x close

ฉีดฟิลเลอร์ปาก กับ 7 เรื่องที่คนอยากสวยต้องรู้ !

ศัลยกรรมปาก

          รวม 7 เรื่องต้องรู้ก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก สำหรับสาว ๆ คนไหนที่มีแพลนว่าจะไปทำปากให้อวบอิ่มได้รูป หรือต้องการแก้ไขรูปปากด้วยการฉีดฟิลเลอร์ละก็ อย่ารอช้า ! รีบมาศึกษาข้อมูลต่าง ๆ เก็บไว้ก่อนดีกว่าค่ะ

         หากพูดถึงการทำศัลยกรรมปาก นอกจากเทรนด์ปากบาง ปากกระจับ จะเป็นที่นิยมสำหรับสาว ๆ ที่อยากมีริมฝีปากเล็ก ๆ บาง ๆ ดูน่ารักจุ๋มจิ๋มแบบสาวเกาหลีแล้ว อีกเทรนด์หนึ่งที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กันนั่นก็คือ เทรนด์ปากอวบอิ่ม ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากสาวฝรั่งฝั่งตะวันตก โดยเฉพาะสาว ไคลี่ เจนเนอร์ (Kylie Jenner) ที่เรียกว่าเป็นผู้นำเทรนด์และเป็นต้นแบบให้สาว ๆ หันมาฉีดฟิลเลอร์ให้ปากอวบอิ่มกันเป็นแถว เพราะทำแล้วริมฝีปากดูมีน้ำมีนวล น่าจูจุ๊บ ที่สำคัญช่วยเปลี่ยนลุคจากผู้หญิงธรรมดาให้กลายเป็นสาวแซ่บ ดูเซ็กซี่ขึ้นมาทันตาเลยทีเดียว
ศัลยกรรมปาก

          และหากสาว ๆ คนไหนที่สนใจ หรือกำลังวางแผนที่จะไปทำปากอวบอิ่มกับเขาบ้างละก็ อย่าเพิ่งรีบด่วนตัดสินใจไปนะคะ มาศึกษาข้อมูลและรายละเอียด กับ 7 เรื่องต้องรู้ ก่อนคิดฉีดฟิลเลอร์ปาก ที่กระปุกดอทคอมเอามาฝากกันก่อนดีกว่า รู้ไว้จะได้อุ่นใจ พอถึงเวลาทำศัลยกรรมปากขึ้นมาจะได้เตรียมพร้อมรับมือและไม่เกิดความวิตกกังวลยังไงล่ะคะ ^_^

ศัลยกรรมปาก

1. ประเภทของฟิลเลอร์ที่ใช้ฉีด

          สารฟิลเลอร์ที่ใช้ฉีดริมฝีปากนั้นเป็นสารที่มาจากกรดไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic Acid) ที่มีคุณสมบัติในการเพิ่มและปรับขนาดโครงสร้างใต้ชั้นผิวหนัง ซึ่งได้แก่ Restylane, Perlane และ Juvederm ซึ่งเป็นสารเนื้อนุ่ม เหมาะสำหรับการฉีดริมฝีปาก จึงช่วยเติมเต็มริมฝีปากได้อย่างเป็นธรรมชาติ และสามารถฉีดซ้ำได้เมื่อสารเดิมเริ่มสลายตัวไป

2. ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์

          ในขั้นตอนแรก แพทย์จะฉีดยาชาบริเวณริมฝีปากก่อน แล้วทำการฉีดสารฟิลเลอร์เข้าไป โดยสารนี้จะเข้าไปเติมเต็มเซลล์ผิวริมฝีปาก รวมทั้งลดร่องลึกและริ้วรอยบนริมฝีปาก ทำให้ปากดูอวบอิ่มขึ้น ซึ่งจำนวนเข็มที่ฉีดก็ขึ้นอยู่กับความหนาของรูปปากที่สาว ๆ ต้องการ เริ่มที่ประมาณ 4 -6 เข็ม ไปจนถึงประมาณ 20 เข็ม สำหรับคนที่อยากได้รูปปากอวบอิ่มสวยงาม

