x close

อยู่บ้านทากันแดดไหม ? ไขข้อข้องใจ ไม่ได้ออกไปไหน ทำไมต้องทาครีมกันแดด

          อยู่บ้านต้องทากันแดดไหม หนึ่งในคำถามที่หลายคนสงสัย วันนี้เราจะพามาหาคำตอบว่า ครีมกันแดดจำเป็นแค่ไหน อยู่บ้านทำไมต้องทากันแดด พร้อมวิธีดูแลผิวให้สวยสดใส ห่างไกลผิวเสียจากรังสี UV
ครีมกันแดด

          ครีมกันแดด เป็นหนึ่งในสกินแคร์รูทีนที่ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดและรังสี UV รวมถึงป้องกันปัญหาผิวต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นผิวไหม้ ผิวลอก หมองคล้ำ และความเสี่ยงต่อมะเร็งผิวหนัง ด้วยเหตุนี้เราจึงควรทาครีมกันแดดก่อนออกไปทำธุระนอกบ้านเป็นประจำ แต่ถ้าเราไม่ได้ออกไปไหนเลยล่ะ อยู่บ้านทากันแดดไหม หรือทำงานในออฟฟิศ ไม่ต้องเผชิญกับแสงแดดแบบจัง ๆ ครีมกันแดดยังจำเป็นหรือเปล่า ? สิ่งเหล่านี้กลายเป็นประเด็นที่หลายคนสงสัย วันนี้กระปุกดอทคอมจะพาไปหาคำตอบกันค่ะ

อยู่บ้านทากันแดดไหม ?

          ใครที่กำลังคิดว่าไม่ได้ออกไปข้างนอก อยู่แต่ในร่ม ไม่เจอแสงแดด ไม่ต้องทาครีมกันแดดหรอก จะได้ประหยัด ไม่ต้องซื้อบ่อย ๆ บอกเลยว่าต้องรีบเปลี่ยนความคิดด่วน ๆ เลย เพราะรู้หรือไม่ว่า ต่อให้เราจะอยู่ในบ้านหรือในร่ม แต่ก็ไม่สามารถหลีกหนีแสงแดดและรังสี UV ได้ทั้งหมด โดยเฉพาะรังสี UVA ที่เป็นรังสีคลื่นยาวที่มีอานุภาพสูง จึงสามารถเล็ดลอดเข้ามาในอาคารได้ และรังสีชนิดนี้นี่แหละที่เป็นตัวการทำร้ายผิวของเราได้ลึกถึงชั้นผิวหนังแท้ หากโดนบ่อย ๆ ละก็จะส่งผลให้คอลลาเจนและอีลาสตินในผิวถูกทำลาย ทำให้เกิดริ้วรอยได้ง่าย ใบหน้าดูแก่กว่าวัย และยังเสี่ยงต่อมะเร็งผิวหนังด้วย ดังนั้นจึงสรุปได้ว่า ถึงอยู่บ้านก็ต้องทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวันนะคะ

รังสี UV ที่อยู่ในร่มมาจากไหน

  • หน้าต่างกระจกบ้านหรือออฟฟิศ

          เพียงแค่เราเปิดม่าน เปิดหน้าต่าง เท่านี้ก็ถือเป็นการปล่อยให้รังสี UVA เข้ามาได้แล้วล่ะ แม้จะดูเหมือนว่ากระจกจะช่วยกรองแสงแดดได้ในระดับหนึ่ง แต่ผู้ร้ายตัวจริงอย่างรังสี UVA ก็ยังทะลุทะลวงเข้ามาได้ ทำให้ผิวของเราคล้ำเสียและแก่เร็ว โดยกระจกแต่ละแบบจะปล่อยให้รังสี UV เข้ามาได้แตกต่างกัน ดังนี้

          - กระจกใส รังสี UVA จะสามารถทะลุผ่านเข้ามาได้ถึง 75%

          - กระจกสีหรือกระจกสะท้อนแสง รังสี UVA สามารถทะลุผ่านเข้ามาได้ 25-50%
 

  • หลอดไฟฟลูออเรสเซนต์

          แม้ว่าจะปิดม่าน อยู่ในห้องเปิดไฟเฉย ๆ แต่แสงจากหลอดไฟ LED ก็สามารถทำร้ายผิวของเราได้เช่นกัน เพราะในหลอดไฟฟลูออเรสเซนต์มีสารปรอทอยู่ เมื่อผ่านกระแสไฟจะทำให้ปล่อยพลังงานออกมาในรูปแบบของรังสี UV แล้วไปกระทบกับสารเรืองแสงฟอสฟอรัสที่ฉายอยู่ด้านในหลอดไฟ สารเรืองแสงนี้ก็จะดูดซับ UV เอาไว้ หลังจากนั้นก็จะเปล่งแสงในความยาวคลื่นที่สายตาเรามองเห็น เลยทำให้หลอดไฟชนิดนี้มีแสง UV เล็ดลอดออกมาได้ แต่อยู่ในระดับที่ไม่อันตรายต่อผิวหนังค่ะ
 

