ควงกันออกมาเปิดใจที่แรกสำหรับ ปีเตอร์ ธูนสตระ กับแฟนสาว จอย สุจิตราเผยเส้นทางรักกว่า 12 ปีที่ไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อน และเปิดใจถึงอาการป่วยโรคธาลัสซีเมียของแฟนสาวที่เกือบเอาชีวิตไม่รอด รวมไปถึงถูกบูลลี่ว่าไม่เหมาะสม ถูกไล่ให้ไปทุบหน้า ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่อง One31 ที่มี ธัญญ่า ธัญญาเรศ และ ชมพู่ ธัณย์สิตา เป็นพิธีกรดำเนินรายการ
ไม่เคยเปิดตัวที่ไหนมาก่อน แล้วคบกันมา 12 ปีแล้ว ?
ปีเตอร์ : ใช่ครับผม
ทำไมถึงเพิ่งมาเล่น TikTok อัดคลิปที่เป็นกระแสอยู่ตอนนี้ ?
จอย : เล่นมานานแล้วค่ะ แต่ว่าเพิ่งมาเป็นกระแสตอนที่อยู่โรงพยาบาล คือว่าตอนนั้นไม่แต่งหน้าแล้วถ่ายรูป คนก็เลยเข้ามาถามว่าป่วยจริงไหม ตัดต่อภาพหรืออะไร แล้ววันนั้นเป็นวันเกิดของคุณปีเตอร์ เราอยู่โรงพยาบาลแล้วไปเที่ยวที่ไหนด้วยกันไม่ได้ เขาก็เลยมาอยู่โรงพยาบาลด้วยกัน เราก็เลยเอ่อ.. แต่งหน้าถ่ายรูปสักหน่อย
คือคนเขาคิดว่าเราถ่ายคนเดียวแล้วเอาพี่ปีเตอร์มาตัดต่ออยู่ข้าง ๆ ?
จอย : ใช่ค่ะ เขาก็ว่าเราตัดต่ออะไรประมาณนี้อะค่ะ
จุดเริ่มต้นของความรักรู้จักกันได้ยังไง ?
ปีเตอร์ : ตอนแรกคือเขาทำงานที่ห้าง แล้วบังเอิญไปเจอเขาที่ทำงานอยู่ ก็เอ๊ยน่ารักก็เลยเข้าไปคุยกัน แล้วเป็นยังไงต่อเล่าให้ฟังหน่อยครับ
จอย : วิ่งหนีค่ะ (หัวเราะ) คือวันนั้นเขามากินข้าวแต่ไม่ได้กินร้านเรานะ ไปกินร้านตรงข้าม แล้วเขาเดินมาหาเราด้วยความที่เราพูดภาษาไม่เป็น พูดได้แค่ไทยอย่างเดียว ก็เลยหนีเดินเข้าร้าน เขาก็พยายามเรียก เราก็ส่งเจ้าของร้านออกไปคุย บอกว่าฝรั่งคนนี้เขาจะเอาอะไรไม่รู้ ให้ไปรับรองหน่อย พอเฮียเขาเดินออกมาเขาก็บอกว่าเขาอยากคุยกับจอยอะ เขาจะคุยด้วย
ตอนนั้นพี่ปีเตอร์พูดภาษาอังกฤษหรือภาษาไทย ?
จอย : ภาษาไทยได้ แต่ยังฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง ยังไม่ชัดเท่าตอนนี้
ตอนที่เดินไปในห้างแล้วเห็นผู้หญิงคนนี้ปรากฎตัวต่อหน้าเราคือแบบสเปกเลยไหม ?
ปีเตอร์ : ก็คิดว่าคนนี้น่ารัก ก็อยากคุย เพราะเราไม่ได้ไปที่นี่ประจำ ไปงานพอดีเลยอยากถือโอกาสถ้าไม่ได้คุยวันนี้ ก็คงไม่ได้ข้ามกรุงเทพฯ มาอีก เห็นแล้วก็เลยอยากลองคุยกันดู
ถ้าวันนี้ไม่ได้คุย คิดว่าจะเสียโอกาสไหม ?
แสดงว่าเป็นคนชอบผู้หญิงตัวเล็ก น่ารักใช่ไหม ?
สรุปวันนั้นเขาได้สั่งข้าวไหม ?
ปีเตอร์ : ต้องหาโอกาสไม่ใช่ว่าปล่อยโอกาสผ่านไป ก็ต้องถือโอกาส
แล้ววันแรกที่โทรศัพท์หาคุยกันนานไหม ?
จอย : ก็ประมาณ ชั่วโมง สองชั่วโมง
ปีเตอร์ : ถึงเปล่า
จอย : เกือบ ๆ เพราะว่าวันนั้นฝนตก หลบฝนอยู่ในห้าง ไม่มีอะไรทำก็เลยคุย
ตอนนั้นเขาพูดภาษาไทยไม่ชัด เราคุยกันรู้เรื่องไหมคะ ?
ตอนแรกที่คุยคือยังไง แนะนำตัวซึ่งกันและกันหรือเปล่า ?
จอย : ใช่ ค่ะคือเขาจะเป็นคนถามมากกว่า ถามว่าเราทำงานที่นี่นานหรือยัง อยู่ที่ไหน อยู่กับพ่อแม่หรือเปล่า ก็เลยตอบรวดเดียวไปเลย ตอนนี้อยู่กับลูกนะ มีโรคประจำตัวนะ คือบอกหมดทุกอย่างที่เขาอยากรู้ ก็คิดว่าให้รู้ไปเลยวันแรก ถ้าไม่คุยต่อก็คือจบไปเลย ก็แอบกลัวแต่สักวันเขาก็ต้องรู้แหละ ถ้าไปรู้ตอนหลังมันจะเสียความรู้สึก
ตอนนั้นรู้ไหมว่าเขาเป็นดารา ?
จอย : ไม่รู้ คิดว่าเป็นชาวต่างชาติทั่วไป
ตอนแรกเราไม่รู้ว่าเขาเป็นดาราเขามาจีบเราเรารู้สึกไหมว่าเขาก็หล่อนะ ?
จอย : หล่อนะ แต่ว่าหนูไม่ค่อยชอบฝรั่ง ไม่ชอบคนต่างชาติ เพราะว่าตัวใหญ่ ฟังไม่รู้เรื่องด้วย
ปีเตอร์ : ถือว่าอดทนมา 12 ปี ถือว่าไม่ค่อยชอบแต่ก็ทนได้ใช่ไหม
จอย : หมายถึงตอนแรก ๆ
รู้สึกยังไงพอคุยกันไปเรื่อยๆ ?
เห็นว่าคุยกันไประยะหนึ่งแล้วคุณจอยตั้งย้ายไปอยู่ใต้ ?
ปีเตอร์รู้สึกยังไงกำลังคุยกำลังจีบก็ต้องไปใต้แล้ว ?
ตอนแรกเราประทับใจอะไรในตัวเขา ?
พอหลังจากไปอยู่ใต้ 3 เดือน เริ่มเดตกันตอนไหน ?
แสดงว่าตั้งแต่คุยโทรศัพท์ยังไม่ได้เจอกัน ?
ตอนนั้นรู้สึกยังไงตื่นเต้นไหม ?
นอกจากมีคนมองแล้ว เวลาไปไหนมีคนมาขอถ่ายรูปเขาไหม ?
ทำไมถึงไม่บอกไปเลยว่าเราเป็นนักแสดง ?
พอคุณแม่ของจอยรู้ก็ตกใจเลย ?
อะไรที่ทำให้เรามั่นใจว่าเขาไม่ได้เข้ามาคุยเล่นแล้ว ?
จอย : อะไรดี (หัวเราะ) คือทุกอย่างที่เขาดูแลเรา
ปีเตอร์ : ดูแลนานพอสมควร พิสูจน์กันและกัน เขามาช่วยดูแลตอนที่เราลำบาก
คุยกันอยู่นานไหมถึงตัดสินใจเป็นแฟนกัน วางอนาคตด้วยกัน ?
ปีเตอร์ : ไม่ได้พูดเลยเนาะ เราสนิทและดูแลกันมาเรื่อย ๆ
จอย : คนเขาเห็นเขาก็รู้กันเอง ว่าคบกัน
มีเอ่ยปากบอกเป็นแฟนกันนะบ้างไหม ?
ปีเตอร์ : ก็ไม่ได้พูดตรงเลยเนาะ เราเข้าใจกันเองมากกว่า
จอย : ถามเขาว่าไม่อายเหรอมาคบกับฉัน
ปีเตอร์ : เขาเป็นคนถามตรงแบบนี้แหละ
อายุห่างกัน 11 ปีมีผลบ้างไหม ?
ปีเตอร์ : ก็ไม่ค่อยเท่าไรนะ ไม่มี ถ้าเป็นวัยรุ่นอาจจะมากกว่า ถ้าเลย 30 ไปแล้วรู้สึกว่าไม่ต่างอะไรมากหรอก ตอนนี้ก็อายุ 50 แล้วออกกำลังกายตลอด มีผลช่วยได้แน่นอน
โรคประจำตัวของพี่จอย ?
