Effortlessly Beautiful


Effortlessly Beautiful (Lisa)


          การดูแลความงามไม่จำเป็นต้องยุ่งยากหรือใช้ความพยายามมากมายจนเกินไป เรียนรู้เคล็ดลับความงาม 5 เรื่องต่อไปนี้ เพื่อที่คุณจะได้สวยใสโดยไม่ต้องใช้ความพยายาม

          ยืนตัวตรง รู้สึกมั่นใจ และเชื่อในตัวเองสิ่งเหล่านี้ ล้วนเป็นวิธีการสำคัญที่จะสร้างความรู้สึกดีๆ ต่อตัวเอง แต่เช่นเดียวกับที่ผู้หญิงคนใดก็ตามที่เคยยืนมองตัวเองหน้ากระจกจะบอกคุณได้ก็คือ ความงามก็มีส่วนสำคัญด้วยเช่นกัน ถึงรูปลักษณ์จะเป็นเพียงตัวตนของคุณเพียงส่วนเดียว แต่มันก็ยังคือตัวตนส่วนหนึ่งของคุณอยู่ดี

          ความรู้สึกที่ว่าตัวเองดูดีที่สุด จึงสามารถเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดความเชื่อมั่นได้เช่นกัน แต่การดูดีที่สุดในแบบของคุณไม่ได้จำเป็นต้องยุ่งยากหรือราคาแพง สิ่งสำคัญที่ช่วยให้คุณดูดีและรู้สึกดีต้องการเพียงความใส่ใจในเรื่องความลับความงามพื้นฐานสองสามอย่าง ที่ไม่ต้องใช้เวลาหรือเงินทองมากมาย

          และเพื่อช่วยคุณค้นหาเคล็ดลับความงามที่แสนง่ายดาย ไม่ยุ่งยาก และได้ผลจริงๆ เราได้พูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณหลายต่อหลายคน และสรุปออกมาเป็นเคล็ดลับความงาม 5 ประการต่อไปนี้ที่รับรองผลสูงสุด!

 1.อย่าได้ระเมินอำนาจของมอยส์เจอไรเซอร์ต่ำไป

          ไม่ว่าผิวของคุณจะปกติดี แห้งไปนิด หรือมันไปหน่อย ถ้าคุณต้องเลือกที่จะจ่ายเงินสำหรับผลิตภัณฑ์เพียงอย่างเดียว ผู้เชี่ยวชาญก็แนะนำว่า ให้ทุ่มเงินของคุณไปที่มอยส์เจอไรเซอร์ดีๆ สักขวด

          “บางครั้งสิ่งที่คุณต้องการจริงๆ ก็คือมอยส์เจอไรเซอร์ดีๆ และเคลนเซอร์ที่อ่อนโยนต่อผิว แค่นี้คุณก็จะทำให้ผิวพรรณดูอ่อนเยาว์ลงได้แล้ว”
ศ.พญ.โรด้า นารินส์ แห่งมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก ประธานของ American Society of Dermatologic Surgery บอกเช่นนั้น

          เพราะเมื่อผิวแห้ง ริ้วรอยเหี่ยวย่นทั้งหลายก็จะเห็นเด่นชัดขึ้น ทำให้คุณดูแก่กว่าวัย โดยเฉพาะถ้าคุณอยู่ในวัยเลขสองหรือสาม มอยส์เจอไรเซอร์จะให้การปกป้องที่คุณต้องการ เพื่อไม่ให้ผิวร่วงโรยก่อนวัยอันควร ในวัยนี้ มอยส์เจอไรเซอร์ดีๆ จึงสามารถแทนที่ผลิตภัณฑ์มากมายหลายต่อหลายอย่างได้เลย

          แล้วมอยส์เจอไรเซอร์ “ดีๆ” เป็นยังไงกันแน่น่ะหรือ? ผู้เชี่ยวชาญต่างเห็นพ้องต้องกันว่า มันคือผลิตภัณฑ์ที่ทำอะไรก็ตาม ตั้งแต่การเติมความชุ่มชื่นอย่างอ่อนโยน เก็บกักความชุ่มชื่นไว้ ไปจนถึงช่วยให้ผิวสร้างความชุ่มชื้น แต่ควรเป็นแบบที่เหมาะกับความต้องการของผิวคุณเป็นหลัก

