BHA คืออะไร มารู้จักสารประกอบที่อยู่ในสกินแคร์หลายชนิดอย่าง BHA ว่าช่วยเรื่องอะไรบ้าง ทำให้ผิวสวยใสไร้สิวจริงไหม พร้อมแนะนำ BHA ยี่ห้อไหนดีที่สาว ๆ ไม่ควรพลาด
หลายคนคงเคยรู้จักชื่อของ BHA กันมาบ้าง อย่างที่เรามักจะเห็นเป็นส่วนประกอบในเครื่องสำอางหรือสกินแคร์ทั้งโทนเนอร์ เซรั่ม และมอยส์เจอไรเซอร์ แต่รู้ไหมว่า BHA ช่วยเรื่องอะไร ทำไมใคร ๆ ถึงชอบใช้เพื่อดูแลผิวหน้า วันนี้กระปุกดอทคอมจะมาไขข้อสงสัยว่า BHA คืออะไร มีประโยชน์อย่างไรบ้าง แล้วจะเลือกซื้อแบบไหน ยี่ห้อไหนดี ให้เหมาะกับปัญหาผิวของเรา ใครอยากสวยใสไร้สิวละก็ ไปติดตามกันเลยค่ะ
BHA คืออะไร
BHA (Beta Hydroxy Acid) เป็นสารที่สังเคราะห์ขึ้นมาจากธรรมชาติ มีฤทธิ์เป็นกรดอ่อน ๆ ทนต่อความร้อน ไม่เสื่อมง่าย สารในตระกูล BHA ตัวหนึ่งที่เรารู้จักกันดีก็คือกรดซาลิไซลิก (Salicylic Acid) จากพริก ที่นิยมนำมาทำยาหม่อง
ความจริง BHA ไม่ใช่ของใหม่ แต่เป็นสารที่ใช้ในวงการแพทย์ผิวหนังมานานแล้ว โดยใช้รักษาหูด ส้นเท้าแตก โรคผิวหนังชนิดอักเสบเรื้อรัง เพราะมีคุณสมบัติทำให้ผิวหนังชั้นนอกผลัดตัวเร็วขึ้น ช่วยให้เคราตินที่แข็งนุ่มลง แต่อาจทำให้ผิวระคายเคือง แดง ลอกเป็นขุย แสบและคันได้ง่าย จึงต้องใช้ความเข้มข้นค่อนข้างต่ำ เช่น 0.5-2% สำหรับการทาผิว และห้ามทาบริเวณรอบดวงตา ริมฝีปาก ในจมูก หรือบริเวณที่ผิวบอบบางอย่างจุดซ่อนเร้น
BHA ช่วยเรื่องอะไร
BHA มีคุณสมบัติคล้ายกับสารในกลุ่มกรดผลไม้ หรือ AHA คือช่วยผลัดเซลล์ผิวชั้นนอก แต่จะแตกต่างกันตรงที่ BHA ละลายได้ดีในน้ำมัน จึงสามารถแทรกซึมไปละลายเซลล์ที่ตายแล้ว รวมถึงซีบัม (Sebum) ที่อุดตันรูขุมขนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้รูขุมขนสะอาด ไร้สิ่งสกปรกตกค้าง นอกจากนั้น Salicylic Acid ยังมีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อสิว ลดการอักเสบ ช่วยสลาย
สิวอุดตัน คนที่มีปัญหาสิวหรือผิวมัน BHA จึงเป็นตัวช่วยกู้ผิวพังได้ดีเลยทีเดียว
เลือกใช้ BHA อย่างไรดี
BHA ที่ใช้ในการดูแลรักษาผิวหน้ามีหลายรูปแบบ ทั้งชนิดน้ำ เจล โลชั่น ครีม ซึ่งสาว ๆ ควรเลือกใช้ตามสภาพผิว ปัญหาผิว และความชอบเนื้อสัมผัส ทั้งนี้ ผู้ที่มีผิวแห้งหรือแพ้ง่ายควรเริ่มจากความเข้มข้นหรือเปอร์เซ็นต์ต่ำสุดก่อน
- ชนิดน้ำ หรือ Liquid ซึมซาบเร็ว เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว
- เจล มีเนื้อสัมผัสบางเบา เหมาะสำหรับผิวธรรมดา ผิวผสม และผิวมัน
- โลชั่น มีความข้นสูง เหมาะสำหรับผิวแห้ง
- ชนิดความเข้มข้น 0.5-1% เหมาะสำหรับผิวแพ้ง่าย บอบบาง
BHA ยี่ห้อไหนดี 10 ตัวนี้แหละ
