
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ผิวสวย ๆ ที่ไร้จุดด่างดำ ดูแล้วกระจ่างตา ทั้งยังละเอียด นุ่มนวล และไร้ริ้วรอย เป็นผิวที่ไม่ว่าผู้หญิงคนไหนก็ย่อมปรารถนา สาว ๆ จึงหมั่นบำรุงรักษาผิวกันสารพัด ซึ่งวิธีดูแลผิวก็มีเยอะเสียจนจำไม่หมดเก็บรายละเอียดกันไม่ถ้วนเลยทีเดียว กระปุกดอทคอมจึงขอรวบรวมเอาวิธีการดูแลบำรุงผิวทั้งหลายเหล่านั้นมาเป็น สารพัดปัญหาผิว 11 ประการ พร้อมข้อแนะนำในการดูแลที่สาว ๆ ควรนำไปทำตามเพื่อผิวใสไร้ที่ติกันค่ะ
เมื่อต้องออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้งในวันที่อากาศแห้ง ลมแรง หนาวจัด หรือร้อนจัด ให้พกลิปบาล์มเนื้อข้นที่มีค่า SPF30 ไปใช้ด้วย ส่วนเมื่ออยู่ในร่มก็ให้ใช้ลิปบาล์มสูตรบำรุงความชุ่มชื้นหรือใช้ปิโตรเลียมเจลลี่ทาริมฝีปากเพื่อป้องกันการสูญเสียความชุ่มชื้นก็ได้เช่นกัน
ผิวหน้าดูหยาบเมื่อรูขุมขนอุดตันไปด้วยความมันและเซลล์ผิวที่ตายแล้ว จัดการทำความสะอาดรูขุมขนด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่มีส่วนผสมของกรดซาลิไซลิกเข้มข้น 0.5-1% เป็นประจำทุกวันเว้นวัน และให้ใช้ร่วมกับการใช้ครีมที่มีคุณสมบัติช่วยผลัดเซลล์ผิวสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง นอกจากนี้คุณยังสามารถพรางรูขุมขนที่ดูใหญ่ได้ ด้วยการใช้แปรงแตะแป้งฝุ่นโปร่งแสงปัดเพื่อพรางผิวบริเวณนั้น
ผลิตภัณฑ์เหล่านี้สามารถช่วยให้คุณจัดการปัญหาหน้ามันได้
ใช้อายครีมเนื้อเบาที่ช่วยกระจายแสงได้แต้มเป็นจุด ๆ ที่ใต้ดวงตา ตบเบา ๆ รอจนมันซึมลงไปและแห้งดี วิธีเช่นนี้จะช่วยให้คุณเกลี่ยคอนซีลเลอร์ที่จะทาตามลงไปได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้อย่าลืมเลือกใช้คอนซีลเลอร์ที่มีสีพอดีกับผิวของคุณเท่านั้น การเลือกใช้สีที่อ่อนกว่าผิวจริงไม่ได้ทำให้ใต้ดวงตาดูกระจ่างใสขึ้น แต่กลับทำให้มันดูบวมและสังเกตเห็นปัญหาได้ชัดเจนขึ้นกว่าเดิมเสียอีก
แต้มสิวด้วยยาทาสิว หรือมาส์กด้วยโคลนมาส์กสำหรับผิวเป็นสิวที่มีส่วนผสมของซัลเฟอร์เป็นเวลา 5 นาที หรือจนกว่ามันจะแห้ง แล้วจึงล้างออก วิธีนี้จะช่วยให้หัวสิวของคุณยุบแห้งลง จากนั้นก่อนนอนทุกคืนให้ทาหน้าบาง ๆ ด้วยครีมที่มีส่วนผสมของเบนโซอิล เปอร์ออกไซด์ (benzoyl peroxide) เข้มข้น 2.5% อันจะช่วยฆ่าเชื้อ ลดอาการอักเสบของสิวทั้งใบหน้าได้ รวมทั้งทำให้สิวที่มีอยู่เดิมแห้งไวขึ้น และสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือห้ามบีบแคะแกะเกาสิวเด็ดขาด ปกติแล้วบนใบหน้าที่สะอาดสิวจะยุบลงไปได้เองภายใน 4-5 วัน แต่หากไปรบกวนมันด้วยการบีบแคะแกะเกาคุณอาจต้องใช้เวลาในการรักษา 2 สัปดาห์เป็นอย่างต่ำเลยทีเดียว
