ออกมาเปิดใจเป็นครั้งแรกสำหรับ เบลล์ นันทิตา หลังประกาศยุติความสัมพันธ์กับสามีนักธุรกิจชาวญี่ปุ่น ก่อนที่คุณสามีจะบินตรงจากสหรัฐอเมริกามาง้อขอคืนดีถึงประเทศไทย ผ่านทางรายการ คุยแซ่บShow ทางช่อง one31 ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์ และ ชมพู่ ก่อนบ่าย เป็นพิธีกรดำเนินรายการ
อ่านข่าว : เบลล์ นันทิตา คืนดีสามี หลังบินมาหา คุกเข่าขอโอกาส พร้อมขอขมาพ่อ-แม่
- เมื่อไม่นานมานี้เบลล์ขอเปลี่ยนสถานะความสัมพันธ์กับสามี ?
เบลล์ : เป็นเพื่อน ใช่ค่ะ
- แล้วมีภาพสามีมาตามง้อถึงเมืองไทย ?
เบลล์ : คือมันเป็นปัญหาที่สะสมมานานมาก เบลล์แต่งงานมาทั้งหมด 5 ปี 2 ปีแรกมีความสุขมาก แต่พอหลังจากพิษเศรษฐกิจของโควิด แฟนของเบลล์เป็นนักธุรกิจ เขาค่อนข้างจะจริงจังมาก เสร็จปุ๊บเขาก็เครียด กลัวเสียธุรกิจของตัวเองไป ทีนี้เบลล์ก็อยู่ข้าง ๆ คอยช่วยตลอด แต่ด้วยความที่เขาเครียดมากจนเกินไป เขาเลยไม่มีตรงกลาง เครียดไปทุกอย่าง แล้วก็เวลากลับมาบ้าน คุยกันเขาไม่รับฟังอะไรเบลล์เลย เสียงของเราไม่มีความหมายอีกต่อไป พอเราจะบอกเธอ ๆ อย่างนี้สิ เขาบอกไม่ ด้วยความที่เขาเป็นอเมริกัน เขาจะต้องเอาเวย์ของเขาอย่างเดียว ในเมื่อไม่รับฟังเราเลย เราก็ไม่รู้ไปอยู่ตรงไหน เพราะที่นู่นเราอยู่ตัวคนเดียว และเรามีเขาคนเดียวที่เป็นที่พึ่ง ทีนี้เบลล์ก็เลยสะสมมาเรื่อย ๆ
- ก่อนหน้านั้นหวานคือหวานขนาดไหน ?
เบลล์ : คือให้เกียรติ ดูแลเทกแคร์ ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตามเบลล์บอก เขาก็จะต้องร่วมมือทุกเรื่อง ความสัมพันธ์ของความรักเราเข้าใจได้ว่าจะต้องทำอะไรร่วมกัน มีการตัดสินใจร่วมกัน ถูกไหม แต่คราวนี้มันกลายเป็นว่าทุกอย่างเป็นการตัดสินใจของเขาคนเดียว เหมือนเบลล์ไปอยู่ตรงนั้นแบบไม่มีตัวตนเลย
- ณ จุดไหนที่เราคิดว่าไม่เอาแล้ว ?
เบลล์ : จุดที่เขาใช้คำพูดด่าเราหยาบคายที่สุดเลย จนถึงขั้นที่ลืมไปเลยว่าฉันก็เป็นคนคนหนี่ง ฉันเป็นภรรยา ฉันแต่งงานมากับเธอเนี่ยกว่าฉันจะมีวันนี้ได้มันไม่ได้ง่าย
- พอจะบอกความหมายของคำด่าคืออะไร ?
เบลล์ : เธอเป็นคนไม่ดี ฉันอยู่กับคนที่ไม่ได้ศึกษาสูง แล้วเวลาฉันคุยกับเธอฉันคิดว่าฉันคุยกับเธอไม่รู้เรื่องหรอก เพราะเธอ...เขาใช้คำที่หยาบมาก จนถึงขั้นสูงสุดที่เบลล์รับไม่ได้ เพราะเบลล์เป็นคนรักครอบครัวมาก โดยเฉพาะคุณแม่ เขาพาลไปจนถึงคุณแม่ บอกแม่เธอเป็นคนไม่ดี อย่างนู้นอย่างนี้ แล้วเบลล์เลยบอกว่า เฮ้ย...อันนี้มันมากไปแล้ว
- ตอนที่เขาด่าเรามีการโต้ตอบ ทะเลาะกันหนักไหม หรือว่าเราเงียบ ?
เบลล์ : เบลล์เป็นสายเงียบมาตลอด ไม่เคยสู้กลับเลย เพราะว่าภาษาอังกฤษเราไม่ได้เก่งมาก แล้วบางทีเราจะพูดกลับไปก็ไม่ทัน เพราะบางทีเขาก็ไม่ฟัง พอมันข้ามมาถึงแม่ มันถึงจุดที่เบลล์ว่า โอเค ถ้ามาถึงครอบครัวไม่เอาแล้ว
- แพ็กกระเป๋าเลย ?
เบลล์ : ใช่ แต่ก่อนหน้านั้นเรามีการคุยกันก่อนที่จะแยกด้วย คือบอกว่าฉันคุยกับเธอไม่ได้แล้ว เราสองคนมาถึงจุดที่ว่าฉันอยู่ตรงนี้ไม่ได้แล้ว งั้นเราแยกกันสักพักไหม เดี๋ยวฉันจะกลับไปเมืองไทย
- ตอนนั้นเขาฟังไหมหรือเขาง้อ ?
เบลล์ : อยากจะกลับก็กลับไปสิ อยากทำอะไรก็ทำไปเลยนะ แล้วไม่ต้องกลับมา
- ช่วงนั้นร้องไห้บ่อยไหม ?
เบลล์ : มากค่ะ ตลอดเวลา 3 ปี ร้องไห้สะสมมาตลอด เหมือนมีความพารานอยด์ด้วย เวลาเขากลับมาก็จะสะดุ้ง มันเป็นเหมือนหมวดสวิง
- เราเขียนโพสต์ที่ไหน ที่เมืองไทยหรือที่นู่น ?
เบลล์ : ที่นู่น เพราะเบลล์แยกกับเขาแล้ว ห่างกันได้ 2 วัน เบลล์ไปอยู่กับเพื่อน เบลล์ก็เลยตัดสินใจ บวกกับไม่รู้ว่าคิดน้อยไปหรือเปล่า แต่ว่าอารมณ์ของเราตอนนั้น อยู่คนเดียว มันสุดแล้ว เบลล์เลยตัดสินใจโพสต์เลย
- ตอนนั้นโพสต์อยากให้เขาเห็นไหม โดยความสะใจนิดหนึ่ง ?
เบลล์ : ก็มีนิดหนึ่ง อยากให้เขารู้ว่าฉันเอาจริงละนะ เพราะเบลล์เป็นคนที่ไม่ได้เริ่มก่อนเลย ไม่ว่าจะเรื่องอะไร ถ้าไม่สุดจริงจะไม่โพสต์ แต่อันนี้มันเหมือนสุดจริง ๆ แล้ว เบลล์ก็เลยโพสต์เลย
- ช่วงที่มีปัญหาก็กินเวลาถึง 3 ปี ?
เบลล์ : ใช่
- ทำไมถึงเก็บไว้ถึง 3 ปี ?
เบลล์ : ด้วยความที่เบลล์อดทนรอเพื่อให้ตัวเองได้รับกรีนการ์ด 10 ปี อันนี้เป็นอีกหนึ่งเหตุผล ในเมื่อเราเสียสละตัวเองมาอยู่อเมริกา คือแต่งงานเข้าไป เราจะต้องไป เราจะต้องได้รับกรีนการ์ด 2 ปีก่อน พอหลังจากนั้นเขาจะเปลี่ยนสถานะของเราให้เป็น 10 ปี เพื่อที่จะรอไปสอบซิติเซน เบลล์ก็เลยรอ เพราะถ้าได้กรีนการ์ด 10 ปี ต่อให้เลิกกันไปเราก็ยังสามารถกลับเข้าอเมริกาได้ แล้วตอนนี้ก็ได้เรียบร้อยแล้ว
- ไปอยู่นู่นเราปรึกษาใคร หรือต้องโทร. กลับมาเมืองไทย ?