          ถ้าผิวของคุณปกติดีแต่ค่อนไปทางแห้งเล็กน้อย ลองมองหามอยส์เจอไรเซอร์ที่มีส่วนผสมของกรดอัลฟ่าไฮดร็อกซี่ มันสามารถช่วยให้ผิวสร้างความชุ่มชื้นได้มากขึ้นได้ด้วยตัวของมันเอง แต่ถ้าผิวแห้งมากก็ควรใช้มอยส์เจอไรเซอร์ที่มีความเข้มข้นมากขึ้น หรืออาจมองหาผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมซึ่งช่วยปลอบประโลมผิว เพราะผิวแห้งมักจะมีแนวโน้มที่จะระคายเคืองได้ง่ายด้วยเช่นกัน ส่วนผิวมัน ให้มองหาผลิตภัณฑ์ที่มีเนื้อบางเบาและอ่อนโยนที่สุด แต่อย่าได้ข้ามขั้นตอนตอนนี้ไปเลย เพราะน้ำมันบนผิวไม่ใช่ความชุ่มชื้น ถึงคุณจะมีน้ำมันส่วนเกินบนผิวแค่ไหนก็ตาม คุณก็ยังต้องการมอยส์เจอไรเซอร์อยู่ดี ลองมองหาผลิตภัณฑ์แบบปราศจากน้ำมันหรือที่ออกแบบมาสำหรับผิวมันโดยเฉพาะ

 2.ครีมกันแดดเป็นผลิตภัณฑ์ต่อต้านริ้วรอยและความร่วงโรยที่ดีที่สุด

          ก่อนที่คุณจะไปหาแพทย์เพื่อผ่าตัดดึงหน้า ก่อนที่จะทุ่มทุนไปกับผลิตภัณฑ์แอนตี้เอจจิ้งราคาแพง ความจริงแล้ว ก่อนที่คุณจะทำอะไรทั้งหลายทั้งปวงเลย นั่นแหละ ให้คุณทาครีมกันแดดก่อน

          ในขณะที่เราส่วนใหญ่รู้ว่า ครีมกันแดดช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งผิวหนัง แต่คุณรู้ความลับอีกอย่างของมันหรือเปล่าว่า มันสามารถช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์ได้ด้วย

          เหตุผลก็คือ ครีมกันแดดบล็อกรังสียูวีร้ายจากแสงอาทิตย์ไม่ให้ทำร้ายผิว มันจึงป้องกันผลกระทบที่จะทำให้ผิวร่วงโรยก่อนวัยด้วย ผู้เชี่ยวชาญให้อรรถาธิบายว่าแสงแดดส่งผลกระทบต่อการสร้างคอลลาเจนในผิวและถ้าไม่มีคอลลาเจน ผิวก็จะไม่อาจรักษาความเอิบอิ่มความยืดหยุ่น รวมถึงความชุ่มชื้นและความอ่อนเยาว์เอาไว้ได้

          หากเผชิญกับแสงแดดมากเกินไป ผิวก็จะเกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควรได้อย่างรวดเร็ว ข้อมูลจาก American Academy of Dermatology ระบุว่า หากปราศจากการปกป้องด้วยครีมกันแดด แค่เพียงสองสามนาทีต่อวันเป็นเวลาหลายปี ก็สามารถทำให้เกิดความแตกต่างที่เห็นได้ชัดเจนบนผิวได้แล้ว

          ไม่เพียงแต่คุณจะเห็นริ้วรอยมากขึ้น แต่ยังมีจุดด่างดำ ฝ้า กระ ความหมองคล้ำ ผิวจะดูหยาบกร้าน และเหี่ยว ทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะแสงแดดทั้งสิ้น ครีมกันแดดสามารถปกป้องคุณได้จากความเสียหายเหล่านี้ ถึงแม้คุณจะใช้เวลาอยู่กลางแจ้งอย่างมาก ใบหน้าของคุณก็จะมีแนวโน้มน้อยกว่าที่จะพ่ายแพ้ต่อวัยของคุณ ถ้าคุณใช้ครีมกันแดด

          ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF อย่างน้อย 15 หรือสูงกว่านั้น และเพราะแสงแดดสามารถทำให้ประสิทธิภาพในการกันแดดน้อยลงไปเรื่อยๆ ถ้าคุณอยู่กลางแดดเป็นเวลานานๆ ก็ควรทาซ้ำทุกหนึ่งหรือสองชั่วโมง

          ทางเลือกอีกอย่างหนึ่งก็คือ ทาครีมกันแดดก่อนแต่งหน้า และสำหรับการเติมแต่งก็ใช้แป้งฝุ่นแบบมิเนอรัลที่ช่วยเพิ่มเติมการปกป้องแสงแดดได้ในระหว่างวัน เนื่องจากแป้งแบบมิเนอรัลมีส่วนผสมของสารกันแดด และเนื่องจากมันไม่สะสมตัวบนผิว คุณจึงสามารถเติมการปกป้องได้ตลอดทั้งวัน

 3.เลือกเคลนเซอร์อย่างชาญฉลาด

          ถ้าคุณเป็นสาวประเภทที่ชอบใช้สบู่กับน้ำล้างหน้า คุณก็น่าจะลองทบทวนกลยุทธ์การทำความสะอาดของคุณดูอีกที

          แพทย์ผิวหนังส่วนใหญ่เห็นด้วยว่า หนึ่งในเคล็ดลับความงามที่ดีที่สุดก็คือ การใช้เคลนเซอร์ที่อ่อนโยนต่อผิวที่สุดและใช้แต่พอประมาณ ในขณะที่คุณอาจจะอยากล้างหน้าวันละหลายๆ ครั้ง โดยเฉพาะสำหรับคนที่มีผิวมัน ไม่เพียงแต่การทำความสะอาดมากเกินไปจะไม่ช่วยอะไรคุณได้แล้ว ถ้าคุณใช้ผลิตภัณฑ์ที่แรงเกินไป โดยเฉพาะสบู่ คุณก็อาจทำร้ายผิวของคุณด้วย

          การล้างหน้าบ่อยเกินไปหรือมากกว่าวันละสองครั้ง คุณจะทำลายไขมันตามธรรมชาติที่เป็นปราการป้องกันและหล่อเลี้ยงผิวให้มีสุขภาพดี เมื่อการปกป้องผิวถูกทำลายไป ความสมดุลผิวก็จะถูกรบกวน ผิวจะเกิดความแห้ง แตก คัน หรือเกิดทุกอย่างพร้อมกันก็ได้ ทั้งหมดนี้ยังหมายความด้วยว่า จะทำให้คุณดูแก่กว่าวัยของคุณ ทางออกก็คือ ไม่ล้างหน้ามากกว่าวันละสองครั้งและเลือกเคลนเซอร์ที่อ่อนโยนที่สุดเสมอ

 4.ใช้เครื่องมือที่เหมาะสมกับงาน

          คุณอาจมีอายแชโดว์ที่ดีที่สุดเท่าที่เงินจะสามารถหาซื้อได้ รองพื้นที่หรูหราที่สุดในโลก หรือลิปสติกแบบเดียวกับที่สุดยอดนางแบบใช้กัน แต่ถ้าคุณไม่มีเครื่องมือที่เหมาะสมในการแต่งแต้มมัน คุณประโยชน์ของมันก็จะหายไปด้วย

          การใช้แปรงหรือพู่กัน หรือเครื่องมือใดก็ตามที่เหมาะสมในการเติมแต่งความงาม เป็นหัวใจสำคัญในการทำให้ผลิตภัณฑ์นั้นๆ สามารถทำงานได้ตามที่มันควรจะเป็น และทำให้คุณได้ลุคอย่างที่คุณอยากได้ สำหรับช่างแต่งหน้ามืออาชีพแล้ว เครื่องมือเป็นสิ่งสำคัญพอๆ กับเมกอัพที่พวกเขาใช้เลยทีเดียว

