ใครทามอยส์เจอไรเซอร์แล้วแสบหน้าบ้าง สาเหตุคืออะไร แบบนี้ใช่การแพ้ครีมทาหน้าหรือมอยส์เจอไรเซอร์ตัวนั้น ๆ ไหม ควรทิ้งหรือใช้ต่อไปดี มาหาคำตอบไปพร้อมกัน
สิ่งที่ขาดไม่ได้ในสกินแคร์รูทีนของสาว ๆ รักผิว หนึ่งในนั้นก็คือ
ครีมทาหน้าอย่าง “
มอยส์เจอไรเซอร์” ซึ่งอย่างที่หลายคนรู้ว่าการทามอยส์เจอไรเซอร์เป็นประจำจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวหนังได้ แต่เคยสงสัยกันไหมว่าทำไมบางครั้งที่เรา
ทามอยส์เจอไรเซอร์แล้วแสบหน้า ร้อนหน้าผ่าว ๆ เหมือนผิวเบิร์น แต่เป็นสักพักก็หาย หรือในบางคนก็มีรอยแดงคล้ายผื่นขึ้น แบบนี้เราควรจะใช้มอยส์เจอไรเซอร์ตัวนั้นต่อดีหรือไม่ อาการแสบหน้าที่ว่านี้เกิดจากอะไร
แพ้ครีมหรือเปล่า ควร
ดูแลผิวหน้าอย่างไรดี เราจะพามาหาคำตอบกัน
ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับมอยส์เจอร์ไรเซอร์ (Moisturizer) กันสักนิด สำหรับสกินแคร์ชนิดนี้คือผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาขึ้นให้มีหน้าที่เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว เพื่อลดและป้องกันไม่ให้เกิดภาวะผิวขาดน้ำ แห้ง ลอก คัน หรือระคายเคือง มีหลายเนื้อสัมผัส เช่น ครีม เจล โลชั่น ขี้ผึ้ง เป็นต้น ซึ่งแต่ละตัวก็จะมีกลไกการออกฤทธิ์แตกต่างกันไป บ้างก็ช่วยบำรุงให้ผิวนุ่ม ช่วยเคลือบผิวเพื่อลดการสูญเสียน้ำ หรือฟื้นฟูเกราะป้องกันผิวในการดูดซับกักเก็บน้ำในผิวไว้ ทำให้ผิวยังคงความชุ่มชื้น เรียบเนียน ดูสุขภาพดี
ทามอยส์เจอไรเซอร์แล้วแสบหน้า เกิดจากอะไร
ถึงแม้จะสารพัดประโยชน์ แต่หลังจากทามอยส์เจอไรเซอร์แล้วบางครั้งกลับรู้สึกแสบร้อนหน้า ซึ่งปัญหานี้ส่วนใหญ่อาจเกิดจาก 3 สาเหตุ ดังนี้
เมื่อผิวเราแห้งมาก ๆ พอทามอยส์เจอไรเซอร์ลงไปจะรู้สึกแสบจี๊ดจนตกใจ พร้อมกับความกังวลว่าแพ้หรือเปล่า แต่ความจริงสาเหตุมาจากสภาพผิวของเราในช่วงนั้นกำลังอ่อนแอ เกราะป้องกันผิวจึงไม่แข็งแรง ทำให้แสบร้อนเวลาทามอยส์เจอไรเซอร์ลงไป แม้จะเป็นสกินแคร์ตัวโปรดที่ใช้อยู่เป็นประจำก็ตาม ซึ่งอาการแสบนี้จะคงอยู่ไม่นาน ไม่กี่นาทีก็หายค่ะ
ในกรณีที่คุณใช้ยารักษาสิวอย่าง Tretinoin หรือ Benzoyl Peroxide ไปสักระยะหนึ่ง ก็อาจมีอาการระคายเคือง ผิวหน้าแห้ง ลอก เกิดขึ้นได้ เมื่อทามอยส์เจอไรเซอร์ที่ให้ความชุ่มชื้นก็จะรู้สึกแสบผิวมากขึ้น แต่ไม่นานอาการเหล่านี้ก็จะหายไปเอง
ถ้าทามอยส์เจอไรเซอร์กี่ครั้งก็ยังแสบหน้าและอาการค้างอยู่นาน แถมยังมีผื่นแดงขึ้นเป็นปื้นบนผิว คันยิบ ๆ ผิวหนังแห้งลอก อาจจะเป็นได้ว่าเกิดจากอาการแพ้ครีมหรือมอยส์เจอไรเซอร์ตัวนั้น หากแพ้รุนแรงอาจถึงขั้นอักเสบได้เลยทีเดียว ทางที่ดีที่สุดคือต้องศึกษาส่วนผสมของสกินแคร์ก่อนทดลองใช้