ตัวช่วยเพื่อผิวเนียนใส ไร้สิว
รู้ถึงประโยชน์ของ BHA รวมถึงวิธีการเลือกใช้กันไปแล้ว ใครที่สนใจและอยากลองหามาใช้ดูแลผิวหน้า จะเริ่มจาก BHA ตัวไหนดี วันนี้เรามีมาแนะนำกันถึง 10 แบรนด์ อย่ารอช้า ตามไปดูเลย
1. Paula’s Choice 2% BHA Liquid Exfoliant
BHA Paula’s Choice ในตำนาน ที่ใครได้ลองก็ต้องเลิฟ เนื้อเป็นน้ำใส ๆ ใช้ง่าย อ่อนโยนต่อผิว ช่วยผลัดเซลล์ผิวและทำความสะอาดสิ่งตกค้าง ทำให้รูขุมขนกระชับ ลดการอุดตัน ผิวของเราจึงเรียบเนียนขึ้น ดูสุขภาพดีจนรู้สึกได้ ตัวนี้แนะนำให้ใช้เช็ดหน้า 2 ครั้งต่อวัน หลังล้างหน้าและโทนเนอร์ แต่ใช้แล้วผิวจะแห้งนิด ๆ ถ้าใครไม่ชอบ อาจลองเปลี่ยนไปใช้แบบโลชั่นแทนได้ ราคา 990 บาท
ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Paula's Choice Thailand
2. COSRX BHA Blackhead Power Liquid
เอสเซ้นส์ตัวดังจากเกาหลี ขึ้นชื่อเรื่องขจัดสิวหัวดำได้อยู่หมัด ด้วยส่วนผสม BHA ธรรมชาติ ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออก พร้อมช่วยขจัดสิ่งสกปรกอุดตันภายในรูขุมขน ลดความมันส่วนเกิน เสริมสร้างเกราะปกป้องผิวให้แข็งแรง และยังกักเก็บความชุ่มชื้น ไม่ทำให้รู้สึกแห้งตึงหลังใช้ แถมปราศจากแอลกอฮอล์ด้วย จึงใช้ได้ทุกสภาพผิวเลยค่ะ โดยเฉพาะใครมีปัญหาสิวเสี้ยน สิวอุดตัน รูขุมขนกว้าง บอกเลยว่าต้องถูกใจ ตัวนี้ใช้แค่ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ก็เพียงพอ ราคาประมาณ 850 บาท
ภาพจาก : cosrx.com
3. Fyne BHA Clarifying Serum
BHA จากแบรนด์นี้มาแรงมาก เพราะเนื้อเซรั่มที่ออกเจล ๆ ซึมซาบง่าย เหมาะกับอากาศบ้านเรา และยังพลิกแพลงใช้งานได้หลากหลาย มีส่วนผสมจากทั้ง BHA 2% สารสกัดจากชาเขียว และใบบัวบก สาวผิวมันหรือสายงบน้อยสามารถใช้เป็น
เซรั่มบำรุงผิวตัวเดียวจบ สาวผิวแห้งก็ใช้ได้ เพราะให้ความชุ่มชื้นด้วย หรือถ้าวันไหนอยากบำรุงเป็นพิเศษ ก็สามารถใช้มาสก์หน้า 15-30 นาที แล้วเช็ดออกด้วยน้ำอุ่น ผลที่ได้คือสิวลดลง ผิวกระจ่างใส จนกลายเป็นสกินแคร์ลูกรักของใครหลายคนไปแล้ว ราคา 990 บาท
ภาพจาก : fyneskin.com
4. THE ORDINARY Salicylic Acid 2% Solution
สาวผิวมัน เป็นสิวง่าย จะต้องรู้จักแบรนด์ดังสัญชาติอังกฤษนี้เป็นอย่างดี โดยผลิตภัณฑ์เด่นของเขาก็ต้องยกให้ตัวนี้เลย เนื้อจะเป็นเซรั่มใส ไม่มีกลิ่น ซึมสู่ผิวง่าย ไม่ทิ้งความมันเอาไว้ ช่วยทำความสะอาดลึกถึงรูขุมขน ผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออก ทำให้สิวอุดตันต่าง ๆ น้อยลง ผิวเนียนเรียบขึ้น แถมรอยสิวก็ยังจางลงอีก สามารถทาทั่วใบหน้าหรือแต้มแค่บริเวณที่เป็นสิวก็ได้ หน้าใสปิ๊งในราคาประมาณ 550 บาท