          แล้วเครื่องมือที่ดีคืออะไรกันแน่? แปรงหรือพู่กันควรจะนุ่มนวลและอ่อนโยนต่อผิว แต่ก็มีความแน่นพอที่จะเก็บผลิตภัณฑ์เอาไว้และกระจายมันลงบนผิวได้อย่างสม่ำเสมอ ถ้าคุณจุ่มแปรงหรือพู่กันลงในอายแชโดว์หรือบลัชออน และสีร่วงลงมาก่อนที่คุณจะทาลงบนใบหน้า ก็แสดงว่ามันเป็นแปรงที่ไม่ได้เรื่องเท่าไหร่นัก

          ถ้าคุณไม่รู้ว่าจะซื้ออะไรดี ทางเลือกที่ปลอดภัยอย่างหนึ่งก็คือ เครื่องมือดีๆ ที่เครื่องสำอางชั้นดียี่ห้อต่างๆ สร้างสรรค์ขึ้นมา ซึ่งส่วนใหญ่ถูกออกแบบมาเพื่อให้คุณสามารถใช้งานได้แบบเดียวกับมืออาชีพ

          เครื่องมือดีๆ ยังทำให้การแต่งหน้าเป็นไปได้อย่างง่ายดาย และเป็นสิ่งที่ทำให้การแต่งหน้าโดยผู้หญิงธรรมดาทั่วไป แตกต่างกับการแต่งหน้าของมืออาชีพและผู้หญิงที่รู้จักการใช้เครื่องมือดีๆ ที่เหมาะสม

 5. เปลี่ยนทรงผมและการแต่งหน้าทุกสองปี

          ถ้าคุณเดินเข้าในงานเลี้ยงรุ่น และมีแต่เสียงทักว่า “เธอไม่เปลี่ยนไปสักนิดเลย” ให้รีบวิ่งไปที่ร้านเสริมสวยที่อยู่ใกล้ที่สุดโดยด่วน

          ผู้เชี่ยวชาญบอกว่า ถ้าคุณไม่อาจจำได้ว่าคุณเปลี่ยนทรงผมและการแต่งหน้าครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ ก็เท่ากับว่าทรงผมและการแต่งหน้าของคุณหมดอายุไปนานโขแล้ว โดยหลักการก็คือ ลุคของคุณ ทั้งทรงผมและเมกอัพ ควรจะมีการอัพเดตอย่างน้อยทุกสองปี และเร็วกว่านั้นถ้าเทรนด์เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน การทำให้ลุคของคุณทันต่อเหตุการณ์อยู่เสมอเป็นการทำให้คุณดูอ่อนเยาว์และทันสมัย ไม่มีอะไรที่เชยและทำให้คุณดูแก่ได้เท่ากับทรงผมและเมกอัพที่แสนจะล้าสมัย

          ถ้าคุณไม่ได้เปลี่ยนการแต่งหน้ามานานแล้ว ก็ลองแวะไปที่เคาน์เตอร์เครื่องสำอางที่คุณโปรดปรานและหาผลิตภัณฑ์หรือสีสันใหม่ๆ ที่จะช่วยคุณอัพเดตตัวเอง และเพื่อหาทรงผมใหม่ๆ โดยไม่ต้องทุ่มลงไปทั้งตัว ก็ลองหาวิกผมใหม่ๆ มาลองดู มันเป็นวิธีการที่สนุก รวดเร็ว และก็ง่ายดายในการทดลองหาทรงผมหรือสีสันที่เหมาะกับตัวเอง ก่อนจะตัดสินใจนัดช่างทำผม


เรื่องราวผู้หญิง ความสวยงาม แฟชั่น ความรัก มากมาย คลิกเลย 

คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อนๆ ได้ที่นี่ค่ะ



ขอขอบคุณข้อมูลจาก

Vol.9 No.46 พฤศจิกายน 2551

เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
Effortlessly Beautiful อัปเดตล่าสุด 25 กันยายน 2552 เวลา 13:59:59
TOP
x close