วิธีแก้เมื่อทามอยส์เจอไรเซอร์
แล้วร้อนหน้า
เมื่อรู้สาเหตุของการทามอยส์เจอไรเซอร์แล้วแสบหน้า เราก็มาดูวิธีการแก้ไขให้เหมาะสมกันเลย
1. หยุดใช้ก่อน
ถ้าคุณไม่ได้ใช้ยารักษาสิวหรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ AHA / BHA แล้วเกิดอาการแสบ คัน แม้เวลาจะผ่านไปสักพักอาการนี้ก็ยังคงอยู่ แปลว่ามอยส์เจอไรเซอร์ที่ใช้มีสารก่อการระคายเคืองผสมอยู่ ให้ล้างออกและหยุดใช้ทันที แล้ว
BHA คืออะไรกันนะ
2. เลือกมอยส์เจอไรเซอร์์ที่อ่อนโยน บำรุงผิวให้แข็งแรง
สำหรับสาเหตุที่เกิดจากผิวแห้งและอ่อนแอนั้น วิธีแก้ก็ง่าย ๆ นั่นคือทามอยส์เจอไรเซอร์ต่อได้ แต่ควรเลือกที่มีส่วนผสมช่วยปลอบประโลมผิว เช่น Aloe Vera, Niacinamide, Ceramides, Allantoin เป็นต้น
เพื่อช่วยบรรเทาอาการแสบร้อน รวมถึงมีส่วนผสมที่ช่วยเสริมเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรง เพิ่มเติมด้วยการมาสก์หน้าให้ผิวชุ่มชื้น พอผิวเราปรับสภาพได้แล้ว ทาสกินแคร์ครั้งหน้าก็สบายหายห่วง
3. หลีกเลี่ยงส่วนผสมที่อาจทำให้ระคายเคือง
ส่วนผสมในมอยส์เจอไรเซอร์บางอย่างอาจทำให้ผิวระคายเคืองและแพ้จนทำให้แสบหน้าได้ ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงส่วนผสมอย่างแอลกอฮอล์ สี น้ำหอม หรือกรดที่มากเกินไป เช่น กรดอัลฟาไฮดรอกซี (Alpha Hydroxy Acids หรือ AHA) กรดไกลโคลิก (Glycolic Acid) กรดเรติโนอิก (Retinoic Acid) กรดซาลิไซลิก (Salicylic Acid) ที่มีคุณสมบัติผลัดเซลล์ผิว อีกทั้งควรเป็นแบบ Oil-free ที่ไม่ทำให้เกิดสิวอุดตัน ไม่มีสารที่ก่อให้เกิดการแพ้ (Hypoallergenic) ด้วยนั่นเอง
4. ทดสอบผลิตภัณฑ์ก่อนใช้
วิธีทดสอบมอยส์เจอไรเซอร์ว่าแพ้ไหมง่าย ๆ ทำได้โดยการทาผลิตภัณฑ์บาง ๆ ลงบริเวณท้องแขนด้านใดด้านหนึ่ง วันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น (ทาจุดเดิมทุกครั้ง) ติดต่อกัน 3 วัน หรือเพิ่มเป็น 7 วัน เพื่อความชัวร์ ถ้ามีผื่น บวม แดง คัน ก็สามารถหยุดใช้ไปได้เลย เพราะคุณอาจแพ้ครีมนั้น ๆ ห้ามเอามาทาหน้าเด็ดขาด
หลังทามอยส์เจอไรเซอร์แล้วแสบหน้า อาจไม่ใช่อาการแพ้เสมอไป แต่บางครั้งถ้าเราปล่อยให้ผิวแห้ง ขาดน้ำ หรือไม่ดูแลผิวให้แข็งแรงอยู่เสมอ ก็จะตามมาด้วยปัญหาเหล่านี้ได้ ดังนั้นจึงควรดูแลผิวตั้งแต่เนิ่น ๆ รวมถึงเลือกมอยส์เจอไรเซอร์ที่อ่อนโยน เหมาะกับสภาพผิว ปราศจากสารระคายเคือง ผิวของเราจะได้อิ่มน้ำฉ่ำเด้ง มีสุขภาพดีไปนาน ๆ
ขอบคณข้อมูลจาก : theblushingbliss.com, skincarehero.com, marthastewart.com