เวลาอ่านวิธีดูแลผิวให้สวยใส หลายครั้งก็จะพบข้อแนะนำให้ทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน เพื่อช่วยปกป้องผิวจากแสงอาทิตย์ที่แผดเผา แต่รู้หรือไม่ ? เจ้าแดดตัวร้ายไม่ได้แค่ทำให้เกิดความหมองคล้ำ แต่ยังทำร้ายผิวเรามากกว่านั้น แม้กระทั่งการทำงานในที่ร่ม หรือ Work From Home ก็ใช่ว่าจะรอดนะคะ เพราะรังสี UVA สามารถทะลุผ่านกระจกหน้าต่างมายังผิวเราได้อีกเช่นกัน
ถ้าอยากรู้ว่า ไม่ทาครีมกันแดด ผลเสียที่ตามมาจะร้ายแรงแค่ไหน อย่ารอช้า เรามีคำตอบ พร้อมวิธีทาครีมกันแดดให้มีประสิทธิภาพมาบอกต่อกันด้วย ใครที่ไม่ชอบทาครีมกันแดดที่หน้าละก็ รีบเปลี่ยนใจตอนนี้ยังไม่สายนะ
ครีมกันแดดสำคัญอย่างไร
ไม่ทาครีมกันแดดจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง
1. ผิวหมองคล้ำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ
2. ผิวไหม้ เพราะเซลล์ผิวถูกทำลาย
3. เพิ่มริ้วรอย หน้าแก่กว่าวัย
ภาพจาก : ทวิตเตอร์ @kenglimm
4. ฝ้า กระ ถามหา
5. เสี่ยงต่อโรคมะเร็งผิวหนัง
วิธีการเลือกครีมกันแดด
- เลือกกันแดดที่ป้องกันได้ทั้งรังสี UVA และ UVB โดยสังเกตว่าครีมกันแดดจะมีระบุทั้งค่า PA (Protection Grade ของ UVA) และ SPF (Sun Protection Factor)
- ครีมกันแดดที่แพทย์ผิวหนังแนะนำ คือ SPF 15-30, PA +++ ถึง ++++ ซึ่งเพียงพอแล้วสำหรับการใช้ชีวิตประจำวัน แต่ถ้าต้องออกแดดกลางแจ้งเป็นเวลานานและมีแดดแรงมากก็ให้เลือกซื้อครีมกันแดดที่มีค่า SPF 50 ขึ้นไป
- เลือกครีมกันแดดให้เหมาะกับสภาพผิว อย่างคนที่ผิวมันควรเลือกเนื้อกันแดดที่เป็นเจล หรือเนื้อฟลูอิท ในขณะที่คนผิวแห้งก็จะสามารถเลือกเนื้อที่เป็นครีมได้เลย เพราะจะให้ความชุ่มชื้นกับผิวไปด้วย
- คนที่มีผิวแพ้ง่าย ทาครีมกันแดดแล้วเกิดการระคายเคือง ให้มองหาครีมกันแดดที่ไม่มีน้ำหอม ไม่มีพาราเบน สารกันเสีย หรือประเภท Physical sunscreen ที่ประกอบด้วยสารป้องกันแดดสะท้อน เช่น titanium oxide, zinc oxide ซึ่งมีข้อดีคือดูดซึมเข้าร่างกายได้น้อย ทำให้แพ้น้อย แต่ข้อเสียคือ ครีมมักข้น เหนียวเหนอะหนะ หรือทำให้หน้าลอย
- ถ้าทากันแดดแล้วสิวชอบขึ้น อาจเลือกตัวที่มีคำว่า acne-prone หรือ non-comedogenic
ทาครีมกันแดดให้ถูกวิธี ทำอย่างไรบ้าง ?
- ควรทาครีมกันแดดก่อนออกจากบ้านประมาณ 20-30 นาที
- ใช้ปริมาณ 2 มิลลิกรัมต่อตารางเซนติเมตรของผิวหนังทั่วไป ถ้าเป็นที่ใบหน้าและคอให้ใช้ครีมกันแดดประมาณ 2 ข้อนิ้วมือ หรือขนาดเท่าไข่มุกเม็ดใหญ่ 2 เม็ด หากใช้โลชั่นให้ใช้ขนาดเหรียญ 10 และอย่าลืมทาใบหูด้วย
- แต้มครีมกันแดดลงบนใบหน้าเล็กน้อยในตำแหน่ง 5 จุด คือ หน้าผาก 1 จุด, แก้ม 2 จุด, จมูก 1 จุด และคางอีก 1 จุด จากนั้นก็ค่อย ๆ เกลี่ยให้ทั่ว โดยวนเป็นวงกลมบนใบหน้าเบา ๆ ให้เนื้อครีมซึมเข้าสู่ผิวหน้าจนหมดไม่เห็นครีมสีขาว ๆ ทาไปถึงลำคอและด้านหลังที่ไม่มีเสื้อปกปิดด้วยยิ่งดี
- แนะนำให้ทาซ้ำทุก 2-3 ชม. เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด
- ควรสังเกตวันหมดอายุของครีมกันแดดด้วย ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะมีกำหนดอายุประมาณ 2-3 ปี นับจากวันที่ผลิต และไม่ควรเก็บครีมกันแดดไว้ในที่ร้อน ๆ
- นอกจากทาครีมกันแดดแล้วก็ยังต้องป้องกันแสงแดดด้วยวิธีอื่น ๆ ด้วย เช่น กางร่ม ใส่หมวก สวมแว่นกันแดด เลือกใส่เสื้อผ้าแขนยาว หรือมีคุณสมบัติในป้องกันแสงแดด อย่างผ้าฝ้ายผสมโพลีเอสเตอร์ ซึ่งจะช่วยป้องกันรังสี UV ได้ถึง 80%
เห็นภัยจากแสงแดดตัวร้ายกันแล้ว ต้องรีบทาครีมกันแดดกันให้ไว ซึ่งสมัยนี้มีครีมกันแดดให้เลือกสรรมากมายหลายแบบ แค่เสียเวลาทาครีมกันแดดสักนิด ดีกว่าเสียเงินก้อนโตไปกับการแก้ปัญหาผิวนะคะ
ขอบคุณข้อมูลจาก : ทวิตเตอร์ DrKengw หมอผิวหนัง, sukumvithospital.com, si.mahidol.ac.th, idskinexpert.com, reidhealth.org, ehe.health, nejm.org