  • หน้าจอโทรทัศน์ คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ

          หลายคนอาจเคยได้ยินว่าหน้าจอต่าง ๆ ก็มีรังสี UV ที่ทำร้ายผิวได้ แต่ที่จริงหากเป็นโทรศัพท์มือถือ โทรทัศน์ คอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นแบบจอแบนหรือ LCD ที่เราใช้ในปัจจุบัน จะไม่มีรังสี UV ออกมาเลย หรือมีก็น้อยมาก ๆ แต่มีแสงสีฟ้าแทน ซึ่งเป็นอันตรายต่อดวงตามากกว่าผิวหนัง ทั้งนี้ก็ไม่ควรมองข้ามค่ะ หากเป็นไปได้ควรใช้เวลาอยู่กับแสงจากหน้าจอเหล่านี้ให้น้อยลงบ้างจะดีกว่า

ครีมกันแดด

วิธีดูแลและปกป้องผิว

จากรังสี UV ในที่ร่ม ทำอย่างไรดี

          ถ้าเพื่อน ๆ อยากรักษาผิวสวยให้อยู่กับเราได้นาน ๆ เรามีวิธีปกป้องผิวจากแสงแดดและรังสี UV ในที่ร่มมาแนะนำกันแล้วค่ะ

1. เลือกทาครีมกันแดดที่ปกป้องได้ทั้ง UVA และ UVB

          สังเกตง่าย ๆ คือมีทั้งค่า SPF และ PA โดยระดับ SPF ตั้งแต่ 30 ก็เพียงพอแล้ว ส่วนค่า PA ก็อยู่ที่ระดับ PA+++ นอกจากนี้ควรเลือกแบบที่มีส่วนผสมของ Zinc oxide, Titanium dioxide, Broad-spectrum ที่ช่วยลดความระคายเคืองและสะท้อนแสงออกไปก็จะดีค่ะ

2. ติดกระจกที่สามารถป้องกันรังสี UV ได้

          ลองเปลี่ยนกระจกหน้าต่างบ้านเป็นแบบที่ป้องกันรังสี UV ก็จะช่วยปกป้องผิวมากขึ้นได้ หรือถ้าเราอยู่ในอาคารอื่น ๆ แล้วรู้สึกไม่แน่ใจ ให้พยายามอยู่ให้ห่างจากกระจกเป็นดีที่สุดค่ะ

3. ติดผ้าม่านกันแดด

          ไม่ว่าจะเป็นบ้านที่ติดหรือไม่ติดกระจก ก็ควรมีผ้าม่านกันแดดไว้อีกชั้นหนึ่ง อย่างน้อยก็ช่วยลดปริมาณรังสี UV ทะลุผ่านมาได้ระดับหนึ่ง
ครีมกันแดด

4. สวมเสื้อผ้าแขนยาวหรือขายาว

          ใครกลัวผิวหมองคล้ำ อาจต้องยอมทนร้อน ใส่เสื้อผ้าแขนยาว ขายาว เพื่อป้องกันผิวหนังช่วงแขนและขา หรือเลือกสวมเสื้อผ้ากัน UV ก็ได้ค่ะ

5. ดื่มน้ำให้เพียงพอ

          การดื่มน้ำจะช่วยไม่ให้ผิวแห้งกร้าน ลดการระเหยความชื้นในผิวหนัง และยังป้องกันอาการขาดน้ำด้วย

          รู้กันไปแล้วว่าถึงอยู่บ้านก็ต้องทาครีมกันแดด ไหนจะแสงจากหลอดไฟ ริมหน้าต่าง ยิ่งช่วงนี้หลายคนทำกับข้าวกินเอง ไอความร้อนจากเตาก็อาจทำลายผิวหน้าได้เช่นกันนะคะ ดังนั้นอย่าปล่อยให้ทุกอย่างสายเกินไป ถ้าไม่อยากหน้าเหี่ยว หรือมีปัญหาผิวอื่น ๆ ตามมา !

ขอบคุณข้อมูลจาก : nbcnews.com, byrdie.com, everydayhealth.com, smartskincare.com

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
อยู่บ้านทากันแดดไหม ? ไขข้อข้องใจ ไม่ได้ออกไปไหน ทำไมต้องทาครีมกันแดด อัปเดตล่าสุด 19 มิถุนายน 2566 เวลา 14:38:06 23,723 อ่าน
TOP