x close

แดน บุรีรัมย์ เผยเส้นทางชีวิต จากนักร้อง สู่ตลก - เผยต้องแอดมิตด่วน หลังสูญเสียภรรยา

          แดน บุรีรัมย์ เผยเส้นทางชีวิตกว่า 60 ปี จากนักร้อง สู่ตลก - เป็นคนตั้งฉายา หม่ำ จ๊กมก เปิดที่มาทำว่าจ๊กมก - เผยต้องแอดมิตด่วน หลังภรรยาเสียชีวิต
แดน บุรีรัมย์

ภาพจาก รายการคุยแซ่บShow

          วันที่ 22 สิงหาคม 2563 รายการคุยแซ่บShow ทางช่อง One31 ซึ่งมี พีเค ปิยะวัฒน์ และ ชมพู่ ก่อนบ่าย เป็นพิธีกร ได้เปิดใจสัมภาษณ์ แดน บุรีรัมย์ ตำนานครูเพลงชั้นเซียน และตลกตัวพ่อ ที่ออกมาเล่าเรื่องราวในชีวิต เส้นทางในวงการเกือบ 60 ปี กับชีวิตที่พลิกผันจากนักร้องต้องกลายมาเป็นตลกและยังมีดีกรีเป็นถึงครูเพลง พร้อมเผยความรู้สึกหลังสูญเสียภรรยาจนถึงขั้นเกือบตรอมใจ ต้องหามส่งเข้าโรงพยาบาล
 

ครูแดนเข้าวงการตั้งแต่อายุ 17 เลยเหรอ ตอนนั้นเป็นยังไงบ้าง ?


          ครูแดน : เรียนจบใหม่ ๆ ตอนนั้นอยู่ประมาณชั้น ม.6 เรียนเสร็จก็ทำนาก็ค่อนข้างลำบาก ทีนี้อยากมาเป็นนักร้องเพราะใจเราชอบ

เพราะอะไรอยากเป็นนักร้อง ?


          ครูแดน : จริง ๆ หัดร้องมาตั้งแต่เด็ก ๆ แล้ว ร้องหน้าห้องเรียนบ้าง พอเข้าโรงเรียนการช่างเริ่ม ม.1 ทางโรงเรียนมีสอนดนตรีเราเลยเรียนดนตรีไปในตัวด้วย

ครูมีความใฝ่ฝันอยากเป็นนักร้องแต่ทางบ้านไม่อยากให้เป็น ?


          ครูแดน : ใช่ สมัยก่อนคนเฒ่าคนแก่เขาบอกว่าเต้นกิน รำกิน เขาไม่ชอบ เขาก็ถามว่าจะเอาตัวรอดหรอเต้นกินรำกิน เขาให้ทำนาอย่างเดียว แต่ใจเรามันชอบเพราะหัดดนตรีมาตั้งแต่เด็ก ๆ ก็อยากเป็นนักร้องให้ได้ พอดีไปอ่านหนังสือเพลงเจอว่าเขารับสมัครนักร้อง อยากจะมาร้องเพลง ขอตังค์พ่อแม่ก็ไม่ให้เพราะเขาไม่ชอบ เลยไปขอพี่ชายเขาให้มาร้อยนึงเลยมาเลย

พอไปสมัครแล้วเป็นยังไง ?


          ครูแดน : พอไปสมัครวันนั้นเลย รถมาถึงเย็นแล้วก็ไปเจอกับเขาที่ผ่านฟ้าโรงพิมพ์บรรลือสาส์น เจอเขาก็ได้คุยกับเขา เราก็ยังไม่ได้ร้องเพลงให้เขาฟัง จนมืดเขาก็ชวนไปบ้านด้วย ยังไม่ได้รับสมัครเรา

ไปที่บ้านได้ไปร้องเพลงให้ฟังต่อมั้ยหรือไปคุยอะไรกัน ?


