x close

งามตามตำรับสาวจีน

เคล็ดลับผิวสวย

งามตามตำรับสาวจีน
(Health & Cuisine)

          สาวจีนจะมีวิธีดูแลตัวเองให้สวยงามอยู่เสมอ ทั้งในเรื่องเครื่องสำอางประทินผิว ยาสมุนไพร และอาหารการกินบำรุงสุขภาพ เรียกว่าเป็นความงามตามตำรับคนจีนที่ต้องงามจากข้างใน ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่สาวจีนมักจะดูเปล่งปลั่งอยู่เสมอ

          คุณจิตรา ก่อนันทเกียรติ ได้ถ่ายทอดเรื่องราว "ความงามตามตำรับสาวจีน" ผ่านประสบการณ์จากวัยเยาว์ที่ได้คลุกคลีอยู่กับอาม้า(แม่) แม้ปัจจุบันจะมีวิวัฒนาการด้านความงามใหม่ๆ จากตะวันตกมากมาย แต่วิธีการหลายๆ อย่างของคนโบราณก็ยังใช้ได้ผลดีจนถึงทุกวันนี้

          "ตั้งแต่จำความได้ก็รู้ว่าแม่กินไข่มุก ฟังมาว่าให้มุกบดเป็นผงชงกับน้ำอุ่นจนละลายแล้วดื่ม ตามร้านขายยาจีนใหญ่ๆ จึงมีเครื่องบดไว้บริการลูกค้า..."

          "ที่เห็นแม่ใช้อีกอย่างคือแป้งติงตังหุ้ง เป็นก้อนแป้งแข็งสีขาวใช้สำหรับผัดหน้า แม่จะมีขันทองเหลือง 1 ใบ เอาไว้สำหรับใส่แป้งและผ้าขนหนูผืนเล็กๆ ถ้าเป็นการผัดแป้งครั้งแรกของวัน แม่จะใช้แป้งทั้งก้อนถูหน้าแล้วเอาผ้าขนหนูลูบ เหมือนการทาแป้งพัฟ แต่ถ้าเป็นการตบแป้งซ้ำ แม่จะเอาผ้าขนหนูถูก้อนแป้งแล้วค่อยเอาผ้ามาลูบหน้า แป้งนี้อาจจะมีสมุนไพรรักษาสิว ทำให้ผิวหน้าขาวเนียนละเอียด เหมือนแป้งพม่า"

          อีกอย่างที่สาวจีนเลยนิยมทำเพื่อให้โหงวเฮ้งดีคือการทำหมังหมิ่ง เป็นการถอนขนบนใบหน้าด้วยเส้นด้าย คนที่กำลังจะเป็นเจ้าสาวมักไปทำกัน

          "นอกจากนี้แล้วคนจีนจะมีสมุนไพรหลายอย่างที่กินเพื่อความงามและบำรุงร่างกายไปในตัว เพราะเชื่อว่าผิวของคนเราจะสวยได้ เลือดลมต้องดี ทุกหน้าหนาวประมาณต้นเดือนธันวาคม แม่จะทำต้มเลือดหมูใส่เซี่ยงจี้และไข่เป็ดต้ม ช่วยบำรุงโลหิต ทำให้ร่างกายอบอุ่นเพื่อรับลมหนาว ใส่ผักที่เรียกว่า จิงจูฉ่าย ด้วย ผักนี้จะมีรสขมนิด ๆ แต่กลิ่นหอมมาก คนจีนเชื่อว่ามีสรรพคุณช่วยฟอกปอด กระตุ้นเลือดลม"

          "คนจีนจะไม่กินเผ็ดถ้าไม่จำเป็น โดยเฉพาะช่วงที่เป็นสิว เพราะพริกจะทำให้เลือดร้อน กระตุ้นให้การอักเสบของสิวลุกลาม แพร่กระจายไปได้ เวลาที่ลูกๆ เป็นสิว แม่จะต้มแปะฮวยแปขี่เฉ้าจนเดือด น้ำจะออกมาเป็นสีน้ำตาล จากนั้นก็เทใส่อ่างเทแล้วเอาผ้าขนหนูลงไปชุบขึ้นมาเช็ดหน้าขณะที่ยังร้อนๆ ดิฉันใช้ไม่กี่หม้อก็หาย แต่พี่สาวต้องทำทุกวัน... "

          "สมุนไพรอื่นๆ ของคนจีนมักจะใส่อยู่ในกับข้าวบ้าง น้ำแกงบ้าง สับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปเพื่อไม่ให้กินอย่างใดอย่างหนึ่งบ่อยเกินไป อย่างกระเพาะปลาตุ๋นใส่โสมก็จะกินกันปีละครั้งเฉพาะหน้าหนาว ถ้าปีไหนหนาวนานก็สามารถทำกินได้หลายครั้ง แต่คนที่เป็นโรคความดันโลหิตสูงไม่ควรกินมาก แต่ละบ้านจะมีสูตรทำกระเพาะปลาตุ๋นใส่โสมไม่เหมือนกัน ของบ้านดิฉันต้องตุ๋นข้ามวันข้ามคืนด้วยหม้อตุ๋นสองชั้น พอเช้าใส่หมูสับใหม่ๆ ที่ไปซื้อมาจากตลาด สุกแล้วปรุงด้วยซีอิ๊วนิดหน่อย แม่จะตักให้ลูกๆ กินคนละชาม เป็นยาบำรุงเลือดลม ทำให้เลือดอุ่น ถ้าวันไหนกินยาโป๊วชุดนี้ ห้ามกินของเย็น เช่น น้ำเย็น ไอศกรีม น้ำส้มสายชู หัวไชเท้า เพราะเกรงว่าจะไปหักล้างกัน"