เบลล์ : ส่วนใหญ่เบลล์จะคุยกับคุณแม่ จะโทร. กลับมาเวลาที่คุณแม่ตื่น มีแม่ มีน้องสาว พี่ชายบ้าง คุยกันเฉพาะในครอบครัว
- ที่เราโพสต์ไปอยากให้ครอบครัวเห็นด้วยไหม ?
เบลล์ : ครอบครัวได้เห็นตอนนั้นพร้อมกันหมดเลย แม่บอกว่า ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตามจะอยู่ข้าง ๆ ลูกเสมอ ไม่ว่าลูกจะตัดสินใจยังไงขอให้เป็นการตัดสินใจที่ลูกคิดว่าลูกมีความสุขที่สุด แม่จะอยู่ข้าง ๆ ไม่ว่ามันจะเป็นยังไงก็ช่าง
- แม่บอกไหมว่ากลับมาเถอะ ?
เบลล์ : ส่วนใหญ่แม่จะบอกให้อดทนมากที่สุด แต่พอเขาเห็นเราไม่ไหวจริง ๆ แกก็บอกว่ามา กลับมาบ้าน
- ตอนที่ย้ายออกมา 2 วัน ไปอยู่บ้านเพื่อน เขาติดต่อมาไหม ?
เบลล์ : เบลล์บล็อกเขาทุกช่องทาง ตัดขาดหมดไม่ต้องเห็นกันอีกเลย เป็นการห่างที่ห่างจริง ๆ เพื่อที่จะรู้ใจตัวเอง และอยากให้เขามองเห็นสิ่งที่ผิดพลาดด้วยว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างความสัมพันธ์
- ทำใจได้เหรอ ?
เบลล์ : เบลล์ทำใจมานานแล้ว มันถึงจุดที่ว่าฉันพร้อมที่จะเริ่มต้นชีวิตของฉันใหม่ ฉันจะกลับมาเมืองไทย แล้วฉันจะมาร้องเพลงอีกครั้ง คือบอกกับตัวเองอย่างนี้เลย
- พอกลับมาเมืองไทย มาเจอหน้าครอบครัว วินาทีแรกรู้สึกยังไง ?
เบลล์ : รู้สึกอบอุ่น ดีใจ น้ำตาซึม แต่เบลล์พยายามไม่แสดงความอ่อนแอให้เขาเห็น คือมันผ่านจุดอ่อนแอมาแล้ว ฉันร้องมาถึงจุดที่ฉันพร้อมจะมูฟออนแล้ว
- แต่ ณ วันนี้ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปหมดแล้ว ?
เบลล์ : เปลี่ยนไปหมดเลย
- กลับมาเมืองไทยนานไหม ถึงรู้ว่าเขาอยากจะมาง้อ ?
เบลล์ : 2 วัน เบลล์อยู่เมืองไทยได้ 2 วัน เบลล์ก็นอนอยู่ในบ้าน ทุกคนก็นอนกันปกติเลย ประมาณ 3-4 ทุ่ม ได้ยินเสียงรถมาหน้าบ้าน แล้วมีสุนัข 3-4 ตัวอยู่หน้าบ้าน ถ้าใครแปลกหน้ามามันจะเห่า เราก็เอ๊ะ..ใคร พอเปิดประตูออกไปก็เห็นเขายืนอยู่หน้าบ้านเลย
- เขามายังไง ?
เบลล์ : นั่งเครื่องมาลง ต่อแอร์พอร์ตลิงก์ไปลงที่อะไรไม่รู้เบลล์จำไม่ได้ รู้แค่ว่าเขาสามารถหาทางไปหมอชิตได้ แล้วนั่งจากหมอชิตมาลง บขส.โคราช
- แสดงว่าเขามีข้อมูลของเรา ?