เริ่มต้นที่การเลือกผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่ไม่ทำความสะอาดล้ำลึกจนดึงเอาน้ำมันในผิวตามธรรมชาติออกไปเสียหมด และต้องทำหน้าที่เป็นสครับอย่างอ่อนโยนเพื่อกำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไป เพราะเซลล์ผิวตายแล้วที่ทับถมกันอยู่นี่เองเป็นตัวปิดกั้นไม่ให้มอยส์เจอไรเซอร์ที่คุณใช้ซึมลึกลงไปบำรุงผิวเบื้องล่าง จากนั้นจึงเข้าสู่ขั้นตอนการบำรุง ในตอนเช้าให้ใช้มอยส์เจอไรเซอร์ที่มีส่วนผสมของ SPF จากนั้นจึงใช้มอยส์เจอไรเซอร์แบบเจือสี เพื่อเป็นการเตรียมผิวพร้อมรับการแต่งหน้า ส่วนในยามค่ำคืนให้เลือกใช้มอยส์เจอไรเซอร์ครีมเนื้อหนัก ๆ ทาผิวหน้าแล้วปิดไฟนอนได้เลยค่ะ
ผิวที่ดูหมองคล้ำมีสาเหตุสำคัญมาจากเซลล์ผิวตายแล้วที่ยังคงไม่หลุดไปไหน กุญแจสองดอกที่จะจัดการกับปัญหานี้ได้คือ การสครับผิวอย่างอ่อนโยน และการเพิ่มประกายให้กับผิว เริ่มจากการใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่มีส่วนผสมของกรดซาลิไซลิกเป็นประจำ จากนั้นจึงใช้พีลลิ่งมาส์กหรือมาส์กแบบลอกออกได้ สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง เพื่อลอกเอาเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกมา เท่านี้ผิวก็ดูสดใสขึ้นกว่าเดิมมาก และหากต้องการเติมประกายให้ผิวดูสุขภาพดีเป็นพิเศษ ให้ใช้ทรีตเมนท์เนื้อเจลทาที่โหนกแก้มทั้งสอง หน้าผาก และสันจมูก เพียงเท่านี้ใบหน้าก็ดูมีประกายสุขภาพดี และหน้าไม่มันด้วย
รับมือกับปัญหาผิวแห้งกร้านจนเป็นขุยได้ด้วยการสครับและบำรุงผิวอย่างถูกวิธี เพราะการสครับเพียงอย่างเดียวโดยขาดการบำรุงจะยิ่งทำให้สภาพผิวของคุณดูแย่กว่าเดิม หลังจากสครับผิวด้วยสครับแบบที่คุณใช้อยู่เป็นประจำแล้ว (อย่าลืมเน้นที่ข้อศอกและหัวเข่า ซึ่งแห้งและกร้านมากกว่าส่วนอื่น ๆ) หลังอาบน้ำให้ใช้ออยล์ทาผิวลูบไล้ให้ทั่วทั้งที่ตัวยังเปียกอยู่ และเมื่อซับตัวแห้งดีแล้วให้ทาโลชั่นตามทันที เท่านี้ก็มั่นใจได้ว่าผิวที่เพิ่งสครับมาจะได้รับการดูแลเต็มที่ และอ่อนนุ่มชุ่มชื้นขึ้นอย่างแน่นอน
การจะแก้ปัญหาจุดด่างดำได้ย่อมต้องใช้เวลา และที่สำคัญคือต้องเลี่ยงการถูกแดดเพราะจะยิ่งทำให้จุดด่างดำที่มีสีเข้มขึ้น
หากปัญหาของใครตรงกับ 11 ข้อที่รวบรวมมาฝากกันนี้ ก็อย่าลืมบำรุงดูแลจัดการปัญหาตามวิธีที่ได้แนะนำมาพร้อมกันด้วยนะคะ