จอย : เป็นโรคธาลัสซีเมียตั้งแต่กำเนิด เริ่มให้เลือดมาตั้งแต่ 4-5 ขวบ ทำให้ร่างกายรับธาตุเหล็กเกิน ตั้งแต่เจอเขาเขาก็หาทางรักษา
ปีเตอร์ : ตอนแรกที่คบกัน เราก็ไม่เคยเก็ต แต่พอคบกันจริง ๆ แล้วเขาต้องเข้าโรงพยาบาลบ่อย เหมือนเพิ่งเข้าไปไม่นานเข้าอีกแล้ว เราเลยให้เขาเขียนมาแล้วก็ไปหาข้อมูล
จอย : หมอก็จะนัดติดตามอาการทุกเดือน ไปก็จะให้เลือด ถ้าไม่มีเลือดจากโรงพยาบาลก็จะเปิดรับบริจาค แต่ช่วงโควิด เลือดก็ขาดแคลนมากต้องนอนอยู่โรงพยาบาลนาน 2 เดือนตัวก็ซีดลงเรื่อย ๆ
ปีเตอร์ : สำหรับคนที่ไม่รู้โรคธาลัสซีเมียคือ ไม่สามารถผลิตเซลล์เม็ดเลือดแดงสมบูรณ์ ซึ่งเซลล์เม็ดเลือดแดงมีหน้าที่รับออกซิเจนที่เราหายใจเข้าไปในร่างกาย ถ้าร่างกายไม่สามารถผลิตเซลล์ได้ก็ต้องรับเลือดที่บริจาคมา ก็จะช่วยได้แค่ 1 เดือน ก็ต้องไปหาหมอเรื่อย ๆ ทุกเดือน
ไปโรงพยาบาลทุกเดือน นอนทีละกี่วัน ?
เวลาไปนอนโรงพยาบาลพี่ปีเตอร์ก็จะไปเฝ้า ?
ทำไมถึงอยากดูแลอยู่ข้างๆ เขา ?
โรคนี้จริง ๆ ทำให้หายขาดได้ด้วยการปลูกถ่ายกระดูกสันหลัง ?
จอย : ใช่ค่ะ ช่วงนั้นคือที่เจอคุณปีเตอร์อายุเกินแล้ว เขาก็พาไปหาหมอหลายโรงพยาบาลว่าสามารถทำได้ไหม หมอก็ไม่แนะนำให้ทำเพราะอายุเกิน อายุต้องประมาณ 20
ปีเตอร์ : และถ้าร่างกายข้างในเสียธาตุเหล็กไปเยอะ เขาก็ไม่อยากให้เสี่ยง เพราะก่อนจะทำต้องทำลายไขกระดูกของเราก่อนแล้วเอาอันสมบูรณ์เข้ามา ถ้าร่างกายไม่สมบูรณ์มันก็จะอันตราย
จอย : เราก็ตัดม้ามไปตั้งแต่อายุ 10 ขวบ ภูมิต้านทานไม่มีก็จะป่วยง่าย
ค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน ?
จอย : เยอะค่ะ
ปีเตอร์ : แต่ประกันสังคมช่วยส่วนหนึ่ง แต่อีกส่วนเราก็ต้องรับผิดชอบเอง
ไม่ให้ทางเขาไปทำงานด้วย ?
ปีเตอร์ : ไม่เชิงว่าห้าม หรือบังคับเด็ดขาด เราคุยกันว่าธรรมชาติถ้าจะหยุดทุกเดือน เดือนละ 3-5 วัน ใครจะให้เราทำแล้วป่วยมายังต้องพักงานอีก ภาวะทำงานหนักก็กลัวป่วยอีก
จอย : มีภาวะกระดูกบางด้วย หักง่าย หมอบอกว่าต้องระวังเวลานั่งแรง ๆ เคยมีซี่โครงหักอยู่ครั้งหนึ่งนานแล้ว ตกจากที่สูงมา นั่งอยู่หลังรถกระบะ
มีครั้งหนึ่งไปหาหมอช้าเกือบไม่รอด ?
มีเรื่องลูกชายที่ต้องปรับตัวด้วย ?
ลูกชายเขายอมรับเราไหม ?
เราบอกลูกเราว่ายังไงตอนนั้นมีเขาเข้ามา ?