เบลล์ : ตอนจีบกันครั้งแรกเขาเคยไปบ้านที่โคราชครั้งหนึ่งก่อนแต่งงาน
- พอเราเห็นว่าเป็นสามี คำแรกที่พูดคืออะไร ?
เบลล์ : มาที่นี่ทำไม เกิดอะไรขึ้นทำไมถึงมา เขาก็มาถึงปุ๊บจะก้มมากราบเรา เบลล์ก็เลยไม่ ๆ แล้วฝนก็ตก เหมือนในหนังเลย แล้วเราก็ดึงเขาเข้ามา บอกแม่สตีฟมา ก็เลยพาเขาเข้าไปในบ้าน
- ตอนนั้นเห็นดีใจหรือว่าตกใจมากกว่ากัน ?
เบลล์ : มันยังมีความที่ฉันไม่อยากเจอเธออยู่ มันเหมือนเราพร้อมที่จะตัดเขาแล้ว
- แล้วอะไรที่ทำให้เราไม่พูดคำว่าออกไปเลย ?
เบลล์ : เพราะเห็นความพยายามของเขา
- แล้วพอเข้ามาเป็นยังไง ?
เบลล์ : เขาดูดีใจมาก แต่ความรู้สึกเราไม่พร้อมที่จะเจอ
- แล้วเขาพูดอะไรกับเรา ?
เบลล์ : เขาบอกว่าฉันมาที่นี่ฉันอยากจะขอโทษสิ่งที่ฉันพูดไม่ดีกับแม่ของเธอ แล้วตัวของเธอด้วย แล้วเขาก็ทำการเขียนกระดาษเป็นภาษาไทย เขาคัดทีละคำ เหมือนเขาฝึกเรียนประโยคภาษาไทยคำว่าขอโทษให้เรากับคุณแม่ เขาเขียนประมาณว่าได้โปรดยกโทษให้ผมด้วยนะครับ ที่ผมทำสิ่งไม่ดีกับเบลล์และคุณแม่ ผมหวังว่าคุณแม่จะยกโทษให้ผม และให้โอกาสผมเป็นลูกเขยของคุณอีกครั้ง
- เห็นเขาปุ๊บใจอ่อนง่ายไหม หรือเล่นตัวสักนิดก่อน ?
เบลล์ : ก็ต้องเล่นตัวนิดหนึ่ง แต่ก็ยังไม่พร้อมที่จะเจอ แต่เมื่อมาแล้วเราก็มาดูกันว่าเราจะไปต่อกันยังไง
- ตอนเปิดประตู เห็นเขาแล้วเขาจะก้มลงกราบ ฝนตก ในใจคิดไหมว่านี่มันชีวิตจริงหรือละคร ?
เบลล์ : มีช็อก เฮ้ย...ทำไมมาถึงตรงนี้ได้เลย มาได้ยังไง ทุกอย่างเป็นเหมือนภาพเบลอ เหมือนความฝันไปเลย ไม่คิดว่าเขาจะมาถึงตรงนี้ได้ด้วยตัวเอง
- สมมติถ้าวันนั้นเขาไม่ได้มา ณ วันนี้เบลล์จะมาคุยแซ่บในฐานะอะไร ?
เบลล์ : เป็นสาวโสดที่จะกลับมาร้องเพลงให้ได้ฟัง
- คุณเบลล์คิดว่าคุณสตีฟเห็นสิ่งที่เราโพสต์ไหม ?
เบลล์ : เห็นค่ะ เขาบอกพอหลังจากที่เขาเห็นโพสต์ปุ๊บ เขาตัดสินใจจองตั๋วเลย
- ทำไมถึงให้อภัยเร็วจัง ?
