
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
สิว ปัญหาใหญ่ที่ไม่ว่าใครก็ไม่อยากเผชิญ แต่จะแก้ปัญหาสิวได้อย่างไร วันนี้เรามีสมุนไพรที่ใช้รักษาสารพัดปัญหาสิวมาฝากกันค่ะ

ว่านหางจระเข้มีสรรพคุณในการบำรุงผิว ป้องกันฝ้า ลบรอยจุดด่างดำ และรักษาสิว วิธีใช้คือ นำวุ้นจากใบสด มาทาบริเวณที่มีเป็นสิว เพียงแค่วันละ 2 ครั้ง เช้า - เย็น และปล่อยให้แห้งโดยไม่ต้องล้างออก เพียงเท่านี้ สิวก็จะค่อย ๆ หายไป สำหรับผู้ที่ผิวแพ้ง่าย อาจทดลองทาวุ้นบริเวณท้องแขนดูก่อนว่ามีอาการแพ้หรือไม่

ในหอมแดงสดจะประกอบไปด้วยน้ำมันหอมระเหยและสารต่าง ๆ ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยยับยั้งเชื้อแบคทีเรียสาเหตุของสิว วิธีใช้คือ นำหัวหอมแดงสดนำมาฝานเป็นแว่นบาง ๆ หรือทุบเบา ๆ แตะน้ำที่ซึมออกมาจากหัวหอมนำมาทาบาง ๆ บริเวณที่เป็นสิวหรือรอยจุดด่างดำ รอยสิวก็จะค่อย ๆ จางหายไปในไม่ช้า

น้ำมะนาว ทำงานโดยการผลัดเอาเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไป ช่วยสร้างความยืดหยุ่นให้แก่ผิว ทั้งยังช่วยชำระรูขุมขนและช่วยให้ผิวรู้สึกสดชื่น สดใสด้วย สามารถใช้ได้ทั้งทาและดื่ม
วิธีใช้น้ำมะนาว ทารักษาสิว เริ่มต้นด้วย บีบน้ำมะนาว 1 ช้อนชาในถ้วยเล็ก และใช้สำลีจุ่มน้ำมะนาวพอเปียก แต่หากรู้สึกแสบเกินไปก็อาจผสมน้ำเพิ่มได้ จากนั้นก็ล้างหน้าให้สะอาด แล้วนำน้ำมะนาวที่ผสมแล้วป้ายลงบนสิว ทิ้งไว้ทั้งคืนแล้วค่อยล้างออกตอนเช้า สำหรับท่านที่แต่งหน้า อาจทาซ้ำอีกครั้งก่อนแต่งหน้า แต่หากรู้สึกว่าน้ำมะนาวนั้นแรงเกินไป แม้ว่าจะผสมน้ำให้เจือจางแล้ว ให้ทิ้งไว้ 10 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น โดยวิธีการนี้จะใช้เวลา 2 สัปดาห์เป็นอย่างต่ำจึงจะเห็นผล

นอกจากนี้ เรายังสามารถนำน้ำมะนาวมาดื่มรักษาสิวได้ด้วย ซึ่งมีด้วยกัน 2 สูตร คือ
สูตร 1 นำน้ำมะนาว 1 ลูก ผสมกับน้ำเปล่า 16 ออนซ์ (480 มิลลิลิตร) ผสมดื่มได้ทั้งวัน
สูตร 2 นำน้ำมะนาว 1 ลูก ผสมกับน้ำเปล่า 8 ออนซ์ (240 มิลลิลิตร) ดื่มในตอนเช้า เป็นสิ่งแรกของวัน และหลังจากดื่มน้ำมะนาวแล้ว ให้งดการดื่ม หรือรับประทานสิ่งใด ๆ เป็นเวลา 30 นาที เพื่อให้น้ำมะนาวชำระล้างร่างกาย

มะม่วงเป็นผลไม้ที่มีกรดอ่อน ๆ ช่วยในการผลัดเซลล์ผิว เราสามารถนำมะม่วงสุกมาใช้ในการแก้ปัญหาสิวได้ วิธีใช้คือ นำมะม่วงสุก 1 ผล มายีจนข้นเหลว แล้วเติมน้ำมะนาวครึ่งช้อนโต๊ะ ดินสอพอง 1 ใน 4 ช้อนโต๊ะ และน้ำผึ้งสัก 1 ช้อนชา จากนั้นก็ยีทั้งหมดให้เข้ากันอีกครั้งและนำมาปั่น แล้วมาทาทั่วใบหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที ก่อนล้างออกด้วยน้ำสะอาด
นอกจากใช้แก้ปัญหาสิวแล้ว เรายังใช้มะม่วงสุกในการป้องกันสิวได้ด้วย วิธีใช้คือ ใช้เนื้อมะม่วงสุก 1 ผล น้ำมะนาว ครึ่งช้อนแกง ปั่นรวมกับดินสอพอง 1 ใน 4 ช้อนแกง ปั่นรวมกันจนเหลวข้น และนำมาทาทั่วผิวหน้า โดยเว้นรอบดวงตาและปาก ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที แล้วค่อยล้างออกด้วยน้ำสะอาด จะช่วยแก้ปัญหาสิว ฝ้า และผิวหน้าจะขาวเนียนอ่อนกว่าวัย