ทุกวันนี้เขาเข้าใจแล้ว มีมาปรึกษาอะไรกับเราไหม ?
จอย : ไม่มีค่ะ เขารู้แล้วว่าเขาเป็นคนดูแลคุณแม่ดูแลไปถึงลูกชายด้วย
ปีเตอร์ : เสียดายอย่างหนึ่งเขาไม่ได้พูดภาษาอังกฤษตั้งแต่เด็ก จับเรียนตอนนี้ก็ยาก ไม่อย่างนั้นจะได้สองภาษาไปเลย
ทำยังไงให้ลูกเขายอมรับในตัวเรา ?
ปีเตอร์ : ก็จริง ๆ แล้วโชคดีที่เขาเป็นคนสนุกสนานอารมณ์ดีไม่มีอะไรต้องปฏิเสธอะไร ด้วยความเป็นผู้ชายด้วยก็จะชวนกันไปเล่นเกมในห้าง
คาดหวังในอนาคตไหมเขาจะเรียกเราเปลี่ยนสถานะไหม ?
ปีเตอร์ : ผมโอเคนะครับ อยากให้ทุกคนแฮปปี้ ถ้าเขาโอเคที่เรียกว่าลุงผมก็แฮปปี้ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือความรู้สึกไม่ใช่คำพูด ก็เป็นลุงกับหลานที่สนิทกันพอสมควร เขาเลี้ยงลูกเก่งมาก
จอย : ตามนั้นเรียกยังไงก็ได้ เพราะเขาไม่ได้ซีเรียส สบาย ๆ
โดนบูลลี่ยังไงบ้าง ?
จอย : เขาบอกว่าไม่เหมาะสม ไม่สวย มาทางคอมเมนต์ ตอนแรกบอกว่าเราจ้างคุณปีเตอร์มาพูดได้เท่าไรตอนไลฟ์ ก็คิดว่าเราจ้างเขามา ตอนแรกบอกตัดต่อภาพ วิดีโอ ไลฟ์ บอกเขาเป็น AI บอกให้หนูไปทำหน้าใหม่ สวยนะแต่ไปทำจมูก ตัดกราม เหลากราม ทำให้หมดเลย ไม่เคยอยากตอบโต้เขา แต่ก็มีแฟนคลับน่ารักมากเป็นเอฟซีเขาก็ตอบกลับแทนทุกอย่าง เราก็อยู่เฉย ๆ เขาชอบเราที่เป็นแบบนี้
ปีเตอร์ : ใช่อย่างที่บอกฝรั่งชอบแบบนี้ มันคือสเปก บางคนเป็นเกรียนคีย์บอร์ด
เคยปรึกษากันเรื่องนี้ไหม ?
มีนั่งร้องไห้น้อยใจ ?
ให้กำลังใจกันยังไงบ้าง ?
ปีเตอร์ : พยายามสะกิดเขาบอกคุณรอดมาเยอะแล้ว ไม่ต้องสนใจคนอื่น เขามีคนที่รักดูแลอยู่แล้ว แต่ความรู้สึกเขาอาจจะแย่หน่อย
ฝากถึงคนที่มาบูลลี่ ?
จอย : ไม่รู้จะบอกอะไรเขาดี ถึงบอกไปเขาก็ทำอยู่ดี อยากให้คิดก่อนพูด ดูความจริงก่อน
ปีเตอร์ : เช่นกัน จริง ๆ แล้วคิดว่าเป็นคำพูดที่เอ่ยออกไป แต่เราควรระมัดระวังมันเหมือนอาวุธ อย่าพูดอะไรที่ทำให้คนอื่นรู้สึกไม่ดี
ติดตามชมรายการ คุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา13.15-14.15 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ YouTube Channel : Orange Mama
ติดตามข่าวที่น่าสนใจ
- เจมส์ จิรายุ ตอบแล้ว บวชแล้วแต่งเลยไหม เผยเหตุลงรูปคู่โฟม รู้สึกผิดกับแฟน ?
- มะม่วง แฟนอ้วน รังสิต ประวัติสาวเกาหลีคนสวย ดีกรีนางแบบ
- นิโคลัส ฮอว์ ประวัติหนุ่มบาริสต้าตาน้ำข้าว แฟนยิปซี คีรติ
- นาย ชนุชตรา ฉลองรักแฟนใหม่ครบ 1 ปี สุดโรแมนติก คนแห่ลุ้นแต่งงานรอบ 2
อ่านข่าวบันเทิง ข่าวดารา ที่น่าสนใจอื่น ๆ