x close

แฟนที่ดีนั้น...เป็นฉันใด


แฟนที่ดีนั้น...เป็นฉันใด

แฟนที่ดีนั้น...เป็นฉันใด  (momypedia)

          เมื่อจะเป็นแฟนกันทั้งที อย่าให้มันง่ายนัก มันจะต้องตกลงกันให้เป็นเรื่องเป็นราว คนรุ่นใหม่หัวใจประชาธิปไตยนะคร้าบ มันก็ต้องมีกติการักษาสิทธิของกันและกันซะหน่อย

          ไม่ใช่ว่าเราไปเอาอย่างความคิดฝรั่งอะไรหรอกนะ ก็บรรพบุรุษเรามาจากระบบคลุมถุงชนนี่ครับ ท่านก็เลยไม่เขียนกติกาแบบนี้ไว้ให้ลูกหลานศึกษา สมัยก่อนจะมีแฟนที งุบงิบมุบมิบกันน่าดู ทีนี้บางคู่ที่เขางุบงิบเก็บงำกันมากไป มาเปิดเผยโล่งโจ้งอีกที เสียหายไปหลายแสนแล้ว

          การที่เราได้ตกลงพูดคุยกันเสียหน่อย จะช่วยให้เราเข้าใจกันและกันดีขึ้น จัดความสัมพันธ์กันให้มันสร้างสรรค์ แล้วก็จะไม่ละเมิดสิทธิหรือความเคารพนับถือต่อกัน

          เรื่องหลังนี้สำคัญนะครับ...บางคนแค่เป็นแฟนกัน คุยกันไม่เท่าไหร่ ควงกันไปดูหนังยังไม่ถึง 5 ครั้งเลย แหม้...วางตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของซะยิ่งกว่าพ่อแม่ซะอีกแน่ะ

          ทีนี้ถ้าเราถูกใจกันแล้วล่ะ ตกลงปลงใจจะ(ลอง)ผูกสัมพันธ์ให้ลึกขึ้นกว่าความเป็นเพื่อน ยกระดับขึ้นเป็นแฟนกันดู แล้วก็ยอมรับกติกาความสัมพันธ์ที่พี่ปราณเสนอไปในคราวที่แล้วได้

           ก็มาถึงเรื่อง"เป็นแฟนที่ดีนั้น เป็นฉันใด"

           อย่างที่เคยพูดไป "เป็นแฟนกัน" โดยความหมายก็คือต้องมีสองฝ่าย โบราณท่านว่า "ตบมือข้างเดียวไม่ดัง" ถึงสมัยนี้จะใช้นิ้วเดียวจิ้มคีย์บอร์ดให้ออกมาเป็นเสียงตบมือดังๆได้ แต่คำโบราณนี้ก็ยังใช้ได้ดีสำหรับการเป็นแฟน

           จะเรียกร้องเอาจากใครฝ่ายเดียวหาได้ไม่

           ริรัก ต้องไม่ลืมคำว่า "ให้ และ รับ"

           คิดดูสิครับว่า ถ้าน้องหนูจะเป็นแฟนกับนายหนุ่ม น้องหนูสามารถให้อะไรแก่เขาได้บ้าง...ว้ายยย...ให้เขาหมดทั้งกายและใจ...ไม่ได้นะหล่อน โดยเฉพาะ กาย ...ยังไม่ถึงเวลาครับ

แฟนที่ดีนั้น...เป็นฉันใด

           คำว่า"ให้" ในความหมายนี้ก็คือ ให้ความรู้สึกที่ดี เช่น ให้ความเข้าใจ...ให้ได้มั้ย...ได้ความสบายใจ, ความช่วยเหลือสนับสนุน, ความเอาใจใส่, ความเป็นเพื่อนแท้, ความมีส่วนร่วม, ความเชื่อถือ, ความเคารพ, ความรัก, ความอดทน,ความสนุกสนาน ฯลฯ

           ลองให้ต่างคนต่างเขียนออกมาเป็นรายการ พับใส่ซองสวย ๆ แล้วส่งมาแลกกันดูสิครับ ดูซิว่า เราต่างคนต่างให้อะไรแก่กันได้บ้าง

             เขาอาจจะเขียนว่า สิ่งที่ผมสามารถให้แก่น้องหนู คือปกป้องจากผองภยันตราย (ซึ้ง...จัง)

             เป็นสะพานสายกำลังใจให้เธอก้าวข้ามไปสู่ฟากฝั่งแห่งความสำเร็จ (ว้าว...)

             เป็นภูผาให้พักพิงยามเธอท้อแท้หม่นหมอง...(วิ้ด วิ้ว...) ...ฯลฯ

           ก็แล้วแต่จะสรรหาวาจามาพร่ำพรรณาล่ะนะครับ แต่ที่แน่ ๆ ก็คือ เขาสามารถให้อะไรแก่เรา เราสามารถให้อะไรแก่เขา ด้วยความปรารถนาดีต่อกัน

           การเขียนออกมาเป็นลายลักษณ์อักษร อย่างน้อยมันก็ช่วยให้ต่างฝ่ายต่างได้คิดว่าเมื่อเรามาผูกสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดต่อกัน เราพร้อมที่จะเป็นผู้ให้หรือยัง และถ้าพร้อม ...เราจะให้อะไร

           มันเป็นประหนึ่งพันธะสัญญาเล่มน้อย ๆ เล่มหนึ่ง ที่เราต่างต้องบอกตัวเองว่า เราต้องใส่ความพยายามลงไป จึงจะได้มันมา คิด-ฝัน-อยากได้แต่ไม่ลงมือสร้างสรรค์ ความสัมพันธ์ที่ดีไม่เกิดขึ้นหรอกครับ

           พอ "ให้" แล้วก็มาถึงด้าน "รับ" บ้าง

           บางคนบอกว่า "รักแท้มีแต่ให้" ...ขอประทานโทษ นั่นมันมีแต่ในนิยาย

           ในนิยาย นางเอกรึสุดดีเลิศประเสริฐศรี ให้กระทั่งตายจากกันไปข้าง ยังตามไปให้ในสวรรค์อีก

           ในชีวิตจริง รักแท้ ต้องให้และรับอย่างสมดุล ถึงจะยั่งยืนนาน ให้ฝ่ายเดียว รับฝ่ายเดียว ไม่กระซวกกันตายก็หย่ากันไปนักต่อนักแล้ว

แฟนที่ดีนั้น...เป็นฉันใด

           ถามตัวเองสิครับว่า หนุ่มอยากได้อะไรจากน้องหนู น้องหนูอยากได้อะไรจากเขาสิ่งที่หนูอยากได้จากหนุ่ม ก็คือ

             ความใส่ใจในทุกข์สุขของหนู (รู้ว่าหนูเป็นคนขี้กลัว เวลาข้ามถนนก็จับมือหนูข้ามถนนบ้าง)

             ความเข้าใจในตัวหนู (รู้ว่าหนูขี้แย เวลาไปดูหนังเศร้าอย่างไททานิก ก็พกผ้าเช็ดหน้าไปเผื่อหน่อย)

             การรับฟังความในใจของหนู(รู้ว่าหนูชอบพูด ไปไหนด้วยกันอย่าใส่ซาวนด์อะเบาต์สิคะ) ฯลฯ

           ที่วงเล็บไว้นั่นพี่ปราณโจ๊กกิ้งนะจ๊ะ น้องหนู หรือนายหนุ่มอยากได้อะไรจากกันก็เขียนให้เขารู้ อย่างตรงไปตรงมา การเขียนให้อีกฝ่ายรู้ก็เป็นเรื่องดีที่จะได้รู้ความคาดหวังของกันและกัน ไม่ใช่ไปเดาเอา พอไม่ได้ขึ้นมาก็เสียอกเสียใจ

           แต่ต้องติงไว้หน่อยนะครับว่า สิ่งที่เราอยากได้จากอีกฝ่ายนั้น ต้องเป็นสิ่งที่เป็นไปได้นะครับ ประเภท "น้องหนูอยากได้ดวงจันทร์..." ก็ฝันไปก่อนเถอะ ดีไม่ดีเขาตัดรูปดวงจันทร์ด้านขรุขระมาให้ รังแต่จะโกรธกันไปเปล่า ๆ ปลี้ ๆ

           อีกอย่างหนึ่ง อยากได้พอท้วมๆ พองาม ไม่ใช่โน่นก็จะเอานี่ก็จะเอา แบบนี้ไปสมัครเป็นสาวงามหนุ่มหล่ออยู่ตามหมู่บ้านคานทองนิเวศน์ดีกว่า ไม่ปวดหัวกับใครดี

