ศรเทพ ศรทอง เผยชีวิตนักร้องลูกทุ่งสายเปย์ เผยถ้าชอบใครจะถอดสร้อยคอให้เลย

          ศรเทพ ศรทอง เผยชีวิตสายเปย์ ลั่น ผู้ชายไม่เจ้าชู้ก็เหมือนงูไม่มีพิษ-ถ้าชอบใครจะถอดสร้อยคอให้เลย จากที่ไม่มีเงิน วันนี้ให้เงินสดลูกได้ 16 ล้านบาท
ศรเทพ ศรทอง

          "ขับรถสองแถว ส่งแอ๋วเรียนราม..." เป็นประโยคจากเพลงฮิตที่หลายคนคุ้นหู ผลงานของ ศรเทพ ศรทอง นักร้องลูกทุ่งชื่อดังในอดีต ซึ่งล่าสุด (23 ตุลาคม 2562) ศรเทพ ศรทอง ก็ขอควงลูกสาวมาเปิดใจถึงเรื่องราวชีวิตที่ผ่านมา กว่าจะมาถึงจุดที่โด่งดัง มีกินมีใช้ ต้องผ่านอะไรมาบ้าง ในรายการ คุยแซ่บShow ทางช่อง One31 ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์ และ หนิง ปณิตา เป็นพิธีกร

เพลงนี้ดังมากสมัยก่อน “ส่งแอ๋วเรียนราม” มันดังขนาดไหน ?

          ศรเทพ ศรทอง : ก็ดังจนตั้งวงเป็นหัวหน้าคณะ ตั้งวงได้เกือบ 2 ปี ไปเล่นทีไรแฟนเพลงมาให้กำลังใจแน่น ต้องกราบขอบคุณแฟนเพลงทั้งเก่าและใหม่ที่เคยให้ความเมตตากับศรเทพ ศรทอง แล้วต่อมาก็มีอุปสรรคเรื่องวง คือคนที่เป็นผู้จัดการวงไปเอาผู้มีอิทธิพล พวกมือปืนมาคุมวง แล้วเปอร์เซ็นต์ที่เราจะได้รับก็ขอยืม ๆ ไปก่อน ก็เลยมีปัญหา ก็ขอแยกตัวไป แล้วก็มีคนเข้าไปเสนอว่า เราไปถือไมค์ร้องเพลง อีกคนเอาปืนไปส่องหน้าเวที มีโอกาสพลาด ก็เลยตัดสินใจไปบวชอยู่หลายเดือน จนสบายใจแล้วออกมา

แอ๋วนี่คือใคร ?

          ศรเทพ ศรทอง : แอ๋วเป็นคนที่รักกันชอบกัน มีตัวตน ถามว่าเขาเป็นกิ๊กไหม ก็มีนิดหน่อย

เขาบอกว่าป๋านี่สายเปย์ เห็นทั้งสร้อยทั้งเพชรแบบนี้ ถ้าถูกใจใครถึงกับถอดให้เลยจริงไหม ?

          ศรเทพ ศรทอง : ก็ส่วนใหญ่จะเป็นเช่นนั้น คือเอกลักษณ์ รถหนึ่งคัน บ้านหนึ่งหลัง

สร้อยที่ป๋าใส่อยู่ทั้งหมดนี่หนักไหม ?

          ศรเทพ ศรทอง : ก็หลายกิโล มันมากกว่าหลายร้อยบาท เส้นใหญ่สุดหนัก 108 บาท

แต่ละวงที่ใส่อยู่ในมือ ทำไมป๋าต้องใส่คู่กันสองวง ?

          ศรเทพ ศรทอง : ในโอกาสข้างหน้าเผื่อจะมีคู่บ้าง
ศรเทพ ศรทอง

แสดงว่าวันนี้ป๋าโสด ?

          ศรเทพ ศรทอง : วันนี้มาโสดเลย

เรื่องความเจ้าชู้ของป๋า ?

          ศรเทพ ศรทอง : เกิดมาเป็นผู้ชาย ถ้าผู้ชายไม่เจ้าชู้เหมือนงูไม่มีพิษ

สมัยก่อนคุยกับสาวพร้อมกันกี่คน ?

          ศรเทพ ศรทอง : คือสมัยที่โด่งดังใหม่ ๆ กลิ่นอายของความดัง ชื่อเสียงเพลง อิทธิพลเพลงที่มีความโด่งดังเข้าไปในจิตใจคน ซึมซับเข้าไป แล้วเมื่อก่อนมันดังด้วยธรรมชาติ ทำด้วยตัวเองแล้วไม่มีเงิน สมัยนั้นระบบนายทุนจ้างเปิดแล้ว ทีนี้ป๋าไม่มีเงินที่จะไปจ้างเขาเปิดเลย เอาแผ่นไปให้เขาเปิด แล้วเอาแผ่นคืนไป สถานีวิทยุนู้นมาช่วยเปิดแล้วขอแผ่นคืนไปเปิดให้นักจัดรายการช่วย จนกระทั่งเพลงได้รับความสนใจและโด่งดังขึ้นมา ถ้ามีเงินเหมือนสมัยนี้ประเทศไทยก็คือประเทศไทยของเรา จะจ้างให้เรียบ เปิดที่ไหนก็จะได้ยินเสียง แต่สมัยก่อนมันไม่มีทุน สมัยตั้งวงเรามีโอกาสแต่ขาดเวลา คือผู้หญิงสวย ๆ ที่เข้ามาติดพันหรือมาชอบ คือไม่มีเวลาที่จะสานต่อ เพราะจะต้องเดินทางตลอด

คุณมุ่ยเป็นยังไงคะความเจ้าชู้ของป๋า ?

          มุ่ย : คุณป๋าเป็นคนใจดี รักทุกคนที่เข้ามา เป็นคนใจมาก เพราะฉะนั้นลูกสาวจะต้องเป็นคนสกรีนให้ แต่ก็มีที่เราไม่รู้ ตอนนี้ก็มีบ้าง แต่เราไม่ค่อยรู้แล้ว

ในฐานะที่เราเป็นลูก มีคนมายุ่งวุ่นวายกับพ่อแล้วเราไม่ชอบมีไหม ?

          มุ่ย : ก็มีค่ะ เพราะว่าเราก็จะดู สกรีน เข้ามาแล้วเราเห็นคนนี้แปลก ๆ ก็ไปดูว่าคนนี้เป็นใครมาจากไหน มีที่มาที่ไปยังไง ถ้าเห็นว่าไม่โอเคเราก็จะกระซิบบอกคุณพ่อ

ทุกวันนี้มีไหมที่เข้ามาเสนอตัว ?

          ศรเทพ ศรทอง : ก็มีนะ เขามีเสนอตัวเข้ามา แต่ว่าก็มีข้อเสนอ ก็เอกลักษณ์ รถหนึ่งคัน บ้านหนึ่งหลัง แล้วก็แหวนเพชร เงินอีกต่างหาก ลูกสาวเขาบอกอย่างนี้ อะไรที่เป็นความสุขของพ่อ ลูกคนนี้จะไม่เคยขัดใจ

ตอนเด็ก ๆ ลำบากไหม ?

          มุ่ย : ถ้าถามความรู้สึกเราคิดว่าไม่ได้ลำบาก แต่รู้ว่าคุณพ่อไปเดินสายร้องเพลง เดี๋ยวคุณปู่ คุณย่า ขึ้นมากรุงเทพฯ มาอยู่เป็นเพื่อนหลาน แล้วพ่อก็ไปเดินสาย 2-3 วันพ่อก็กลับมา กลับมาแป๊บหนึ่งพ่อก็ไป

พี่มุ่ยเป็นลูกที่รักที่สุด ?

          ศรเทพ ศรทอง : ถ้าบอกว่ารักที่สุดก็อาจจะใช่ เพราะว่าเราเลี้ยงมา ห่วงใยมา เป็นลูกที่เกิดมาว้าเหว่ระหว่างครอบครัวบ้านแตก เราจะทำยังไงให้ลูกมีชีวิตดี แล้วเราก็ไม่คิดว่าฐานะเราจะเป็นยังไง ยังไม่รู้บั้นปลาย เพราะว่าความรู้เราก็ไม่มี เรียนแค่ ป.4 จะเรียนต่อคุณแม่ก็เป็นชาวนา ชาวไร่ ก็ไม่มีเงินส่งให้เรียน จบแค่ ป.4 ทำไร่ ไถนา เดินตามควาย

เกี่ยวไหมที่พยายามส่งลูกให้เรียนสูง ๆ เพราะว่าเราจบแค่ ป.4 ?

          ศรเทพ ศรทอง : ก็มีความคิดแบบนั้นว่าเราเรียนน้อย เมื่อเรามีฐานะแล้วก็ให้เขาเรียน แต่ก็ต้องดูปัญญาของลูกด้วยนะ ถ้าเขาไม่ฉลาด เราจะไปบังคับเขาไม่ได้นะ ต้องปล่อยตามธรรมชาติว่าเขาไปได้ขนาดไหน

ป๋าตอนนั้นเรียนแค่ ป.4 แล้วออกมาเลยเหรอ ?