          ครูแดน : ยัง เข้าไปก็ไม่ได้คุยอยู่บ้านก็ไม่ได้คุยเลย พอตื่นเช้าก็มาที่ทำงานเค้าใหม่ที่โรงพิมพ์ เขาก็ให้เราเข้าไปรอในร้านกาแฟ บอกให้เรากินก๋วยเตี๋ยวตรงนี้ได้ ตัวเค้าก็เข้าไปทำงานไปตรวจพรู๊ฟเพลงบ้าง ถึงตอนเที่ยงเขาให้เราร้องเพลงให้ฟัง พอร้องไปได้ครึ่งเพลงเขาก็บอกให้เรานั่ง ใจเราก็เต้นว่าเขาฟังไปครึ่งเพลงเขาคงไม่รับเราหรอก พอเขาเลิกงานเขาก็บอกว่าตกลงรับอยู่ด้วยก็แล้วกัน ผมมากับเพื่อนอีกคนนึง เด่น บุรีรัมย์

ในที่สุดก็มีเพลงเป็นของตัวเองแต่ไม่ประสบความสำเร็จเท่าไหร่ ?


          ครูแดน : ก็เงียบ ๆ คนไม่ค่อยขอมาเท่าไหร่

แล้วคนที่ไปด้วยกัน ?


          ครูแดน : เค้าดัง เด่น บุรรีรัมย์ เค้าเริ่มดังเพลงแรกเลย  เพลงคิดดูดีดี

ครูก็เลยตัดสินใจไปอยู่กับอีกวงนึง เกิดอะไรขึ้น ?


          ครูแดน : ใช่ ไปอยู่รวมดาวกระจาย ก็เปลี่ยนจากนักร้องอย่างเดียวมาเป่าแซ็กด้วย ซึ่งเราเคยเรียนมาสมัยเป็นนักเรียน เป็นนักดนตรีด้วยได้ค่าตัวเพิ่มก็โอเคนะ ตกลงก็ร้องเพลงด้วย เป่าแซ็กด้วย อยู่กับครูสำเนียงก็ให้อัดเพลงคอยหาคู่เป็นเพลงโห่ พออัดกับเค้าเสร็จเดินสายกับเค้าได้ 2 ปี มีเพื่อนที่อยู่ในวงเดียวกัน รุ่งทวี หนองแค กับ ประสพโชค มีลาภ ที่แต่งเพลงหลวงปู่ทวดเหยียบใจ เค้าก็ออกจากวงรวมดาวกระจายแล้วเค้าก็ไปประกาศรับสมัครนักร้องประกาศตั้งวงแล้วในนั้นมีชื่อเรา แดน บุรรีรัมย์ ชลธี ธารทอง ประยงค์ ชื่นเย็น มาอยู่คณะเขา เราไม่รู้เรื่องเลย ก็เป็นเรื่อง

เจ้าของโกรธมั้ย ?


          ครูแดน : โกรธน่ะสิ หัวหน้าวงไม่ถามไม่อะไรเลย ไล่ออกเลย เขารู้ว่าเราจะออกก็ไล่ออกไปเลย คืนนั้นที่ต้องเล่นพิษณุโลกผมก็ไม่ได้เล่นด้วย ไม่ได้ค่าตัวแล้วเงินก็ไม่มีเก็บ

โดนไล่ออกไปแล้ว เงินก็ไม่มีเก็บ ทำยังไง ?


          ครูแดน :  ก็ไม่รู้จะทำยังไงนั่งดูดนตรีเค้าเล่น

ชีวิตต้องพลิกผันไปเล่นตลก ?


          ครูแดน : ใช่ ตั้งวงได้ปีเดียว ชลธีก็แยกวง ปี 2511 สุรพลตายพอดี ชลธีเขาแยกวงเค้าก็เอาตลกไปด้วย วงเราที่ตั้งใหม่ไม่มีตลก ผมก็เลยต้องออกไปเล่นตลก ไปเล่นตลกคนเดียว

ไม่เคยเล่นแล้วใช้อะไร ครูพักลักจำ ?


          ครูแดน : ถูกต้อง กูจำอวดอะนะ ก็จำเค้ามาอวด

แล้ว ณ ตอนนี้ 2020 ยังสามารถเล่นตลกได้มั้ย ?