 ศัลยกรรมปาก

3. ฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน

          การฉีดฟิลเลอร์ที่ปากจะเห็นผลได้ทันทีเมื่อฉีดเสร็จ และจะยิ่งเห็นผลชัดเจนยิ่งขึ้นหลังจากผ่านไปประมาณ 1 สัปดาห์ โดยฟิลเลอร์ที่ถูกฉีดเข้าไปในริมฝีปากนั้น จะอยู่ได้นานประมาณ 5-6 เดือน ไปจนถึง 1 ปีกว่าก็มี ซึ่งขึ้นอยู่กับสารที่ใช้ฉีด ปริมาณที่ฉีด และฝีมือของแพทย์ที่ฉีด


4. ใช้เวลาพักฟื้นนานไหม

          โดยปกติแล้วหลังจากฉีดฟิลเลอร์ที่ปากจะมีรอยเข็มที่ฉีดอยู่เป็นจุดแดง ๆ รอบริมฝีปาก และอาจมีรอยฟกช้ำและอาการบวมบ้าง ซึ่งจะค่อย ๆ หายเองภายใน 1-4 สัปดาห์ หรือจนกว่าริมฝีปากจะเข้ารูปสวยงาม ที่สำคัญควรงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เครื่องดื่มร้อน ๆ รวมถึงการทำกิจกรรมอื่น ๆ เช่น การจูบ หรือการออกกำลัง เพราะจะทำให้ปากเสียรูปทรงได้

ศัลยกรรมปาก

5. ผลข้างเคียงจากการฉีดฟิลเลอร์

          บางรายอาจมีความรู้สึกตึงและมีรอยบวมแดงในบริเวณที่ฉีด แต่จะเริ่มหายไปเองภายใน 1 สัปดาห์ แต่หากมีลิ่มเลือดจับตัวเป็นก้อนบริเวณรอยเข็ม หรือรู้สึกเจ็บปวดคล้ายอาการอักเสบหรือแพ้ (ซึ่งเป็นกรณีที่เกิดขึ้นได้น้อยมาก) ควรรีบพบแพทย์เพื่อทำการรักษาโดยด่วน

6. ฉีดฟิลเลอร์แล้วสามารถแก้ไขได้ไหม

          ในความจริงแล้ว สารฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไปจะใช้เวลาในการสลายตัวเองประมาณ 5-6 เดือน แต่ในกรณีที่ต้องการจะแก้ไขรูปปากก็สามารถทำได้โดยการฉีดสาร Hyaluronidase เพื่อให้สารฟิลเลอร์เดิมค่อย ๆ สลายตัวลงนั่นเอง

ศัลยกรรมปาก

7. สารต้องห้ามในการฉีดปาก

          ห้ามใช้ซิลิโคนเหลวฉีดปากอย่างเด็ดขาด เพราะเป็นสารสังเคราะห์ที่ไม่ย่อยสลาย จึงทำให้เกิดอาการอักเสบ และอาจจับตัวเป็นก้อนแข็ง ทำให้ริมฝีปากเสียรูปทรงได้ ซึ่งก่อนเลือกคลินิกที่จะทำศัลยกรรมปาก สาว ๆ จึงควรศึกษารายละเอียด และตรวจสอบสารที่ใช้ฉีดฟิลเลอร์ให้ดี ๆ เพราะบางแห่งที่มีราคาถูกก็อาจนำสารที่ไม่เหมาะสมและไม่มีคุณภาพมาฉีดให้กับเราได้ค่ะ

          เมื่อได้ทราบข้อมูลดังกล่าวแล้ว ก็หวังว่าจะช่วยให้สาว ๆ รู้สึกอุ่นใจ คลายกังวล และมีความพร้อมก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์นะคะ ที่สำคัญควรเลือกคลินิกที่น่าเชื่อถือและมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ แต่ถ้าหากคนไหนที่กลัวเข็มแต่อยากมีปากสวยได้รูป ก็ยังมีวิธีทำปากอวบอิ่มง่าย ๆ โดยไม่ต้องเจ็บตัวด้วยนะคะ คลิกอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่เลย ^^ (9 วิธีทำปากอวบอิ่ม เซ็กซี่เย้ายวนได้ไม่ต้องเจ็บตัว)

ภาพจาก : Instagram kyliejenner

ข้อมูลจาก : glamour.com, cosmopolitan.com


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ฉีดฟิลเลอร์ปาก กับ 7 เรื่องที่คนอยากสวยต้องรู้ ! โพสต์เมื่อ 6 ตุลาคม 2560 เวลา 16:08:47 62,536 อ่าน
TOP