เบลล์ : สิ่งที่สูงสุดของเบลล์ในความรักคือครอบครัวและคุณแม่ เบลล์รู้สึกประทับใจในสิ่งที่เขาทำกับคุณแม่ของเบลล์ เขาได้ไปซื้อพวงมาลัย นั่งขอขมา ก้มลงไปกราบเท้าพ่อกับแม่ เพราะเราเป็นคนไทย เราสามารถเซนซิทีฟกับเรื่องนี้มาก ๆ พอเห็นเขาทำสิ่งนั้น เห็นความพยายาม เบลล์เลยรู้สึกว่าคนเราสิ่งที่ประเสริฐที่สุดของมนุษย์คือการให้โอกาส ทำไมเราถึงไม่ให้โอกาสกันสักครั้ง เพราะนี่ก็เป็นครั้งแรก แล้วเขาจองตั๋วมาเมืองไทยเขาไม่ได้คาดหวังว่าเราจะอภัยไหม เขาเลยไม่ได้จองมายาว มาแค่สั้น ๆ เพื่อที่จะมาทำสิ่งนี้โดยเฉพาะ
- ถ้าสมมติวันนั้นเขาไม่ได้มาเมืองไทย ณ วันนี้จะมีแฟนไหมหรือยัง ?
เบลล์ : เบลล์คิดว่าต้องพักก่อนสักแป๊บหนึ่ง เพราะเหมือนเราอยากกลับมารักตัวเอง
- ที่เราโพสต์ไปหรือที่มีการง้องอน ชาวเน็ตบอกว่าเรางี่เง่าเองหรือเปล่า ทำไมเราถึงไม่เข้าใจสามีว่าเขาทำงานหนัก เราอยากจะบอกอะไร ?
เบลล์ : ทุกคู่จะมีปัญหาของแต่ละคู่อยู่แล้ว แต่ในจุดของเบลล์มันเป็นปัญหาที่มันสะสมมานาน ถ้าไม่สะสมเบลล์ก็จะไม่ทำ ถามว่างี่เง่าไหม เบลล์คิดว่าเบลล์อาจจะมีงี่เง่าบ้างในบางเรื่อง แต่เบลล์คิดว่าเบลล์ทำดีที่สุดแล้วจริง ๆ ในมุมของเบลล์ ถ้าเราไม่ดีจริงเขาคงไม่กลับมาง้อหรอก
- ณ วันนี้แฮปปี้แล้ว ?
เบลล์ : ค่ะ
- ยกระดับความสัมพันธ์เรากลับเท่าเดิมหรือยัง ?
เบลล์ : เกือบเท่าเดิม เพราะเขากำลังรอให้เบลล์กลับไปที่อเมริกา แล้วเราจะทำเหมือนเป็นการต่อคำสาบาน
- พอเขากลับไปเราติดต่อกันเหมือนเดิม ?
เบลล์ : ใช่ค่ะ คือตั้งแต่แต่งงานกันมาไม่เคยเรียกกันว่าที่รัก แต่รอบนี้เขาเรียก ฮันนี่ ดาร์ลิ่ง แล้วเริ่มหันมาโฟกัสในเรื่องความสัมพันธ์มากขึ้น เขาพยายามเปลี่ยน
- ถ้าเขาดูอยู่อยากบอกอะไรเขา ?
เบลล์ : เบลล์จะทำให้ดีที่สุด แล้วก็การกลับไปครั้งนี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม เบลล์ก็พยายามประคองความสัมพันธ์ของเราแล้วดูแลมันให้ดีที่สุด และอยากให้เขาเป็นผู้ฟังที่ดีด้วย
- แต่อนาคตมันเป็นสิ่งไม่แน่นอน เราเตรียมพร้อมกับใจเรายังไง ?
เบลล์ : เตรียมด้วย เบลล์ไม่รู้ผู้ชายพอเขาได้เรากลับไป เบลล์ก็คิดเหมือนกันนะว่าเขาอาจจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมอีกก็ได้ แต่เบลล์ก็เตรียมใจไว้แล้วว่าถ้าเป็นแบบนั้นจริง ๆ เราสองคนคงจะต้องจบกันแบบดี ๆ ให้เข้าใจซึ่งกันและกัน
- ถ้าสมมติเป็นแบบนั้นจริง ๆ ทางของเบลล์เป็นชีวิตที่อเมริกาหรือที่เมืองไทย ?
เบลล์ : คงจะเป็นที่เมืองไทย