เป็นอีกหนึ่งคนที่ถูกพูดถึงและจับตามองเป็นอย่างมากตอนนี้ สำหรับนางเอกสาว มิน พีชญา หรือ "บอสมิน" ที่ล่าสุด (11 ตุลาคม 2567) ได้ออกมาแถลงข่าวเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของตนเองและบริษัทดัง ดิไอคอนกรุ๊ป (The iCon Group) ที่กำลังตกเป็นประเด็นร้อน โดยยืนยันว่าตนเองรับงานเป็นเพียงพรีเซ็นเตอร์และ PR ได้ค่าตัวพรีเซ็นเตอร์ปกติทั่วไป ไม่ได้เป็นผู้ถือหุ้น และไม่ได้เกี่ยวข้องกับแผนการขาย ส่วนคำว่า "บอส" เป็นคำที่คนในบริษัทเรียกกันเองเป็นการให้เกียรติตน
โดยในตอนแรกได้รับการติดต่อเป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้า จนได้เจอตัวคุณพอลเมื่อต้นปีที่แล้ว เขาอยากให้เป็นมากกว่าพรีเซ็นเตอร์ คือเป็น PR ซึ่งตอนแรกตนไม่ได้เข้าใจลักษณะงานนี้ จึงกลับไปคิดก่อน จนผ่านไป 3 เดือน ทางผู้จัดการถามว่าตกลงจะรับงานไหม จึงตัดสินใจร่วมงานกัน 1 ปีก่อน จึงได้รับหน้าที่เป็นทั้งพรีเซนเตอร์และผู้รับจ้าง ในฐานะผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร หรือพีอาร์ (PR) นั่นเอง
อ่านข่าว : มิน พีชญา แถลงยันเป็น "บอส" แค่คำใช้เรียก ทำหน้าที่พีอาร์-ได้เงินเท่าพรีเซ็นเตอร์
ต่อมาชาวโซเชียลก็ได้มีการย้อนขุดคลิปของ มิน พีชญา ในงานของ ดิไอคอนกรุ๊ป ซึ่งทางเพจของบริษัทได้โพสต์ไว้เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2566 โดยนางเอกสาวได้เล่าถึงที่มาที่ไปของการได้มาร่วมงานกัน จนตัดสินใจเป็น "บอสมิน" ซึ่งคลิปดังกล่าว มีผู้ชมมากกว่า 1 ล้านครั้ง
- มินเองก็อยู่ในแวดวงสังคม เพื่อน ๆ ก็เป็นเจ้าของธุรกิจ เพื่อน ๆ คุณพ่อคุณแม่ ก็ทำธุรกิจกันมาเยอะ เพราะฉะนั้นการที่มินจะตัดสินใจเลือก Partner หรือคนที่มินจะร่วมเดินทางไปด้วยกัน จริง ๆ แล้วไม่ง่ายเหมือนกัน
- วันนั้นก็ไปที่บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป ของเรา ไปเจอบอสพอลครั้งแรก ก็ถามทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องวิสัยทัศน์ ว่าทำไมถึงก่อตั้งบริษัทนี้ขึ้นมา สิ่งที่บอสพอลอยากให้เกิดกับบริษัทนี้คืออะไร ก็ได้คำตอบมาจนเรียบร้อย
- สรุปได้ 2 ประเด็น คือเรื่องสินค้า ตนคงไม่สามารถนำเสนอไปได้ จนกว่าจะได้ลองเอง วันนั้นก็ได้ผลิตภัณฑ์ทุกตัวของบริษัทกลับบ้านไป ก็รู้สึกว่าพี่พอลเขาใจกว้าง ก็ตั้งใจลองจนเห็นผลเอง
- ประเด็นที่ 2 คือเรื่องธุรกิจ บอสพอลก่อตั้งขึ้นมาเพื่ออยู่ในธุรกิจ Wellness หรืออุตสาหกรรมสุขภาพ ซึ่งถ้าใครที่เพิ่งเข้ามา บอกได้เลยว่าเป็นอุตสาหกรรมที่ถูกต้อง และคุณตัดสินใจถูกแล้วค่ะ
- จากวันนั้นจนถึงวันนี้ ไม่ใช่เพียงแค่พรีเซ็นเตอร์ แต่มินตัดสินใจ เข้ามาเป็นบอสมินของครอบครัว The iCon Group เลยค่ะ นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้มินตัดสินใจก้าวเข้ามาทำงานอย่างหนัก แล้วก็ได้เห็นพัฒนาการและการเติบโต ร่วมแก้ปัญหาไปพร้อม ๆ กัน
- วันนี้มินก็ไม่แน่ใจว่าสิ่งทีมินทำจะช่วยทุกคนได้มากหรือน้อย แต่อยากให้รู้ว่าสิ่งที่มินทำ ทำด้วยใจ และทำเต็มที่ ในทุกเวลาที่มินมีเหลืออยู่