“เหนียง” เป็นส่วนหนึ่งในร่างกายที่เชื่อว่าสาว ๆ ทั้งหลายอยากกำจัด เพราะถึงแม้จะหน้าเล็ก แต่ถ้ามีเหนียง มีคางเป็นชั้น ก็ทำให้ดูอ้วน หน้าบานขึ้นมาทันที จริง ๆ แล้ว เหนียงคือส่วนที่เป็นไขมัน โดยจะสะสมอยู่บริเวณใต้คาง ไปจนถึงช่วงคอที่ต่อกับคาง เวลาที่เราก้มหน้า กดหน้าลง ก็จะมองเห็นเป็นชั้นใต้คางได้อย่างชัดเจน จนบางทีก็เรียกเจ้าเหนียงนี้ว่า คางสองชั้น ซึ่งทำให้สาว ๆ อย่างเราขาดความมั่นใจเอามาก ๆ เพราะแทนที่ใบหน้าจะเรียวสวย กลับมีเหนียงเป็นชั้น ทำให้ใบหน้าไม่กระชับ แถมยังดูอ้วนอีกต่างหาก
ด้วยเหตุนี้หลาย ๆ คนจึงหา วิธีลดเหนียง เพื่อจัดการเหนียงย้อย ๆ น่ารำคาญใจ ว่าแต่อยาก ลดเหนียงต้องทำอย่างไร วันนี้กระปุกดอทคอมหาคำตอบมาให้ค่ะ
เหนียงเกิดจากอะไร?
วิธีลดเหนียง ทำอย่างไรได้บ้าง
1. ท่าลดเหนียง
หากต้องการลดไขมันก็ต้องออกกำลัง ซึ่งการบริหารใบหน้าและใต้คาง ก็เป็นการออกกำลัง เพื่อเผาผลาญไขมัน และช่วยให้รูปหน้ากระชับขึ้น และลดเหนียงลงได้ ท่าที่แนะนำก็คือ
- ท่ายืดกราม - เงยหน้ามองเพดาน ให้คอตึงมากที่สุด จากนั้นยื่นกรามล่างออกไปด้านหน้า ให้รู้สึกว่าผิวใต้คางตึง ค้างไว้นับ 1 - 10 แล้วกลับสู่ท่าเดิม ทำวันละ 3 เซต
- ท่าจูบ - เงยหน้ามองเพดาน ให้คอตึงมากที่สุด จากนั้นยื่นปากออกไป เหมือนทำปากจู๋ จนรู้สึกใต้คางตึง ค้างไว้นับ 1 - 10 แล้วกลับสู่ท่าเดิม ทำวันละ 3 เซต
- ท่ายืดกรามด้านข้าง - เงยหน้ามองเพดาน เอียงศีรษะไปทางด้านขวา ยื่นกรามล่างออกไปด้านหน้า ให้รู้สึกว่าคอตึง ค้างไว้นับ 1 - 10 จากนั้นเปลี่ยนข้าง แล้วทำซ้ำท่าเดิม ทำทั้งหมด 3 เซต
- ท่าแลบลิ้นแตะจมูก - หน้าตรง แลบลิ้นออกไปให้ได้มากที่สุด จากนั้นยกลิ้นขึ้นมาพยายามแตะจมูก ค้างไว้ 10 วินาที แล้วกลับสู่ท่าเดิม ทำวันละ 3 เซต
- ท่ายืดคอ - เงยหน้ามองเพดาน ดันลิ้นไว้กับเพดานปาก ค้างไว้ 5 - 10 วินาที แล้วคลายออก ทำซ้ำ 3 เซต
2. ลดเหนียงด้วยไข่ขาว
ไข่ขาวมีคุณสมบัติในการกระชับผิวได้ จึงสามารถนำมาใช้เป็นตัวช่วยในการลดเหนียงได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว เพียงนำไข่ขาวมาตีเบา ๆ ให้พอขึ้นฟู แล้วนำมาพอกบริเวณแก้มและใต้คาง ใช้นิ้วหัวแม่มือกดนวดจากใต้คางขึ้นไปยังใต้กกหู กดและนวดเบา ๆ ประมาณ 15 - 20 นาทีจนไข่ขาวแห้งสนิท เมื่อแห้งสนิทแล้วจึงล้างออกอย่างเบามือ จะรู้สึกได้ว่าบริเวณแก้มและเหนียงกระชับขึ้น
ข้อควรระวัง : อย่ายิ้มหรือหัวเราะขณะพอกหน้า เพราะอาจจะเกิดริ้วรอยได้ และไม่ควรทำเกินสัปดาห์ละ 2 ครั้ง เพราะจะทำให้ผิวแห้งได้
3. ลดเหนียงด้วยแผ่นรัดหน้า
4. ลดเหนียงด้วยการเฉดดิ้ง
5. ลดเหนียงเร่งด่วน ด้วยเทคโนโลยี
ปัจจุบันวิทยาทางการแพทย์ที่ก้าวหน้าสามารถช่วยทำให้ใบหน้าของสาว ๆ กระชับเข้ารูป ลดเหนียงได้อย่างเห็นผล ซึ่งมี 4 วิธีหลัก ๆ ที่ใช้เครื่องมือทางการแพทย์ ดังนี้
