เรียกคืนความกระชับให้ผิวหน้าและลำคอ (Lisa)
นอกจากใบหน้าแล้ว หลายคนอาจลืมไปว่าลำคอก็เป็นตัวบ่งชี้ช่วงวัยของผู้หญิงได้เช่นกัน ดังนั้น การยกกระชับผิวหน้าอย่างมีประสิทธิภาพควรทำควบคู่ไปกับลำคอด้วย
Q : อยากทราบถึงวัตกรรมใหม่ ๆ ที่ช่วยยกกระชับผิวหน้าและลำคอได้อย่างมีประสิทธิภาพค่ะ
A : คนเราเมื่ออายุมากขึ้น ปัญหาความหย่อนคล้อยของผิวเป็นสิ่งเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งในปัจจุบันก็มีเทคโนโลยีและวิธีมากมายที่ช่วยยกกระชับผิว แต่ในวันนี้จะขอกล่าวถึงแค่เทคนิคที่ทำให้ผู้ป่วยเจ็บตัวน้อยและกำลังเป็นที่นิยมอยู่ในปัจจุบัน นั่นก็คือ Fiactional RF Microneedle และการยกกระชับรูปหน้าด้วยไหมละลาย
1. Fractional RF Microneedle
เป็นการยกกระชับโครงหน้าโดยการส่งพลังงาน Radio-Frequency เป็นระยะ ๆ ด้วยเข็มนาโนที่ออกแบบเป็นพิเศษไปที่ผิวหนังชั้นลึกเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เส้นใยอิลาสติน และไฮยาลูรอนิกแอชิดไปพร้อม ๆ กัน ซึ่งสารทั้งสามนี้ล้วนเป็นองค์ประกอบหลักของความยืดหยุ่นและความตึงกระชับของผิวหนัง อีกทั้งยังทำให้คอลลาเจนที่เสื่อมแล้วกลับมาตึงกระชับได้อีกครั้ง จึงทำให้ผิวหน้าที่หย่อนคล้อยกลับมากระชับได้รูป
สำหรับขั้นตอนการทำจะต้องทายาชาก่อนประมาณ 45 นาที แล้วจึงเริ่มด้วยเครื่องมือพิเศษ ใช้เวลาทำเพียง 20 นาที ในขณะทำอาจรู้สึกร้อนบ้างในบางจุด และหลังรักษาจะมีอาการบวมหรือแดงเล็กน้อยบริเวณที่ทำหลัง 24 ชั่วโมงแรกจะสามารถใช้เครื่องสำอางบริเวณที่ทำการรักษาได้ตามปกติ และในช่วงหนึ่งสัปดาห์แรกหลังทำควรหลีกเลี่ยงแดดจัดและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และจะเริ่มเห็นผลการรักษาคือผิวจะเรียบเนียน ยืดหยุ่นและฟูขึ้น ควรทำต่อเนื่องเดือนละหนึ่งครั้ง ประมาณ 3-5 ครั้ง เพื่อผลลัพธ์ที่สมบูรณ์ และเมื่อครบคอร์สแล้วสามารถทำซ้ำได้ทุก 3-6 เดือน
จุดเด่นของ Fractional RF Microneedle คือ
สามารถเห็นผลได้ทันทีตั้งแต่การทำครั้งแรก และผลการรักษาจะอยู่ได้นานประมาณ 3-5 ปีหลังเข้ารับการรักษาจนครบ 3-5 ครั้ง
สามารถแก้ไขปัญหาอื่น ๆ ของผิวได้พร้อม ๆ กัน เช่น หลุมสิวและรอยแผลเป็นจากสิว สีผิวไม่เรียบเนียน เป็นต้น
2. การยกกระชับรูปหน้าด้วยไหมละลาย
เป็นการใช้ไหมชนิด Polydioxanone (PDO) ซึ่งเป็นไหมละลายที่ใช้เย็บผนังเส้นเลือดหัวใจมนุษย์ และได้ผ่านการรับรองจากอย. โดยจะร้อยเข้าไปในผิวหนังบริเวณคางและลำคอส่วนบนเพื่อยกกระชับผิวบริเวณนั้น ด้วยกลไกนี้เส้นไหมจะละลายภายใน 6-8 เดือน โดยไม่ทิ้งสารตกค้างใด ๆ ในระหว่างนั้นก็จะกระตุ้นการสร้างเส้นใยอิลาสตินและคอลลาเจนเพื่อยกกระชับคาง ลำคอส่วนบน และบริเวณใกล้เคียง โดยผู้ที่จะเข้ารับการรักษาไม่จำเป็นต้องเตรียมตัวใด ๆ โดยจะเริ่มด้วยการทายาชาบริเวณที่จะรักษาประมาณ 45 นาที หลังจากนั้นผู้ทำการรักษาจะร้อยเส้นไหมเข้าไปยึดตามเนื้อเยื่อผิวบริเวณคอและคางโดยใช้วิธีร้อยเรียงเส้นไหมด้วยเทคนิคเฉพาะ ใช้เวลาประมาณ 30-60 นาที หลังร้อยไหมเสร็จจะเห็นบริเวณคางและลำคอเริ่มกระชับขึ้นได้ทันที และจะเห็นผลเต็มที่ ภายใน 1-2 สัปดาห์ พร้อมทั้งเห็นถึงผิวที่เรียบเนียนและเปล่งปลั่งมากขึ้น ทั้งนี้ ผลลัพธ์ที่ได้จะขึ้นอยู่กับจำนวนเส้นไหมที่ร้อยและเทคนิคการร้อย และควรหลีกเลี่ยงการนวด อบชาวน่า หรือการลงความร้อนในบริเวณที่ทำการรักษาในช่วง 2 สัปดาห์แรกหลังทำ
จุดเด่นของเทคนิคการยกกระชับรูปหน้าด้วยไหมละลาย คือ
สามารถเห็นผลได้ทันทีตั้งแต่การทำครั้งแรก และผลการรักษาจะสามารถอยู่ได้นานประมาณ 12-18 เดือน
หลังทำไม่จำเป็นต้องพักฟื้น สามารถใช้เครื่องสำอางตรงบริเวณที่ทำการรักษาได้ทันที และออกไปทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ
โดยทั้งสองวิธีที่กล่าวมานี้จะเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาความหย่อนคล้อยของผิวหนังบริเวณคางและลำคอที่มีไขมันสะสมไม่มากเกินไปนัก โดยเทคนิคการร้อยไหมละลายนั้นจะเห็นผลลัพธ์เร็วกว่าจากการทำเพียงครั้งเดียว แต่ก็มีผลข้างเคียงมากกว่าหากผู้ทำการรักษาไม่มีความชำนาญพอ ส่วน Fractional RF Microneedle นั้นจะใช้เวลาในการเห็นผลนานกว่า และถ้าจะให้ได้ผลเต็มที่จำเป็นต้องรับการรักษาหลายครั้ง แต่ก็เป็นเทคนิคที่มีความปลอดภัยสูง อีกทั้งผลลัพธ์ที่ได้ก็จะดีกว่า และอยู่ได้ยาวนานกว่าการร้อยไหมละลาย
นอกจากนี้ ในปัจจุบันก็ยังมีเทคนิคอื่น ๆ อีกมากมาย โดยแต่ละวิธีมีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป ผู้ที่จะเข้ารับการรักษาควรศึกษาข้อมูลของแต่ละวิธีให้เข้าใจเสียก่อน และจำเป็นที่จะต้องเข้ารับการรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
หนังสือLisa Vol.13 No.50 26 ธันวาคม 2555