มาตัง เดอะสตาร์ ออกโรงป้อง สไมล์ ภาลฎา ไม่ได้เป็นเด็กเลี้ยงแกะ เผยตัวเองก็เคยโดนโดยคนเดียวกัน จนกลายเป็นคนวิตกจริต จิตตก ถึงขั้นอยากจบชีวิตตัวเองไปเลย จะได้ไม่ต้องมาเจอเขาอีก
หลังจากที่ สไมล์ ภาลฎา หรือ สไมล์ เดอะสตาร์ 8 ออกมาเปิดใจในรายการ De - Talk ทางยูทูบช่อง 3D Channel ถึงเรื่องราวมรสุมชีวิตที่่ผ่านมาอย่างหนักหน่วงตั้งแต่อายุยังน้อย เล่าถึงปมในใจที่เป็นแผลฝังลึกมาจนถึงทุกวันนี้ เมื่อครั้งอายุ 15 ปี มีพี่คนหนึ่งเป็นอดีตผู้ใหญ่ที่คอยดูแล ซึ่งเธอให้ความรักและเคารพเรียกว่าแม่ แต่คนนั้นกลับคิดเรื่องชู้สาวกับเธอ ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อคนอื่นรับรู้เรื่องนี้ กลับมองเธอว่าเป็นเด็กเลี้ยงแกะ หลังจากนั้นชีวิตก็เริ่มเป๋
อ่านข่าว : ตั้ม แฉเอง สไมล์ เจอเรื่องหนักในวงการ โดนโขกสับ โดนใช้ทำรายงานให้ดาราอีกคน
ล่าสุด (18 กันยายน 2566) มาตัง ระดับดาว หรือ มาตัง เดอะสตาร์ 11 ได้ออกมาไลฟ์เล่าเรื่องที่ถูกกระทำจากคนคนเดียวกันว่า ตังไม่ได้โดนคุกคามทางเพศ แต่โดนคุกคามในเรื่องพื้นที่ส่วนตัว ครอบครัวตังรับรู้ แต่เขาเป็นผู้ใหญ่ที่น่าเคารพคนหนึ่ง ที่ตัดสินใจออกมาพูดเพราะอยากเป็นพยานบุคคลยืนยันว่าที่พี่สไมล์พูดเป็นเรื่องจริง เพราะตังเคยโดนมาแล้ว ซึ่งตังก็ไม่รู้ว่าก่อนหน้าและหลังจากตังมีใครโดนอีกไหม
เรื่องนี้เกิดขึ้นตอนตังอยู่ ม.4-6 แต่ไม่ขอเอ่ยถึงว่าคนนั้นเป็นใคร หลังประกวดจบรายการตอนนั้นแต่ละคนไม่ได้มีผู้จัดการเป็นของตัวเอง ตังเป็นเด็กต่างจังหวัดเลยไม่มีผู้จัดการ 100 เปอร์เซ็นต์ พี่คนนี้เลยยื่นมือมาช่วยเหลือในเรื่องการทำงาน แรก ๆ เรารู้สึกขอบคุณที่เขาช่วยเหลือดูแล เราเลยไว้ใจเขามาก เราทำอะไรเรารายงานเขาหมด แต่เรื่องมันแย่ลงตอนที่เราเริ่มมีความรัก ตอนพูดคุยกับเพศตรงข้าม พอพี่เขารู้มันมีเหตุการณ์ที่พี่เขาไม่โอเค กีดกันตัง ทั้งที่เราไม่เคยนัดเจอกันนอกโรงเรียน มันเริ่มหนักขึ้นตอนที่เขาคุกคามในพื้นที่ส่วนตัวเรา ตังจิตตกมาก ถึงขั้นอยากจบชีวิตตัวเองไปเลย เพื่อพ่อแม่จะได้สบายใจ จะได้ไม่ต้องมาเจอเขาอีก
เขาเอามือถือตังไปดู มาอ่านแชต แล้วก็ตำหนิตัง มีการมาที่โรงเรียนเรียกตังและผู้ชายคนนั้นมาคุยให้เลิกคุยกัน เขาคาดหวังให้ตังเป็นศิลปินโด่งดังสุด ๆ ซึ่งตังก็เข้าใจว่าเขาหวังดี แต่บางอย่างมันเกินความสามารถเขา สุดท้ายก็เลยต้องเลิกคุยกัน แต่ก็ยังติดต่อกันอยู่ จนเขารู้ เขาก็มาดักรอที่หน้าโรงเรียนเพื่อมาแอบดูว่าตังมาโรงเรียนหรือยังและมากับใคร เพื่อน ๆ ทุกคนเห็น เขาชอบทำตัวลับ ๆ ล่อ ๆ หน้าโรงเรียน ชอบบุกมารับที่โรงเรียน มาพูดว่าเขาเห็นนะว่าเราทำอะไร เขาฟอลโลไอจีเพื่อนของตังทุกคน เพื่อดูว่าตังทำอะไรบ้าง เขาสนับสนุนให้ตังคบผู้หญิงด้วยกัน
ช่วงคอนเสิร์ต Big Mountain ปีแรกที่ตังขึ้น เพื่อนผู้ชายคนแรกบอกว่าเขาจะไม่มา แต่สรุปเขามาเซอร์ไพรส์วันเกิดเรา เราบอกพี่ผู้หญิง (ผู้จัดการคนดังกล่าว) ว่าเราจะไปหาเพื่อนนะ อยู่ ๆ พี่เขาก็เดินมาทำหน้าหาว่าเราโกหก ความจริงเราไม่รู้ว่าเขาจะมา คืนวันนั้นพี่เขาเอามือถือตังไปเปิดไลน์ดูว่าตังคุยกับใครบ้าง และเช็กว่าเรารู้หรือไม่รู้จริง ๆ ถ้าโดนฟ้องก็ไม่เป็นไร เราเก็บเรื่องนี้มานาน 8-9 ปี เนื่องจากเขาคนนั้นมีตำแหน่งค่อนข้างใหญ่ในค่ายนั้น
มีการพูดคุยขู่ผู้ชายกับแม่และยายสั่งให้เลิกยุ่งกับตัง ไม่งั้นจะแจ้งความว่าคุกคาม ผู้ชายเลยตัดสินใจเลิกยุ่งเพราะไม่อยากให้ที่บ้านเดือดร้อน หลังจากผู้ชายคนแรกก็มีคนใหม่เข้ามาคุย และเราบอกเขาว่าห้ามเข้ามายุ่งกับความสัมพันธ์นี้ วันดีคืนดีเราไปกินข้าวกับเพื่อนและไปดูหนังกับผู้ชายคนนั้นต่อ พี่ผู้จัดการคนนั้นไม่เชื่อ 1-2 วันต่อมา เขาดักเจอตังที่โรงเรียน เรียกไปคุยที่คอนโด เขาไปเอาภาพจากกล้องวงจรปิดตอนตังซื้อตั๋วหนัง ทำให้ตังช็อกมาก ไม่เชื่อสายตาตัวเอง ตังช็อกมาก ทำอะไรไม่ได้ กลัวมาก
ตอนที่เลิกคุยกับคนแรก เราก็มีคิดถึง มีทักหาเพื่อนเขาโทร. คุยกันบ่อย ๆ ทุกวัน เพราะในโรงเรียนเราหนีหน้ากันตลอด จนวันหนึ่งเขาเรียกตังไปที่ค่าย เป็นกระดาษประวัติการโทร. ของเรา ตังงงมาก เอามาจากไหน ...ให้ได้ยังไง เขาเอาประวัติการโทร. ว่าตังโทร. หาใครเยอะที่สุด เขาก็เอาเบอร์ไปแอดไลน์ แล้วถึงรู้ว่าเป็นเพื่อนของคนที่เคยคุย ก็มาติตังอีกว่าไหนว่าจะไม่ติดต่อกัน งงแรกคือค่ายโทรศัพท์ให้ประวัติการโทร. ได้ยังไงก่อน ตอนนั้นตังแทบจะเป็นบ้า