          ศรเทพ ศรทอง : ป.4 พอดีมันไม่มีเส้นก็เลยต้องออกมา ตอนนั้นครูใหญ่จะขอเอาไปอุปการะ ขอคุณพ่อ คุณแม่เลยจะเอาไปส่งเรียนเอง ลุงกับป้าไม่ต้องนะเดี๋ยวครูจะส่งเอง แม่บอกกับครู ถ้าฉันให้ลูกไปใครจะช่วยฉันทำนา ฉันก็แก่ลงทุกวัน ฉันหวังให้ลูกเรียนจบ ป.4 แล้วมาช่วยฉันทำนา แต่คนเรามันอยู่ที่บุญและวาสนา

          จากนั้นก็บากหน้าเข้ากรุงเทพฯ ไปร้องเพลงอยู่กองดุริยางค์ ของสมเด็จพระนเรศวร ดนตรีทหาร แล้วก็อยากจะดัง เราก็เข้ากรุงเทพฯ เลย มาก็ไม่มีที่นอน ไม่รู้จะนอนไหน เข้า ปตอ. เลย ไปนอนอยู่หน้าสถานี ปตอ. มีศาลายงใจยุทธอยู่ ก็ช่วยเขาล้างรถ พอเขาเข้ามาจัดรายการก็ไปสมัครกับเสน่ห์ เพชรบูรณ์ เขาก็ฝากอยู่ดนตรีรุ่งนิรันดร์ ก็พอมีที่นอนก่อน เราตั้งใจจะมาอยู่วงดัง แต่เราไม่รู้จักใคร ก็เลยไปเอาวงดนตรีที่ไม่มีชื่อเสียงเลย พอให้เรามีที่อยู่ก่อนไม่ให้ค่าตัวก็ไม่เป็นไร พอจะกลับไปบ้านก็อายเขา เพราะกลับไปทีไรเขาก็ถามกลับมาแล้วเหรอ แล้วเมื่อไหร่จะไปอีก เราก็คิดว่าถ้าไม่ดังจะไม่กลับ

ศรเทพ ศรทอง

สุดท้ายก็ดังจนได้ จากไม่มีกิน มานอนศาลา แต่วันนี้ป๋าสามารถให้เงินสดลูกได้ถึง 16 ล้าน ?

          ศรเทพ ศรทอง : เป็นเงินให้เป็นทุน

อันนี้เขาเรียกว่าสปอยล์ไหม ?

          ศรเทพ ศรทอง : เป็นเงินทุนที่สนับสนุนให้ลูกไปทำธุรกิจ

คุณมุ่ย 16 ล้านตอนนั้นไปทำอะไร ?

          มุ่ย : พอดีทำโรงงาน เดิมคุณพ่อมีโรงงานอยู่แล้ว เรามีโรงงานผลิตยาสมุนไพรอยู่แล้ว

          ศรเทพ ศรทอง : โรงงานจริง ๆ มี 4 โรงงานผลิตยาสมุนไพรตรา ศรเทพ แล้วหมอมุ่ยเขาอยากมีโรงงานผลิตน้ำ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เขาอยากจะได้ GMP เลย เงินไม่พอพ่อก็ต้องดันลูกให้ลูกเขาไป

ลูกได้ไป 16 ล้าน ทำไมหลานได้ไป 18 ล้าน ?

          ศรเทพ ศรทอง : คือไม่ได้บอกใคร มันเกิดกัลยาณมิตรขึ้น ตอนที่หมอมุ่ยแต่งงาน แล้วป่านนี้แล้วทำไมไม่มีน้อง แล้วจะมีเมื่อไหร่ เขาก็บอกว่าอยากมีแต่ไม่มี จะมีก็มีสงสัยพ่อแก่ตายก่อนมั้ง เราก็บอกว่าสงสัยจะเกิดยาก อยู่ ๆ ก็เกิดมา ตอนที่ยังไม่เกิด เขาถามว่าถ้าเกิดมาพ่อจะตั้งชื่อว่าอะไร ถ้าเกิดมาเป็นคนมีบุญก็ต้องชื่อมีบุญ พอดีเกิดมา มาบอกป๋าว่าโรงพยาบาลบอกว่าวันที่ 24 มิถุนายน ครบกำหนดผ่าคลอด เราก็ไม่เป็นไร เราก็ตั้งใจรอ อยู่ ๆ คุณแม่เขาโทร. มาว่ามุ่ยปวดท้อง น้ำเดิน เราก็บอกให้ไปโรงพยาบาล แล้วเราก็ตามไป ซึ่งมันตรงกับวันที่ 18 พฤษภาคม คือมันมีอยู่ในใจแต่เราไม่ได้ลั่นวาจาออกไป เราก็มีเงินอยู่ 40-50 ล้าน ที่ออม ๆ ไว้ เขาเกิดวันที่ 18 แสดงว่าเขาไม่ต้องการเลข 4 เขาต้องการเลข 8 ก็มีเงินอยู่ เอา 18 ล้านให้กับน้องมีบุญเลย

ธุรกิจของป๋า ยาสมุนไพรเห็นว่าฟ้องร้องกันมา 10 กว่าปีเกิดอะไรขึ้น แล้วตอนนี้ยังไง ?

          ศรเทพ ศรทอง : คือเมื่อก่อนยามันขายดีมาก ขายเดือนนึงหลายสิบล้าน ภาคใต้นี่ 40 ล้าน แต่ละภาคได้เงินมาเดือนนึงเป็นร้อยล้าน โรงงานเรามีแต่มันไม่ทันต่อความต้องการของคนที่ต้องการยาตราศรเทพ ยาตัวนั้นเป็นนารายณ์ 499 แล้วก็มีรูปพระนารายณ์เป็นโลโก้ เครื่องหมายการค้า ตรานารายณ์ทอง 499 แล้วก็มีรูปของศรเทพ ศรทอง ใส่เสื้อสีม่วงยืนอยู่ข้างกล่อง

          ผลปรากฏว่าโรงงานที่เราทำ เราไปจ้างเขาผลิตเสริม พอเขาเห็นรายได้เราขายได้เขาก็เกิดความโลภ อยากได้เครื่องหมายนารายณ์ทอง 499 เขาก็มีพรรคพวกอยู่ อย. เป็นนิติกร เขาก็วางแผนปลอมแปลงเอกสารสิทธิ ปลอมลายมือของอาจารย์ศรเทพ ศรทอง เอาไปแอบโอนกันที่กรมทรัพย์สินทางปัญญาเลย ทางนู้นก็โอนให้เรียบร้อยเป็นชื่อเขาหมดเลย แค่นั้นยังไม่พอ เขาทำหนังสือจากกอง อย. ว่าเครื่องหมายการค้า ตรานารายณ์ทอง 499 เป็นของเขา เขาก็ส่งไปตามร้านขายยาที่เราขายอยู่พันกว่าแห่งทั่วประเทศ ร้านยาพอเห็นเครื่องหมายการค้าเป็นของคนนู้น เขาบอกให้เก็บยาของศรเทพกลับคืนมาให้หมด เพราะเป็นยาผิดกฎหมาย เขาเป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้าจริง ๆ มันก็เป็นจริง ๆ เพราะเขาโอนไปแล้ว

          เราก็เลยทำการปรึกษาฝ่ายกฎหมาย ให้ทนายเอาเอกสารไปแจ้งความ กว่าจะเข้าเรื่อง กว่าจะต่อสู้คดีมาก็เล่นกันมาหนัก หลังจากเราสู้คดีมาขณะนั้นยาไม่ได้ขายเลยนะ ลูกสาวเกิดไอเดีย บอกว่า พ่อ คนรู้จักพ่อนับถือพ่อทั้งนั้น ก็ไปถ่ายรูปเสื้อสีม่วงยืนข้างกล่องเป็นตราศรเทพอย่างเดียวก็ได้ ยาเรามีทะเบียนเราก็ทำยาออกมา ก็เลยเป็นตราศรเทพอยู่ทุกวันนี้ แล้วการฟ้องร้องตอนนี้จบแล้ว ยังไม่ได้ฟ้องค่าเสียหาย แล้วคนที่โกงเครื่องหมายการค้าไปก็ตายไปแล้วด้วย

          ติดตามรายการ คุยแซ่บShow ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 13.30-14.30 น. ทางช่อง One31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama

เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ศรเทพ ศรทอง เผยชีวิตนักร้องลูกทุ่งสายเปย์ เผยถ้าชอบใครจะถอดสร้อยคอให้เลย อัปเดตล่าสุด 24 ตุลาคม 2562 เวลา 17:29:30 41,986 อ่าน
TOP
x close