สารสกัดในใบบัวบกมีฤทธิ์ในการต้านการอักเสบและอาการแพ้ ช่วยในการสมานผิว ป้องกันรอยแผลเป็น และลดการสะสมของแบคทีเรียได้อย่างดี วิธีใช้คือ นำใบบัวบกผงมาผสมน้ำสะอาด พอกหน้าให้แห้งแล้วล้างออก หรือใช้แต้มหัวสิว จะทำให้สิวแห้งและหายเร็วขึ้น

เปลือกมังคุดนั้นเป็นที่รู้กันว่ามีสรรพคุณทางยาหลายประการ ทั้งยังมีฤทธิ์ในการลดการอักเสบของสิว และยับยั้งแบคทีเรีย วิธีใช้คือ นำเปลือกมังคุดแห้งมาต้มน้ำอาบ หรือใช้น้ำต้มเปลือกมังคุดมาทาบริเวณที่มีอาการ หรือนำเปลือกมังคุดมาบดเป็นผงและผสมน้ำเปล่า พอกหน้าจนแห้งแล้วล้างออก หรือใช้แต้มหัวสิวหนอง สิวจะยุบภายใน 1 - 2 วัน

ขมิ้นชัน มีคุณสมบัติในการผลัดเซลล์ผิวใหม่ วิธีใช้คือ นำปูนแดง ครึ่งช้อนชา ขมิ้นชันผง 1 ช้อนชา และน้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ มาผสมคนให้เป็นเนื้อเดียวกัน หลังจากล้างหน้าให้สะอาดแล้ว นำส่วนผสมที่ได้ มาแต้มที่หัวสิวทิ้ง และไว้จนกว่าเนื้อครีมจะแห้ง แต้มทุกเช้า-เย็น จนกว่าหัวสิวจะยุบและหาย


ไพล มีคุณสมบัติในการผลัดเซลล์ผิวใหม่ วิธีใช้คือ นำไพลมาละลายลงในน้ำสะอาด มาทำความสะอาดบริเวณที่เป็นสิวอักเสบเป็นประจำ จะช่วยลดอาการอักเสบได้

ทองพันชั่ง มีคุณสมบัติในการผลัดเซลล์ผิวใหม่ วิธีใช้คือ นำน้ำที่สกัดจากทองพันชั่ง มาทาบริเวณที่เป็นสิวอักเสบ จะช่วยลดอาการอักเสบของสิวลงได้

เสลดพังพอน มีคุณสมบัติในการผลัดเซลล์ผิวใหม่ วิธีใช้คือ นำน้ำที่สกัดจากเสลดพังพอน มาทาบริเวณที่เป็นสิวอักเสบ จะช่วยลดอาการอักเสบของสิวลงได้

แคโมมีลเป็นสมุนไพรตะวันตก วิธีใช้คือ นำแคโมมีลมาต้มให้เดือด ทิ้งไว้จนเย็นแล้วนำมาใช้ล้างหน้าทุกวัน จะช่วยรักษาสิวบนใบหน้าได้

ในทุเรียนนั้นอุดมไปด้วยธาตุกำมะถันที่ช่วยให้เม็ดสิวแห้งเร็ว และช่วยบำรุงผิวให้ชุ่มชื่นไปพร้อม ๆ กับการกระตุ้นให้รูขุมขนผลักสิ่งสกปรกที่มีอยู่ให้ออกมาด้วย วิธีใช้คือ นำเนื้อทุเรียนห่าม 3 - 5 ช้อนโต๊ะ หั่นเนื้อทุเรียนเป็นชิ้นเล็ก ๆ มาปั่นรวมกับดินสอพอง 1 ใน 4 ช้อนโต๊ะ ให้เป็นเนื้อครีม ล้างหน้าให้สะอาด จากนั้นนำครีมที่ได้ พอกให้ทั่วใบหน้ายกเว้นรอบดวงตา ทิ้งไว้ประมาณ 10 - 15 นาที แล้วจึงล้างออกด้วยน้ำอุ่น แล้วตามด้วยน้ำเย็นเพื่อกระชับรูขุมขน ทำเช่นนี้ประมาณสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ปัญหาสิวเสี้ยนจะค่อย ๆ ลดลง และผิวหน้าจะเนียนนุ่มกลมกลืน สำหรับผู้ที่มีปัญหาสิวอุดตันก็สามารถใช้สูตรนี้ได้เช่นกัน แต่ควรทำเฉพาะช่วงที่เป็นสิว และไม่ควรพอกบ่อยจนเกินไปเพราะอาจทำให้ผิวหน้าขาดความสมดุลได้