ตอนนั้นมืดแปดด้าน กลายเป็นคนวิตกจริต จากที่เคยชอบร้องเพลง กลายเป็นเกลียดการร้องเพลง ทุกครั้งที่รู้ว่ามีงาน ตังไม่มีพลังเลย รู้สึกผิดกับพี่ ๆ แฟนคลับทุกคนมาก (ร้องไห้) ตอนนั้นมันไม่อยากร้องเพลง ทั้ง ๆ ที่เราชอบร้องเพลงมาตั้งแต่เด็ก แต่พอมาเจอสิ่งนี้รู้สึกไม่อยากทำงาน ขอไม่ออกงานได้ไหม ขอนอนอยู่เฉย ๆ ได้ไหม เพราะกว่าเราจะผ่านแต่ละวันมาได้ เราคิดตลอดว่าเมื่อไหร่กูจะตาย คิดจะกระโดดคอนโด คิดว่าถ้าไม่มีเรามันน่าจะจบ เรื่องมันนานมากแล้ว แต่มันเป็นผลกระทบ เรากลายเป็นพวกวิตกกังวล เวลาไปเดินห้างไปเที่ยวต้องคอยดูว่าพี่เขาเดินมาไหม พี่เขาคอยแอบดูหรือเปล่า ทั้ง ๆ ที่ผ่านมานานมากแล้ว ตังใช้ชีวิตไม่มีความสุขเลยสักวันเดียว
เหตุการณ์ที่ตังเจอมันหลายสิ่งหลายอย่างมาก ตังเคยบอกพ่อกับแม่ แต่ด้วยความที่ตังอยู่กับญาติที่กรุงเทพฯ พ่อกับแม่ไม่ผิดที่เขาจะไว้ใจ ผู้ใหญ่ใครก็ตามที่โคตรน่านับถือเข้ามาดูแลเรา เขาไว้ใจ บางเหตุการณ์เขาก็พูดอะไรมากไม่ได้ เพราะไม่ได้อยู่ข้าง ๆ ตัง นั่นเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้ตังกับพ่อแม่แทบไม่สนิทกันเลย เพราะตังรู้สึกว่าพูดอะไรไปเหมือนเด็กโกหก ไม่น่าเชื่อถือ สมมติเราพูดอย่างหนึ่ง แต่พี่เขาเอาไปแปลงสารเป็นอีกอย่างหนึ่ง มันทำให้เราโดนเข้าใจผิดหลาย ๆ อย่าง ถามว่าตังเคยคุยกับผู้ใหญ่ไหม ตังไม่เคยคุยกับผู้ใหญ่สักคน มีพี่สไมล์เข้าไปคุยกับผู้ใหญ่ แต่ผู้ใหญ่ไม่เชื่อ แต่ตังเก็บเรื่องนี้มาตลอด ไม่รู้ว่าพี่เขาเอาตังไปพูดเวย์ไหน เพราะตังไม่เคยพูดไม่ดีเรื่องเขาเลย
ถามว่าเขาทำกับเราเชิงชู้สาวไหม สำหรับเราไม่ แต่เขาค่อนข้างคุกคามพื้นที่ส่วนตัวของเราทั้งหมด ถามว่าทำไมถึงตัดสินใจทักไปหาพี่สไมล์ เพราะมันเหมือนกับที่เราโดนมาก ตังทักไปว่าขอเสียมารยาทนะคะ อยากรู้ว่าใคร เพราะตังก็โดนเหมือนกัน มีหลายเหตุการณ์ที่เจอมาเยอะมาก ๆ กว่าจะหลุดจากเขาได้ก็นานมาก ๆ เขาไม่ได้ทำอะไรเราเลย เพราะว่าเขาไม่ได้ชอบเรา คนชอบมันไม่ใช่เวย์นี้ เขาไม่เคยลวนลาม ตอนนั้นตังห้าวจัด มันเลยเป็นเวย์ที่เขาทำอะไรตังไม่ได้ เทียบกับพี่สไมล์เขาดูหวาน แต่เราห้าวเลย เขาเป็นคนแรกและคนเดียวที่เปลี่ยนชีวิตตังมาก ๆ กลายเป็นวิตกกังวล กลายเป็นคนกลัว เก็บตัว กลัวทุกอย่าง พี่สไมล์เล่าคือใช่ เขามาในคราบแม่ ใจจริง ๆ อยากเป็นพยานบุคคลยืนยันให้พี่สไมล์ เพราะที่พี่สไมล์พูด ต่อให้โตแล้วเขาอาจไม่เชื่อ แต่ถ้าตังมาพูดเป็นคนที่สอง อาจทำให้สถานการณ์เปลี่ยน ตอนนี้ตังกลัวเขาไปแล้ว