          "ห่อซิ่วโอว ก็เป็นสมุนไพรเพื่อความงามอีกชนิดหนึ่ง มีนิทานเล่าว่า แม่ชีคนหนึ่งไปขุดหัวหอสิ่วโอวจากในป่ามาต้มกินเป็นประจำ จนอายุมากแล้วผมก็ยังไม่หงอก คนอื่นๆ เลยเอาอย่างบ้าง จนเป็นที่เล่าต่อกันมาว่าหอสิ่วโอวมีสรรพคุณบำรุงผมให้ดกดำ... เท็จจริงอย่างไรไม่รู้ แต่เมื่อปีก่อนมีบริษัทผลิตแชมพูของฝรั่งยี่ห้อหนึ่ง สกัดสารจากหอสิ่วโอวผสมไปในแชมพูเพื่อช่วยบำรุงผมแตกปลายให้ดีขึ้น" 

สมุนไพรจีน : บำรุงความงามจากภายใน

          เจ้าตำรับยาอายุวัฒนะอย่างชนชาติจีน มีสมุนไพรหลายชนิดที่ผู้หญิงจีนนิยมนำมากินเพื่อประทินโฉมและบำรุงร่างกาย มีขายตามร้านขายยาสมุนไพรจีนทั่วไป

          โสม : ส่วนที่นำมาใช้คือราก มีกลิ่นหอมอ่อนๆ รสหวานชุ่มคอคล้ายรากชะเอมเทศ แพทย์จีนเชื่อในสรรพคุณว่าโสมช่วยบำรุงพลังชีวิต ปอด ม้าม แก้อาการเหงื่อออกมาก หัวใจเต้นเร็ว นอนไม่หลับ ความจำเสื่อม ฯลฯ แพทย์ปัจจุบันพบว่าในรากโสมมีสารชนิดหนึ่งที่มีสรรพคุณคล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจน ช่วยกระตุ้นให้ผิวหนังสดชื่นเปล่งปลั่ง ไม่เหี่ยวแห้งหรือแตกเป็นขุย มีสารต้านอนุมูลอิสระ ชะลอความเสื่อมของร่างกาย คนจีนจึงเชื่อว่ากินโสมแล้วอายุยืนนั่นเอง

          ตังกุย : แพทย์จีนมักจะจัดตังกุยให้หญิงวัยทอง เพราะเชื่อว่ามีธาตุอุ่น สรรพคุณบำรุงโลหิต กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ทำให้ประจำเดือนมาเป็นปรกติ แก้ปวดประจำเดือน ลดอาการร้อนวูบวาบ เพิ่มเม็ดเลือดสำหรับผู้หญิงที่โลหิตจาง อีกทั้งยังบำรุงตับและม้ามด้วย

          ไข่มุก : นอกจากจะกินเพื่อความงามแล้ว ชาวจีนยังใช้ไข่มุกในการรักษาโรคต่างๆ หลายโรค แม้จะไม่มีผลพิสูจน์ทางการแพทย์ออกมาแน่ชัดว่าไข่มุกมีสรรพคุณรักษาโรคได้จริง แต่ก็ยังเป็นที่นิยมในหมู่ผู้หญิงจีนซึ่งเชื่อกันว่าจะช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง สดใส แต่ก็มีข้อบ่งใช้ว่า หญิงสาวที่ยังไม่มีลูก ไม่ควรกินเกินปีละ 4 ตำลึง เนื่องจากจะทำให้มดลูกบีบตัว และมีบุตรยาก

          หอสิ่วโอว : จัดว่าเป็นยาบำรุงชั้นดีของคนจีน มีสรรพคุณช่วยบำรุงตับ บำรุงไต บำรุงเลือด แก้ปัญหาผมหงอกก่อนวัย กล้ามเนื้อและผิวหนังเหี่ยวแห้ง ถ้ากินเป็นประจำจะทำให้หน้าตาแจ่มใสมีน้ำมีนวล ผมดกดำสลวย ไม่แห้งแตกปลาย

          แปะฮวยแปขี่เฉ้า : จัดเป็นยาถอนพิษขนานหนึ่งของจีน ซึ่งนิยมใช้มาตั้งแต่โบราณ ใช้ถอนพิษได้หลายชนิด เช่น พิษจากแมลงสัตว์กัดต่อย พิษจากพืชบางชนิด เป็นต้น

          จิงจูฉ่าย : เป็นผักชนิดหนึ่ง กลิ่นหอม แพทย์จีนเชื่อว่าเป็นยาเย็น ช่วยแก้ไข้ได้ ความเย็นของจิงจูฉ่ายยังมีสรรพคุณช่วยบำรุงปอด ช่วยฟอกเลือด ทำให้เลือดอุ่นและไหลเวียนได้ดี คนจีนจึงนิยมนำผักชนิดนี้มาประกอบอาหารกินกันในหน้าหนาว 

          กระเพาะปลา : ในกระเพาะปลาพบว่ามีสารคาซิเลต ซึ่งเป็นโปรตีนชนิดหนึ่ง แม้จะยังไม่เป็นที่ประจักษ์ว่าสารนี้มีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างไร(เช่นเดียวกับหูฉลาม) แต่คนจีนก็เชื่อว่าช่วยทำให้ร่างกายอบอุ่น เลือดลมไหลเวียนได้ดี มีพละกำลัง จึงนิยมกินในหน้าหนาวเช่นกัน จึงจัดเป็นอาหารบำรุงร่างกายชั้นดีชนิดหนึ่ง




ขอขอบคุณข้อมูลจาก


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
งามตามตำรับสาวจีน อัปเดตล่าสุด 28 สิงหาคม 2552 เวลา 17:32:34 35,609 อ่าน
TOP