          ครูแดน : ตอนป่วยก็ยังเล่นอยู่ยังมีลูกน้องในคณะอยู่ ตอนหลัง ๆ ไม่ได้เล่น

หม่ำ จ๊กม๊ก

ภาพจาก Instagram motjokmok

ครูแดนตั้งชื่อให้พี่หม่ำด้วย เป็นพี่หม่ำ จ๊กมก ตอนนั้นเห็นอะใรตัวพี่หม่ำ ?


          ครูแดน :  ตอนนั้น เทพ โพธิ์งามเขาหาตลกก็มีมาสมัครกันเยอะ ใครเล่นได้ อยู่ได้ แต่ที่มาสมัครก็เยอะ เดือนนึงถ้าไม่เข้าตาเขาก็ให้ออก เทพเขาค่อนข้างเป็นคนหงุดหงิดง่าย แล้วหม่ำมาตอนหลังเพื่อนเลย เขามาสมัครก็อยู่ได้ พอใกล้จะครบเดือนเขาก็จะเดินออกแล้ว ที่เรียกหม่ำ จ๊กมก เพราะเมื่อก่อนเค้าไม่มีรถแล้วเค้ามานั่งรถผมแล้วเค้านั่งรอแบบซกมก ก็เลยเป็นหม่ำ จ๊กมก

พอเป็นตลกเต็มตัวเคยคิดหันหลังให้วงการนักร้องมั้ย ?


          ครูแดน : จริง ๆ อาชีพนี้ผมชอบนะ แล้วก็อยู่แบบนี้มาค่อนชีวิตเลย รักลูกทุ่ง ชอบลูกทุ่ง จะว่าทิ้งเลยก็ไม่เชิง เรายังรักอยู่ แต่จะรับงานให้น้อยหน่อยเพราะไม่สบายมาปีกว่า

สิ่งหนึ่งที่รักมากคือภรรยา ขอแสดงความเสียใจด้วย ภรรยาเสียเมื่อปีที่แล้ว ?


          ครูแดน : เมื่อ 2 ปีที่แล้ว 2561

ตอนนั้นเป็นยังไงบ้าง ?


          ครูแดน : เขามีโรคประจำตัวพวกเบาหวาน ความดัน พอดีวันนั้นความดันเค้าขึ้นแล้วก็ล้ม เส้นเลือดแตก ตั้งแต่นั้นก็ต้องเจาะคอหายใจไม่ออก กินอาหารทางคอ จนมาได้ปีกว่ากลายเป็นคนไข้ติดเตียงได้ปีกว่าก็เสียชีวิต เสียเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2561

ครูดูแลมาตลอด ?


          ครูแดน : ใช่ ดูแลตลอด ผมมีภรรยาคนเดียว อยู่กันมาตั้งแต่แต่งงานมาเมื่อปี 2511 ที่รู้จักกันเพราะสอนเขาเต้นหางเครื่อง เพราะตอนนั้นผมตั้งวงแล้วไม่มีนักร้อง ไม่มีหางเครื่อง ก็ต้องประกาศวิทยุแล้วก็รับสมัครนักร้อง พอมาก็ไม่มีใครสอนเต้น ผมก็ต้องสอนเต้น ให้หัดนับชะชะช่า ด้วยความสนิทแล้วเราก็มองเขา เรารักเขา รักชอบเขา ก็เลยสนิทเป็นส่วนตัว

ภูมิใจมั้ยว่าเราได้อยู่ทุกช่วงชีวิตของเค้าจนมาถึงช่วงสุดท้ายของชีวิต ?


          ครูแดน : เราก็ตั้งใจมาโดยอย่างนั้นตลอด เราอยู่ด้วยกันมา 50 ปีได้

ถือว่าเป็นเรื่องที่เสียใจที่สุดในชีวิตมั้ย ?


          ครูแดน : ก็เสียใจที่สุด นอกจากพ่อแม่ก็เขาแหละ เราอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่หมอนมีใบเดียว มุ้งก็ไม่มี นักร้องมันจนมาก เรานอนหนุนหมอนแล้วให้เค้านอนหนุนแขนเรา

ช่วงที่ภรรยาป่วย 1 ปีที่อยู่ดูแลกัน ได้มีโอกาสพูดคุยหรือทิ้งทิ้งท้ายคำพูดอะไรกันมั้ย ?


