
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก Lisa
เคยคิดกันบ้างไหมว่า...ทำไมเวลาแต่งงาน ต้องเอาเงินไปทุ่มให้กับการจัดงานแต่งงานซะมากมายขนาดนั้น ก็แหม...มีบ่าว-สาวหลายคู่เนรมิตงานแต่งงานซะอลังการ เลิศหรู ซึ่งจริง ๆ แล้วก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไร ที่จะให้ความสำคัญกับวันพิเศษอีกหนึ่งวันในชีวิต แต่เชื่อว่าคงมีบ่าว-สาวอีกหลาย ๆ คู่ที่อยากจะจัดงานแต่งงานแบบประหยัดงบประมาณ
ซึ่งจริง ๆ แล้วขั้นตอน การจัดพิธีแต่งงาน ในอดีตจะจัด 2 วัน เรียกว่า วันสุกดิบ และ วันแต่งงาน แต่โดยสภาพภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน นิยมจัดงานให้เสร็จในวันเดียว ซึ่งพิธีแต่งงานแนวประหยัดที่นำมาเสนอในที่นี้มี 4 แบบ ให้เลือก คือ …
เป็นการดัดแปลงโดยตัดวันสุกดิบและจัดขั้นตอนในทางปฏิบัติให้รวบขึ้น โดยเวลาเช้านิมนต์พระสงฆ์มาเจริญพระพุทธมนต์ จากนั้นคู่บ่าวสาวตักบาตรเลี้ยงพระ เป็นเสร็จพิธีสงฆ์ ช่วงบ่ายฝ่ายเจ้าบ่าวจัดขบวนขันหมาก มายังบ้านเจ้าสาว มีการเชิญขันหมากตรวจสินสอด ไหว้บิดามารดา ญาติผู้ใหญ่ พร้อมทั้งอาจจดทะเบียนสมรสเลยก็ได้ พอช่วงเย็นมีพิธีรดน้ำคู่บ่าวสาว เพื่อเป็นการประหยัดอาจเชิญประธานเพียง 1 ท่าน เป็นผู้รดน้ำและเจิมคู่บ่าวสาว จะนำของชำร่วยแจกผู้ร่วมงาน พอถึงช่วงกลางคืน บิดามารดา หรือญาติผู้ใหญ่ ก็จะทำพิธีปูที่นอนและทำพิธีส่งตัวเจ้าสาว พร้อมทั้งมีการให้โอวาทและอวยพรตามธรรมเนียมเป็นอันเสร็จพิธีแต่งงาน
ฝ่ายเจ้าบ่าวจะจัดขันหมากมายังบ้านเจ้าสาว พร้อมทำบุญตักบาตร แล้วจดทะเบียนสมรสในช่วงเช้า ต่อจากนั้นในช่วงบ่ายก็จัดพิธีรดน้ำและเลี้ยงอาหารแก่แขก ซึ่งจะเป็นอาหารว่างหรืออาหารเย็น ก็แล้วแต่ความเหมาะสม พอช่วงกลางคืนก็จะมีพิธีส่งตัวเจ้าสาว โดยมีพิธีปูที่นอน แล้วให้โอวาทและอวยพรแก่คู่บ่าวสาวโดยบิดามารดาหรือญาติผู้ใหญ่
ในช่วงเช้าคู่บ่าวสาวจัดถวายสังฆทาน แล้วร่วมกันตักบาตรที่หน้าบ้านหรือที่วัด ต่อจากนั้นมีพิธีรดน้ำ หรือผูกข้อมือ จดทะเบียนสมรส ซึ่งก็มีเฉพาะญาติผู้ใหญ่ของคู่บ่าวสาวเท่านั้น ที่มาร่วมพิธี เสร็จแล้วช่วงเที่ยงมีการเลี้ยงอาหาร ซึ่งอาจจัดในหรือนอกสถานที่ก็ได้ตามสะดวก ส่วนการส่งตัวเป็นการจัดภายในเท่านั้นเป็นอันเสร็จพิธี
ช่วงเช้าเจ้าบ่าวเจ้าสาวถวายสังฆทานหรือตักบาตรที่หน้าบ้านหรือที่วัด ต่อจากนั้น บิดามารดา พร้อมทั้งญาติผู้ใหญ่ ที่ใกล้ชิดจะรดน้ำอวยพรหรือผูกข้อมือ แล้วไปจดทะเบียนสมรส เป็นเสร็จพิธี หรือในกรณีที่ต้องการ ให้กระชับที่สุด ก็อาจมีเพียงถวายสังฆทานแล้วไปจดทะเบียนสมรสเลยก็ได้

อย่างไรก็ตาม ถึงคู่บ่าว-สาวจะเลือกพิธีแต่งงานแนวประหยัดแล้ว ก็ยังไม่สามารถคุมค่าใช้จ่ายได้่เท่าที่ควร เนื่องจากงบประมาณที่ตั้งไว้ กลับบานตะไทกว่าที่คาดไว้มาก ทำให้หลาย ๆ คู่กุมขมับเพราะจัดการกับงบประมาณไม่ถูกเลยทีเดียว ซึ่งทางที่ดีเพื่อป้องกันงบประมาณบานปลายกันไปใหญ่ ควรจะเลือกประหยัดในส่วนใหญ่ และคงไว้เหมือนเดิมในส่วนไหน ดังต่อไปนี้
เพียงเท่านี้...คุณทั้งคู่ก็สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในงานแต่งงาน ตามที่ตั้งใจไว้ได้แล้วล่ะค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก







