ทรงผมไทยโบราณ ย้อนดูทรงผมผู้หญิงไทยในสมัยก่อน แต่ละทรงมีชื่อเรียกว่าอะไร และจะมีทรงใดที่สาว ๆ นิยมทำกันบ้าง ตามมาดูกัน
และถึงแม้ว่าเราอาจเคยเห็นทรงผมเหล่านี้มาจากภาพสมัยโบราณ หรือจากละครย้อนยุคกันมาบ้างแล้ว แต่เชื่อว่ายังมีอีกหลายคนที่ไม่รู้จักชื่อและลักษณะของทรงผมดังกล่าว วันนี้กระปุกดอทคอมเลยขอพาทุกคนไปทำความรู้จักกับวิวัฒนาการของทรงผม และทรงผมไทยโบราณของผู้หญิงในสมัยก่อน มาดูสิว่าทรงผมแต่ละทรงจะมีชื่อเรียกว่าอะไรบ้าง
เป็นทรงผมที่นิยมเรื่อยมาตั้งแต่สมัยสุโขทัยมาจนถึงสมัยอยุธยา โดยผู้หญิงที่ไว้ผมยาวจะเกล้าผมเป็นมวยใหญ่อยู่กลางศีรษะ ประดับตกแต่งด้วยรัดเกล้า หรือพวงมาลัยตามโอกาสและตามฐานะ
ปราง กัญญ์ณรัณ ในบท แม่หญิงจันทร์วาด จากละครเรื่อง บุพเพสันนิวาส
ทรงมหาดไทย
เป็นทรงผมที่เกิดขึ้นในสมัยอยุธยาในช่วงที่บ้านเมืองไม่ค่อยสงบเท่าไรนัก มีลักษณะเป็นทรงผมแสกกลาง แต่จะโกนรอบศีรษะหรือไถข้าง ด้วยความที่มีสงครามบ่อยครั้ง ผู้หญิงจึงต้องตัดผมสั้นเพื่อให้กลมกลืนเหมือนผู้ชายจะได้สะดวกในการปลอมตัวหลบหนี แต่ในเวลาต่อมาได้เปลี่ยนจากการไถข้างมาไว้ผมยาวให้ดูสวยงามแทน
เบลล่า ราณี ในบท แม่หญิงการะเกด จากละครเรื่อง บุพเพสันนิวาส
นุ่น วรนุช ในบท คุณอุบล จากละครเรื่อง พิษสวาท
แต้ว ณฐพร ในบท แมงเม่า จากละครเรื่อง หนึ่งด้าวฟ้าเดียว
เป็นทรงผมที่มีการโกนหรือตัดสั้นรอบข้าง โดยจะไว้ผมยาวพอประมาณเฉพาะตอนบนและกลางศีรษะคล้ายผมทรงมหาดไทย แต่ใช้วิธีหวีเสยขึ้นไปด้านหลัง โบราณเรียกว่าตัดผมขูดหัว มีการกันไรผมบริเวณรอบวงหน้า และนิยมไว้ปอยผมข้างใบหูให้ยาวกว่าคาง ซึ่งการเซตผมนั้น นิยมใช้ขี้ผึ้งเพื่อทำให้ผมอยู่ทรง และล้างออกด้วยมะกรูดกับขี้เถ้า
เหมียว ชไมพร ในบท คุณหญิงจำปา จากละครเรื่อง บุพเพสันนิวาส
แหม่ม จินตหรา ในบท คุณหญิงชม จากละครเรื่อง ข้าบดินทร์
ต่อง สาวิตรี ในบท คุณปิ่น จากละครเรื่อง ข้าบดินทร์
เป็นทรงที่ตัดผมทั้งศีรษะแล้วปล่อยให้ยาวชี้ขึ้นมาเล็กน้อยคล้ายดอกกระทุ่ม โดยจะตัดผมด้านท้ายทอยให้สั้นขึ้นและหวีเสยด้านหน้าให้ตั้งสูง จัดให้อยู่ทรงด้วยน้ำมันตานีหอม ไม่มีการทัดหรือตกแต่งทรงผมด้วยดอกไม้สด เป็นทรงผมที่เริ่มนิยมกันโดยทั่วไปในช่วงเข้าสู่สมัยรัชกาลที่ 5
มิว นิษฐา ในบท คุณพลอย จากละครเรื่อง ชาติพยัคฆ์
อาย กมลเนตร ในบท บุญเจิม จากละครเรื่อง ลูกทาส
แยม มทิรา ในบท เย็น จากละครเรื่อง นางทาส
ทรงผมยาวตรง
เมื่อวัฒนธรรมจากต่างประเทศเข้ามามากขึ้น สาว ๆ จึงนิยมปล่อยผมยาวตรงตามแบบสาวฝรั่ง แต่จะมีการแต่งผมด้านบนให้พอง ๆ แล้วหวีเสยไปด้านหลัง ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งทรงที่สาว ๆ สมัยก่อนชอบทำกันมาก
แมท ภีรนีย์ ในบท ลำดวน จากละครเรื่อง ข้าบดินทร์
เนย โชติกา ในบท แม่นิ่ม จากละครเรื่อง ลูกทาส
พลอย เฌอมาลย์ ในบท แม่หญิงเรไร จากละครเรื่อง ขุนศึก
ทรงผมโป่ง
ในช่วงสมัยรัชกาลที่ 6 ผู้หญิงชั้นสูงนิยมไว้ผมยาวตรงแบบตะวันตก ต่อมาได้พัฒนาเป็นทรงเกล้ามวยต่ำ และตีโป่งด้านบนให้พองใหญ่ หรือใช้วิธีเสยขึ้นไปด้านหลัง อาจตกแต่งด้วยเครื่องประดับ เช่น ที่คาดผม เป็นต้น
อุ้ม สิริยากร ในบท แม่พลอย จากละครเรื่อง สี่แผ่นดิน
จอย รินลณี ในบท สีนวล จากละครเรื่อง เจ้าบ้าน เจ้าเรือน
ทรงซิงเกิล
เป็นทรงผมที่ฮิตในช่วงสมัยรัชกาลที่ 6-7 ซึ่งเป็นช่วงที่มีนิตยสารจากต่างประเทศเข้ามา สาว ๆ จึงเริ่มเลียนแฟชั่นตามแบบฝรั่ง โดยมีลักษณะเป็นทรงผมที่ตัดสั้นประมาณติ่งหู และดัดผมให้ปลายงุ้มเข้ารอบศีรษะ ด้านบนผมจะพอง ๆ นิยมติดเครื่องประดับผม เช่น ที่คาดผม โบ หรือดอกไม้
พิงกี้ สาวิกา ในบท ดารา พิจิตรวานิช จากภาพยนตร์เรื่อง จันดารา
บี น้ำทิพย์ ในบท หม่อมเจ้าหญิงวิไลเลขา จากละครเรื่อง แต่ปางก่อน
บุศ บุศย์สิริ น้ำฝน พัชรินทร์ และเจิน ณิชชาพัณณ์ จากละครเรื่อง เพชรกลางไฟ
ทรงผมคลื่น
ทรงผมคลื่น เป็นทรงผมที่อยู่ในช่วงสมัยรัชกาลที่ 6-7 ซึ่งเป็นช่วงที่เริ่มมีน้ำยาดัดผมเข้ามาขายในไทยแล้ว สาว ๆ จึงนิยมดัดผมให้เป็นลอนคลื่นกันมาก โดยมักจะตัดผมทรงบ๊อบสั้น และดัดลอนให้เป็นคลื่น ๆ ซึ่งถือเป็นทรงผมที่ฮิตสุด ๆ ในสมัยนั้น ใครทำทรงนี้ก็จะยิ่งดูสวยไฮโซสุด ๆ อีกด้วย
ซาร่า เล็กจ์ ในบท เจ้านางเรืองระยับ จากละครเรื่อง บ่วงบรรจถรณ์
เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ ในบท หม่อมเจ้าหญิงรัมภา จากละครเรื่อง กำไลมาศ
ไอซ์ อภิษฎา ในบท หม่อมเจ้าหญิงภรณี จากละครเรื่อง กำไลมาศ
ศรีริต้า เจนเซ่น ในบท แพรขาว จากละครเรื่อง เจ้าบ้าน เจ้าเรือน
จะเห็นได้ว่าในแต่ละยุคสมัย วิวัฒนาการของทรงผมยังคงมีการพัฒนาต่อมาเรื่อย ๆ จนถึงปัจจุบัน และยิ่งเราได้มาเห็นทรงผมโบราณในสมัยก่อนแล้ว คงต้องขอบอกว่าหญิงไทยโบราณนั้นมีความรักสวยรักงาม และมีความคิดสร้างสรรค์ไม่แพ้กับผู้หญิงในยุคปัจจุบันเลยล่ะค่ะ ^_^
ภาพจาก : เฟซบุ๊ก phahurat.com, Sahamongkolfilmint, thaitv3.com, ช่อง one, Instagram thaitv3drama, broadcastthaitv, bellacampen, ladiiprang, pin21yrs,
ข้อมูลจาก : เฟซบุ๊ก phahurat.com, human.cmu.ac.th