          ครูแดน : ไม่ได้พูดอะไรกันเลย ตั้งแต่เค้าล้มวันนั้นคือวันเกิดเสรี รุ่งสว่าง พอดี ปกติผมจะชวนเขาไปแต่วันนั้นเขาไม่ไป ผมยังไปไม่ถึงงานเสรีที่บางใหญ่เลยก็ได้ข่าวว่าแฟนล้ม ลูก ๆ ก็เอาเข้าโรงพยาบาล ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาก็พูดอะไรไม่ได้แล้ว ผ่าตัดสมองแล้ว

มีช่วงที่เรานอนร้องไห้คนเดียวมั้ย ?


          ครูแดน :  ก็คิดนะ เคยมีเขาแล้วไม่มี บ้านก็ว่าง ลูก ๆ ก็แยกไปทำงานหมด เหลือเราคนเดียว ยังดีที่ได้ลูกสาวที่เป็นลูกเลี้ยงเรา จนตอนนี้เขาลาออกจากพยาบาลแล้วมาอยู่พยาบาลผมจนถึงตอนนี้

เวลาอยู่คนเดียวคิดถึงขนาดไหน ?


          ครูแดน : คิดถึงมาก เพราะเขาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ตีกันซักแปะยังไม่มีเลยจนตายจากกัน

ครูแดนสัญญากับภรรยาคนนี้ว่าจะรักกันไปจนตาย ?


          ครูแดน : ใช่ เราจะอยู่จะรักกันไปจนตาย ก็จนตายจากไปจริง ๆ พอเขาตายไม่เท่าไหร่ผมก็ไม่สบายเลย ผมก็เป็นเหมือนเขาเหมือนกันเส้นโลหิตตีบ แต่ของผมมันตีบยังไม่ถึงขั้นแตก มันก็เป็นอัมพฤกษ์ไปครึ่งตัวทางขวา

ที่เป็นเพราะเกี่ยวเนื่องจากความเครียดที่ภรรยาเสียหรือจากสุขภาพตัวเอง ?


          ครูแดน : น่าจะเป็นเกี่ยวกับสุขภาพตัวเองมากกว่า การพักผ่อนน้อย

มีสัญญาณบอกก่อนมั้ยหรือวูบลงไปเลย ?


          ครูแดน : มีสัญญาณบอกคือเราเดินไม่ได้ ปากเบี้ยว ก็ไม่คิดว่าเป็นเส้นโลหิตตีบ ลูก ๆ เลยรีบพาไปหาหมอ เค้าก็ทำซีทีแสกนหมดทั้งตัวเลย ก็เป็นอัมพฤษ์ไปครึ่งตัว พูดไม่ชัด เราก็ไปทำกายภาพบำบัด ฉีดยา ทำทุกอย่างที่เค้ามี ก็หายได้

ออกจากโรงพยาบาลก็กลับมาทำงานลูกแอบเป็นห่วงมั้ย ?


          ครูแดน : เขาก็เป็นห่วง แต่เค้าก็มีงานการทำกัน

ตอนนี้ครูแดนยังไม่อยากออกจากวงการบันเทิงนักร้องหรือตลกเลย ?


          ครูแดน : ไม่อยากออกหรอก แต่ก็รับงานให้มันน้อย ๆ หน่อย

แสดงว่าในปี 2020 พ่อเลือกรับงานน้อยลง รับที่โดนใจมากสุด พ่อเลือกยังไง ?


          ครูแดน : ใช่ เลือกเล่นน้อยหน่อย อย่างมีถ่ายหนังก็เล่นบทน้อยหน่อย งานคอมเม้นท์ประกวดร้องเพลงยังได้อยู่

          ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา13.40-1430 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama

 

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
แดน บุรีรัมย์ เผยเส้นทางชีวิต จากนักร้อง สู่ตลก - เผยต้องแอดมิตด่วน หลังสูญเสียภรรยา อัปเดตล่าสุด 22 สิงหาคม 2563 เวลา 14:57:35 7,558 อ่าน
TOP