- Hifu - เป็นการใช้คลื่นอัลตร้าซาวด์ความเข้มข้นสูง ซึ่งเป็นคลื่นที่มีความปลอดภัยมาใช้ในการยกกระชับใบหน้า โดยคลื่นจะเข้าไปทำลายเนื้อเยื่อในชั้นผิวหนังระดับลึก เพื่อทำให้ผิวหนังหดตัวและเกิดการสร้างคอลลาเจนหรือสร้างเนื้อเยื่อใหม่ ซึ่งจะช่วยกระชับผิวและลดเหนียงอย่างเห็นผล
- Ulthera - เป็นการปล่อยคลื่นอัลตราซาวด์ที่มีพลังงานความถี่สูง ก่อนที่จะแปรเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อนอย่างเฉพาะเจาะจง ลงลึกสู่ใต้ชั้นผิวหนัง SMAS ซึ่งเป็นชั้นที่แพทย์ใช้ผ่าตัดดึงหน้า เหมาะสำหรับคนที่ผิวหย่อนคล้อยมาก ๆ จนเกิดเหนียง การทำ Ulthera จะเห็นผลมากกว่า ผิวจะกระชับ เหนียงลดลง และสามารถคงสภาพอยู่ได้นานถึง 1 - 2 ปี
- Thermage - เป็นการใช้คลื่นวิทยุ เพื่อส่งผ่านพลังงานความร้อนลงสู่ชั้นผิวหนัง Dermis ซึ่งเป็นชั้นที่อยู่ของไขมันและคอลลาเจน จึงช่วยสลายไขมัน และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ให้ผิวหน้ากระชับและเข้ารูปได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
- การร้อยไหม - เหมาะมากสำหรับใบหน้าที่มีเหนียงจากความหย่อนคล้อย เพราะเงี่ยงของไหมจะไปเกี่ยวล็อกบริเวณที่หย่อนคล้อยแล้วดึงขึ้น ทำให้เหนียงยกกระชับ และกรอบหน้าชัดเจนขึ้น
6. ฉีดลดเหนียง
อีกหนึ่งวิธีทางการแพทย์ที่สาว ๆ นิยม เพราะมีค่าใช้จ่ายไม่สูงมากเกินไป นั่นคือการใช้วิธีฉีดลดเหนียง ซึ่งแม้ผลลัพธ์จะอยู่ได้ไม่นานเท่าการใช้เครื่องมือ แต่ก็เห็นผลได้อย่างชัดเจน ซึ่งสารที่ใช้ฉีดเพื่อลดเหนียง ได้แก่
- Botox - โบท็อกซ์จะเป็นการฉีดบริเวณขอบคางและลำคอ เพื่อคลายกล้ามเนื้อขากรรไกรและลำคอไม่ให้ดึงรั้งกัน เมื่อเราฉีดที่เป็นบริเวณขอบคางและลำคอ ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อมัดที่ดึงลงให้คลายตัว กล้ามเนื้อมัดส่วนดึงขึ้นของกรามก็จะทำงานได้อย่างเป็นอิสระ เพราะไม่ถูกรั้ง กรอบหน้าก็จะชัดขึ้น เหนียงก็จะกระชับขึ้น ซึ่งวิธีนี้เหมาะสำหรับคนที่มีเหนียงจากความหย่อนคล้อย ไม่ใช่เหนียงจากไขมัน
- Meso Fat - เป็นการฉีดสารจากธรรมชาติเข้าไปยังชั้นไขมันบริเวณแก้มและเหนียง เพื่อให้ก้อนไขมันแตกตัว และสลายขับออกมาจากร่างกายตามธรรมชาติ ซึ่งจะทำให้เหนียงลดลงได้ แต่ต้องฉีดซ้ำประมาณ 4 - 5 ครั้งจึงจะเห็นผลชัดเจนที่สุด
เหนียงเกิดขึ้นได้ ก็ลดให้เล็กลงได้ ด้วยหลากหลายวิธีข้างต้น แต่สิ่งที่สำคัญเลยก็คือ เราต้องป้องกันไม่ให้เหนียงเกิดขึ้นใหม่ ด้วยการควบคุมอาหาร และควบคุมน้ำหนัก เพื่อไม่ให้เกิดไขมันสะสมขึ้นมาใหม่ ไม่เช่นนั้นแล้ว ไม่ว่าจะพยายามลดเหนียงยังไง แต่หากยังตามใจปาก เหนียงก็กลับมาได้ทุกเมื่อค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก : healthline.com, fitboost.net, fareedaclinic.com, apexprofoundbeauty.com, thecloverbeautyclinic.com