สุขภาพผม ก็เป็นเรื่องที่ทุกคนต้องใส่ใจไม่น้อยไปกว่าสุขภาพผิว เพราะใครเล่าจะปล่อยให้ผมแห้ง ชี้ฟู กระเซอะกระเซิงเป็นยายเพิ้ง ให้ต้องอับอายเวลาไปไหน ๆ
นอกจากการสระผม หวีผมแล้ว คุณควรที่จะต้องหาเวลาเพื่อทำทรีตเมนต์ให้กับเส้นผมของคุณบ้าง เพราะแค่สระทำความสะอาด และดูแลผมอย่างเดียวคงไม่พอ เส้นผมยังต้องการการบำรุงด้วย เพื่อให้ผมได้ฟื้นฟูสภาพที่เสียไปจากมลภาวะต่าง ๆ
ซึ่งวันนี้เรามีวิธีบำรุงผมง่าย ๆ ทำได้ที่บ้าน ด้วยสูตรทรีตเมนต์ที่เหมาะกับสภาพปัญหาเส้นผมที่คุณเป็นอยู่ รับรองว่าได้ผลชัวร์
ไข่ ไม่เพียงแต่เป็นอาหารที่มีประโยชน์กับร่างกายมาก แต่ยังสามารถช่วยดูแลเส้นผมให้กับเราได้อีกด้วย เพราะในไข่แดงของไข่ดิบนั้นจะอุดมไปด้วยไขมันและโปรตีนธรรมชาติที่ช่วยให้ เส้นผมมีความชุ่มชื้น ในไข่ขาวนั้นยังมีเอนไซม์และแบคทีเรียช่วยขจัดน้ำมันในเส้นผมที่ไม่มี ประโยชน์ออกไปได้อีกด้วย
วิธีใช้ : ใช้ไข่แดงและไข่ขาวผสมกันประมาณ 1/2 ถ้วย (สามารถปรับเพิ่มหรือลดได้แล้วแต่ความเหมาะสมของแต่ละบุคคล) นำไปใช้หลังจากที่ผมเปียก หมักทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น และสระผมตามปกติ ไข่ขาวจะช่วยลดความมันของเส้นผม ส่วนไข่แดงนั้นจะช่วยทำให้เส้นผมชุ่มชื้น หากใช้ไข่แดงและไข่ขาวสามารถใช้ได้เดือนละครั้ง แต่ถ้าใช้ไข่ขาวอย่างเดียวสามารถใช้ได้ทุก 2 อาทิตย์
สูตรที่ 2 โยเกิร์ต สำหรับผมทื่อ กระด้าง
โยเกิร์ต ผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากนมนั้น อุดมไปด้วยโปรตีน ไขมันและกรดแลคติก ที่สามารถช่วยให้เส้นผมของเรานั้นมีความชุ่มชื้น เงางาม และช่วยขจัดสิ่งสกปรกที่ตกค้างในเส้นผมออกได้ดีอีกด้วย
วิธีใช้ : หลังจากทำความสะอาดผมด้วยน้ำสะอาดแล้ว ใช้โยเกิร์ตรสธรรมดาประมาณ ½ ถ้วย หมักทิ้งไว้ ประมาณ 20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่นและตามด้วยน้ำเย็นเพื่อปิดเกล็ดผม หลังจากนั้นสระผมตามปกติ สูตรนี้สามารถใช้ได้อาทิตย์ละครั้ง
สูตรที่ 3 เบียร์ สำหรับผมไร้น้ำหนัก
เบียร์ เครื่องดื่มที่ทุกคนรู้จักกันดี แต่ทราบไหมว่าเบียร์นั้นมีสารอาหารและยีสต์ที่ช่วยในการบำรุงเส้นผม ทำให้มีน้ำหนักเงางาม และแอลกอฮอล์ในเบียร์ยังช่วยขจัดสารตกค้างจากผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมได้อีก ด้วย
วิธีใช้ : ล้างผมให้สะอาด นำเบียร์สดหรือกระป๋อง (บางสูตรอาจจะผสมกับไข่แดงหรือน้ำมันมะกอกก็ได้) นำมาชโลมให้ทั่วศีรษะและนวดให้ทั่วประมาณ 5 นาที จากนั้นใช้ผ้าขนหนูคลุมหรือหมวกคลุมอาบน้ำ หมักทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที หรือ 1 ชั่วโมง หลังจากนั้นสระผมตามปกติ
สูตรที่ 4 น้ำผึ้ง สำหรับผมแห้งเสียจากความร้อน
ผม แห้งเสียอาจมาจากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเกิดการใช้ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผม แสงแดดหรือมลพิษต่าง ๆ ในอากาศ อาจทำให้ผมของเราแห้งเสียแตกปลายได้ง่าย ดังนั้นเราจึงมีเคล็ดลับดี ๆ มาบอกกันในการรักษาฟื้นฟูสภาพเส้นผมของเรา นั่นคือ น้ำผึ้ง ซึ่งในน้ำผึ้งนั้นจะมีสารธรรมชาติช่วยล็อกความชุ่มชื้นของเส้นผมไว้ ทำให้เส้นผมเรามีสุขภาพดี ไม่แห้งแตกปลาย
วิธีใช้ : หลังจากล้างผมให้สะอาดแล้ว นำน้ำผึ้งประมาณ 1/2 ถ้วย ลงไปชโลมให้ทั่วศีรษะ หมักทิ้งไว้ประมาณ 20-30 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่นและสระผมตามปกติ นอกจากนี้ยังสามารถผสมน้ำมันมะกอก ประมาณ 1-2 ช้อนโต๊ะ หรือจะใช้ไข่แดงซึ่งจะช่วยเติมโปรตีนให้กับเส้นผมของเราด้วยก็ได้ สูตรนี้สามารถใช้ได้เดือนครั้ง
ในแป้งข้าวโพดนั้นจะมีสารบางชนิดช่วยลดความมันส่วนเกินของเส้นผม ทำให้ผมไม่จับกันเป็นก้อน ดูพลิ้วไหว
วิธีใช้ : ใช้แป้งข้าวโพด 1 ช้อนโต๊ะผสมกับเกลือหรือพริกไทยเล็กน้อย ผสมให้เข้ากัน หลังจากนั้นนำไปโรยบนศีรษะที่แห้งให้ทั่ว ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที ใช้หวีแปรงให้ทั่ว วิธีนี้จะช่วยลดความมันส่วนเกินของเส้นผมได้ดี สามารถใช้ได้ทุกวัน
สูตรที่ 6 อะโวคาโดสำหรับผมหยิกหยักศก
อะ โวคาโด ผลไม้ที่เรารู้จักกันดี ในอะโวคาโดนั้นจะมีโปรตีนและไขมันที่จำเป็นต่อร่างกายและเส้นผมของเรา ซึ่งจะทำหน้าที่ซ่อมแซมผมที่เสียหายและปรับสภาพเส้นผมให้เรียบ ช่วยให้ผมดูมีน้ำหนัก
วิธีใช้ : นำอะโวคาโดประมาณ ½ -1 ผล มาบด หลังจากนั้นทำความสะอาดผมด้วยน้ำสะอาด นำอะโวคาโดที่บด (สามารถผสมกับไข่แดงได้) แล้วมาชโลมและนวดให้ทั่วศีรษะ ทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที จากนั้นล้างออกให้สะอาดตามด้วยสระผมตามปกติ สามารถใช้สูตรนี้ได้ทุก 2 อาทิตย์
สูตรที่ 7 มะกอก มะนาว สำหรับอาการคันหนังศีรษะ
หาก คุณเป็นคนที่มีปัญหาเรื่องอาการคันของหนังศีรษะ เชื่อหรือไม่ว่าน้ำมะนาวและน้ำมันมะกอกสามารถช่วยลดปัญหาดังกล่าวลงได้ เพราะกรดในน้ำมะนาวนั้นจะช่วยกำจัดหนังศีรษะของคุณที่แห้งเป็นสะเก็ดออกไป ได้อย่างง่ายดาย และน้ำมันมะกอกยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับหนังศีรษะของคุณได้อีกด้วย
วิธีใช้ : นำน้ำมะนาวสด 2 ช้อนโต๊ะ น้ำมันมะกอก 2 ช้อนโต๊ะ และน้ำเปล่า 2 ช้อนโต๊ะ มาผสมให้เข้ากัน หลังจากนั้นนำมานวดให้ทั่วศีรษะ ทิ้งไว้ประมาณ 20-25 นาที ล้างออกด้วยน้ำสะอาดแล้วสระผมได้ตามปกติ สูตรนี้สามารถใช้ได้อาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง
เป็นยังไงบ้างคะ ง่ายมาก ๆ เลยใช่ไหมล่ะ วิธีเหล่านี้นั้นนอกจากจะง่ายแล้ว ยังประหยัด และได้ผลดี เพราะเป็นวิธีที่เหมาะกับสภาพผมของแต่ละคน ถือว่าบำรุงแก้ปัญหาอย่างตรงจุดเลยค่ะ รับรองว่าผมคุณจะกลับมามีสุขภาพดีอีกครั้ง คอนเฟิร์ม !
ลิขสิทธิ์บทความของ emaginfo.com
ติดตามบทความ สุขภาพ หรืออ่าน แมกกาซีน