           ทีนี้เมื่อเขียนแล้ว จะส่งให้เขาไปนั่งอ่านเอง หรือถึงขั้นมาหยิบมานั่งคุยกันได้ ก็จะเป็นการวิเศษสุด

           แน่ละครับ มันคงไม่ง่ายที่จะมาเอ่ยกันในเรื่องนี้ตั้งแต่ต้น เพิ่งนัดคุยกันครั้งแรกก็งัด "ข้อเสนอและข้อเรียกร้อง" ออกมาคนละปึก ...มันจะมากไปหน่อย (อย่าว่าแต่วัยรุ่นเลยครับ พี่ปราณผ่านร้อน(อก)ผ่านหนาว(ใจ)มาหลายพรรษายังไม่กล้าทำบ่อย ๆ เลย)

           อาจจะเริ่มพูดคุยกัน ค่อย ๆ ตกลงกติกากัน แล้วก็ค่อย ๆ ยื่นข้อเหล่านี้ตามมาภายหลังก็ได้ทั้งหมดทั้งปวงนี้ ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ของคนรุ่นเก่า ๆ ที่เอาให้คนรุ่นใหม่คิดพิจารณา ตะวันตกเขามีวิถีบางอย่างในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างคนที่น่าสนใจ และอาจเป็นประโยชน์ นั่นก็คือการพูดกันตรงไปตรงมา ซึ่งอาจจะฝืนความรู้สึกแบบไทย ๆ ที่ "ขี้เกรงใจ ไม่กล้าพูดกลัวเขาจะ..."

           ตรงขั้นเป็นแฟน อาจจะยังไม่มีปัญหาอะไรมากนัก เพราะเรายังไม่ได้ผูกมัดอะไรกันมากมาย แต่ถ้าเราติดเอาความไม่กล้าพูดคุยกันตามติดต่อไปถึงขั้นแต่งงงแต่งงาน ...แบบนี้เห็นปัญหามาเยอะแล้ว

           เด็กหนุ่มสาวส่วนใหญ่ มักมีแฟนแบบเผลอไผล ประเภทบังเอิญ มีอยู่เยอะแยะ มันจึงบังเอิญกันไปได้ตลอดทาง บังเอิญเพื่อนยุ บังเอิญฝนตก บังเอิญไม่มีใครอยู่บ้าน บังเอิญหารถกลับไม่ได้ บังเอิญตั้งท้อง บังเอิญพ่อแม่ไม่ยอมรับ ...เจ้าตัวน้อยตาดำ ๆ แทบจะต้องชื่อ บังเอิญ

           การมีแฟนเป็นประสบการณ์ชีวิตที่ดีนะครับ มีคนพูดว่า "ใครมีแฟนไม่ถึง 3 คนก่อนแต่งงาน คนนั้นมีประสบการณ์ชีวิตไม่พอ" อันนี้ความจริงก็ขึ้นอยู่กับพรหมลิขิตของใครของมันละครับ ไม่มีแฟนมาก่อนเลย แต่งงานกันอยู่ยืดยาวมีเยอะแยะ มีครบ 3 แล้วก็เลยหาคนแต่งด้วยไม่ได้ก็ถมไป แต่คำพูดนี้มีแง่คิดให้รู้ว่า การมีแฟน หรือมีความสัมพันธ์ที่เกินกว่าความเป็นเพื่อนทั่วไปของคนวัยหนุ่มสาวนั้น ก็เป็นประสบการณ์ชีวิตที่มีคุณค่าได้ ถ้าเราจัดการให้ดี

           มันช่วยให้เราเรียนรู้การรู้จักดูแลเอาใจใส่ใครอีกคนหนึ่ง รู้จักที่จะจัดความสัมพันธ์ระหว่างกันให้งดงาม อบอุ่น หอมหวาน แต่ก็เคารพและเป็นอิสระต่อกันได้ เรียนรู้ที่จะเอาความสัมพันธ์นี้มาเป็นกำลังใจ เป็นแรงสนับสนุนให้เราก้าวไปสู่จุดหมายที่เราใฝ่ฝันได้

           ...ถ้าเข้าใจและจัดการได้ดีนะครับ




ขอขอบคุณข้อมูลจาก 





เรื่องที่คุณอาจสนใจ
แฟนที่ดีนั้น...เป็นฉันใด อัปเดตล่าสุด 31 มกราคม 2555 เวลา 15:20:44 15,157 อ่าน
TOP