มีเหตุการณ์หนึ่งที่แม่ทักมาหาตังว่าไหวไหม กลับบ้านไหม น้ำตาแตกดีใจมาก กลับเลยจองตั๋วด่วน แต่พี่คนนั้นเขากลับบ้านไปกับตัง แต่ตังไม่โอเค ไปสนามบินก็ไม่คุยกัน จนพ่อแม่มารับตังที่สนามบิน สิ่งที่เขาทำกับตังคือเรียกเคลียร์ระหว่างตัง พ่อแม่ ว่าเอาไง แต่หลังจากนั้นสิ่งที่เขาทำกับตังคือขอยืมมือถือ อ้างว่ามือถือเขาเสีย ด้วยความไว้ใจก็ให้ไป สิ่งที่เราเห็นที่เขาทำคือเปิด DM ไอจีเรา เอามือถือไปถ่าย กดดูแชตพี่คนหนึ่ง ถ่าย ๆ เราก็ถามว่าพี่ทำอะไร เขาไม่พูด เราก็โอเค รู้แล้ว เราไม่รู้ว่าเขาทำทำไม ทุกวันนี้ยังหาเหตุผลไม่ได้ ทุกอย่างเหมือนจบ เขาทำต่อหน้าเราขนาดนี้ก็ให้มันจบ ตังทนมาเกือบ 3 ปี
มีช่วงหนึ่งเราเก็บตัวไปแข่งกีฬา เก็บตัวที่โรงเรียน 2-3 ทุ่มโทร. มาทักว่ามาเจอพี่หน่อย สำคัญมาก ๆ เกี่ยวกับหนู จะคุยด้วย ก็เดินไปหาเขา เขาบอกว่าพี่เปลี่ยนโทรศัพท์มา พี่เอาเครื่องเก่าพี่ไปขาย แต่เครื่องเก่าพี่มีข้อมูลหนู มีรูปภาพหนู มีแชตหนู ควรเอากลับมาดีไหม ตังได้แต่ขมวดคิ้ว เราไม่สนเลยนะว่าเขามีหลักฐานอะไรเกี่ยวกับเรา เราไม่อยากแคร์อะไรแล้ว แต่สิ่งที่เขาทำ เขาอยากให้เรากลัวว่าในมือถือเขามีข้อมูลเรานะเว้ย เราอยู่ภายใต้กำมือเขานะ เขาบอกเราแบบนั้น วันนั้นเราจำไม่ได้ว่าเขาทำอะไร เราก็บอกว่าขอไม่คุยแล้ว พี่จะทำอะไรก็เรื่องของพี่ ตังทนอยู่ 3 ปี เขายังอยู่ ชีวิตเขายังดีสุด ๆ หวังว่าสิ่งที่พูดจะช่วยได้
อีกทั้งแม่บอกว่าเขาเคยอัดเสียงระหว่างคุยกับผู้ใหญ่ให้แม่ เหมือนผู้ใหญ่กำลังวิจารณ์ สิ่งที่ตังได้ยินคือ เด็กคนนี้คงเป็นได้แค่ตัวตลกดำ ๆ คงเป็นอะไรมากกว่านี้ไม่ได้หรอก แล้วก็ขำ ๆ กัน แล้วมีการเมนชั่นถึงพี่สไมล์ว่าเป็นเด็กไม่มีความรับผิดชอบ การที่ผู้ใหญ่คนหนึ่งอัดเสียงที่ผู้ใหญ่วิพากษ์วิจารณ์เด็กที่ตัวเองดูแลและส่งให้เด็กคนนั้น เหตุผลคืออะไร เขาต้องการอะไร อันนี้ไม่เกี่ยวกับค่าย ผู้ใหญ่คนอื่นเขาดีกับตังมาก ๆ ขอให้ทุกคนโฟกัสแค่คนคนเดียวที่ทำแบบนี้
หลุดพ้นมาได้เพราะว่ามีเหตุการณ์หนึ่งต้องประชุมผู้ปกครองที่โรงเรียน ตังขอให้คุณน้าไปเป็นผู้ปกครอง เขาไม่ว่าง ติดงาน ก็ไม่เป็นไร ก็ขอให้แม่รุ่นน้องที่สนิทกันไปเป็นผู้ปกครองได้ไหม เพราะแค่ไปรับใบเกรด มันไม่เยอะ แต่พอใกล้ถึงวันไปจริง ๆ คุณน้าบอกว่าให้พี่คนนี้ไปนะ สรุปคุณน้ากับพี่คนนี้ก็ไปด้วยกัน เราก็เฟดตัวออกมาเลย ไม่ยุ่ง ไม่อยู่ห้องผู้ปกครองอะไรทั้งนั้น นั่นทำให้เราพิมพ์ไลน์ไปหาพี่เขา หนูขอบคุณพี่ แต่หนูพอแล้ว หนูว่าเราจบกันแค่นี้ ช่วงเฟดตัวออกมาแล้วตังร้องไห้ทุกวัน สงสารพ่อแม่ว่าจะรู้สึกยังไงที่ต้องอยู่ตัวคนเดียวที่กรุงเทพฯ ไม่มีใครดูแล ห่วงพ่อแม่ว่าเขาจะห่วงเราขนาดไหน เราก็เคารพเขาอยู่นะ เจอก็ไหว้ แต่เขาไม่รับไหว้ พยายามให้เขาเห็นว่าหนูไหว้นะ หนูยังเชื่อว่าสิ่งที่เขาทำ เขาหวังดี จนเขาเริ่มเมิน ๆ เรา พอตังหมดสัญญา ไปเซ็นกับค่ายร้องเพลง ก็ทำให้เฟดตัวเองมาได้
ผู้ใหญ่ในค่ายไม่มีความผิด เขาดีกับตังมาก ๆ ขอให้อยู่ที่ตัวพี่เขา ไม่ผิดที่ผู้ใหญ่คนอื่นจะไม่เชื่อ เพราะเด็ก 15 แล้วโดนผู้หญิงด้วยกันทำแบบนี้ สมัยนั้นก็เชื่อยากมาก ๆ ทั้งตัวตนพี่เขาก็น่าเคารพมาก ๆ เขามีวิธีการพูดจาที่ดีมาก ๆ อยู่แล้ว การที่พี่สไมล์ไปบอกผู้ใหญ่ แล้วผู้ใหญ่ไม่เชื่อ ก็เก็ตทั้งสองฝั่ง เรื่องการคุกคามมันเชื่อยาก ปี 2018 พี่สไมล์เจอก่อนตัง 2-3 ปี คนมันไม่ได้มาตระหนักเรื่องนี้ ตังก็โดนมาเรื่อย ๆ เก็บทุกอย่างไว้เยอะมาก ไม่เคยออกมาพูดเรื่องนี้เลย แม้กระทั่งกับเพื่อนหรือใคร ไม่เคยเล่าเรื่องพี่ผู้จัดการคนนี้ให้ใครฟัง ยุคนั้นพูดอะไรไปก็น่าเชื่อถือยาก เคสพี่สไมล์เหมือนเขามาขอโทษครอบครัวแล้ว แต่พี่สไมล์เพิ่งรู้ว่าเขาแค่อยากให้เรื่องมันจบ แต่เขาไม่ยอมรับว่าตัวเองทำ มันทำให้ตังหลอน กลัวว่าเขาจะหาเจอ เวลาไปเดินตลาด เดินห้างอะไรก็ตาม เคยเจอเขา
หวังว่าการที่เราออกมาพูดจะทำให้สถานการณ์เปลี่ยนแปลง เขาอาจจะโดนอะไรบางอย่าง มันค่อนข้างหนักกว่าจะผ่านมาได้ ต้องใช้เวลากับตัวเองเยอะมาก ก็หวังว่าจะช่วยให้พี่สไมล์ไม่กลายเป็นโดนสบประมาทว่าเป็นเด็กเลี้ยงแกะ เพราะเจอจากคนเดียวกัน มันเป็นเรื่องฝังใจมาก ๆ ไม่คิดว่าตัวเองจะโดนอะไรแบบนี้เหมือนกัน ตังคาดหวังว่าเรื่องนี้จะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ตอนนี้กำลังใจดีมาก ๆ ไม่ได้คิดถึงมันแล้วเจ็บปวดแล้ว กว่าจะผ่านมาได้ก็ค่อนข้างนาน แต่ก็ผ่านมาได้เยอะแล้ว ตอนนี้ก็แค่หวังว่าจะทำให้ทุกคนที่ได้ฟังเรื่องตังจะระมัดระวังตัวเองมากขึ้น
ชมคลิปคลิกที่นี่
ขอบคุณข้อมูลจาก 3D Channel