที่มีไลฟ์สไตล์เหมือนกัน ชอบในสิ่งเดียวกัน การเลือกไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์พร้อมกันก็น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดี อย่างไรก็แล้วแต่ การฮันนีมูนคนเดียวหรือฮันนีมูนเป็นคู่ต่างก็มีข้อดีทั้งนั้น ซึ่งมันก็ขึ้นอยู่ที่ความชอบและความสบายใจของแต่ละคู่นั่นเอง
ข้อมูลจาก : irishexaminer.com, nypost.com, nytimes.com
แต่ไม่ต้องเป็นห่วงไป หากใครกลัวว่าการเลือกสถานที่ไปเที่ยวจะทำให้น้ำผึ้งพระจันทร์แสนหวาน กลับกลายมาเป็นน้ำผึ้งสุดขม เพราะเดี๋ยวนี้เขากำลังมีเทรนด์ใหม่ อย่างการไป ฮันนีมูนคนเดียวนั่นเอง ว่าแต่การไปฮันนีมูนคนเดียวจะแก้ปัญหานี้ได้จริง หรือว่าจะยิ่งทำให้ทะเลาะกันหนักกว่าเดิมนั้น วันนี้กระปุกดอทคอมได้หาข้อมูลน่าสนใจนี้มาฝากกันแล้ว
ซึ่งคู่รักหลายคู่ที่ผ่านการแต่งงานและเคยไปฮันนีมูนร่วมกันมาแล้ว ต่างเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับเทรนด์ใหม่นี้ ฝั่งที่เห็นด้วย ส่วนใหญ่แล้วมักจะพบเจอกับประสบการณ์ฮันนีมูนที่ไม่น่าประทับใจเท่าไร มีทั้งคู่ที่ได้อยู่แต่ในโรงแรมทั้งวัน เพราะอีกฝ่ายไม่ชอบพบเจอผู้คน หรือบางครั้งก็ต้องได้ไปเที่ยวในประเทศที่ตนไม่ค่อยอยากจะไป แต่ขัดใจคู่รักไม่ได้ เป็นต้น สำหรับฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย ให้เหตุผลมาว่าการไปฮันนีมูน เปรียบเหมือนจุดเริ่มต้นของการใช้ชีวิตคู่ การได้ทะเลาะกันบ้าง ได้รับรู้ข้อดี-ข้อเสียของกันและกันระหว่างไปท่องเที่ยว จะได้นำมาปรังปรุงความสัมพันธ์ในอนาคตได้นั่นเอง
ข้อมูลจาก : irishexaminer.com, nypost.com, nytimes.com