ภาพจาก : theordinary.deciem.com
5. Cute Press Acne Clear 2% BHA
ถ้ามองหาเจลทาผิวหน้าเนื้อบางเบา สบายผิว ช่วยลดปัญหาสิวอุดตัน สิวเสี้ยน รูขุมขนกว้าง ตัวนี้ตรงโจทย์ค่ะ ด้วยคุณสมบัติของ BHA ที่ช่วยสลายสิวอุดตัน พร้อมทั้งผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพอย่างอ่อนโยน โดยควบคุมความมันบนใบหน้าให้เราด้วย ใช้แล้วผิวจึงดูเนียนสดใสขึ้น รูขุมขนกระชับ ลดการเกิดสิว แค่ใช้ทาตอนกลางคืน ตามด้วยครีมบำรุงผิวตัวอื่น ๆ ได้เลยค่ะ ราคาก็น่ารัก แค่ 299 บาท
ภาพจาก : cutepress.com
6. Eucerin Pro Acne Solution A.I. Clearing Treatment
ใครที่มีปัญหาทั้งหัวสิวเป่ง ๆ และสิวอุดตัน ต้องลองตัวนี้ เพราะไม่ได้มีแค่ BHA แต่ยังผสาน AHA และ PHA มาให้ด้วย ทำให้ลดการอุดตัน ซึ่งเป็นต้นเหตุของสิวได้ดียิ่งขึ้น พร้อมบรรเทาการอักเสบและฟื้นฟูผิวให้กระจ่างใส เนื้อเป็นครีม แต่ไม่เหนียวเหนอะหนะ สามารถใช้เป็นตัวสุดท้ายของการบำรุงผิวหน้าได้เลย แต่ใช้แล้วอาจตกใจตอนแรก ๆ เพราะดันสิวออกมาเร็วมาก ดังนั้นเอาไว้ทาก่อนนอนก็ได้ค่ะ ราคา 1,100 บาท
ภาพจาก : eucerin.co.th
7. DR. DENNIS GROSS DRx Blemish Solutions Acne Eliminating Gel
เจลลดสิวที่ช่วยจัดการหลุมสิว ขจัดไขมันต่าง ๆ รวมถึงผลัดเซลล์ผิวแบบอ่อนโยนมาก ๆ เพราะนอกจาก BHA แล้ว ยังมีเชสต์เบอร์รีมาช่วยสมานผิวและควบคุมความมันให้สมดุลมากขึ้น พร้อมด้วยไนอะซินาไมด์ หรือวิตามิน B3 ช่วยลดรอยแผลเป็นจากสิว พอใช้แล้วรอยดำ รอยแดงต่าง ๆ หายกริบ หน้าใส ไร้สิว ผิวดูเรียบเนียนสม่ำเสมอขึ้น แม้ราคาจะสูงสักนิด 1,350 บาท แต่ก็คุ้มค่ะ
ภาพจาก : drdennisgross.com
8. ORIGINS Spot Remover Anti-Blemish Treatment Gel
สำหรับเจลแต้มสิวจากแบรนด์ ORIGINS ตัวนี้ เหมาะกับใครที่เจอปัญหาสิวบุกแล้วทิ้งรอยดำเอาไว้ ซึ่งปกติจะรักษายากมาก แต่ตัวนี้ช่วยได้ค่ะ แค่แต้มเฉพาะจุด สิวก็จะลดได้เร็วขึ้น ช่วยลดเลือนปัญหาจุดด่างดำ ทั้งยังช่วยปลอบประโลมผิวจากส่วนผสมของสาหร่ายแดงอีกด้วย ตอนทาลงไปจะรู้สึกเย็นนิด ๆ สบายผิวสิวลดสุด ๆ ไปเลยล่ะ ราคาประมาณ 850 บาท
ภาพจาก : origins.co.th
9. Glossier Solution Exfoliating Skin Perfector
มากันที่โทนเนอร์บ้าง แค่เห็นแพ็กเกจสีชมพูวิ้ง ๆ ก็ถูกใจสาวสายหวานแล้ว แต่ทีเด็ดก็คือจัดการปัญหาสิวได้เริด ทั้งสิวเสี้ยน สิวอุดตันลดน้อย รอยสิวดูจางลง รูขุมขนกระชับขึ้น และผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออก ทำให้เผยผิวใหม่ที่เปล่งปลั่งสดใส ส่วนเรื่องความมันส่วนเกินก็ไม่มีให้กังวลใจ แต่ก็ไม่ทำให้ผิวแห้งจนเกินไป เรียกว่าคงความชุ่มชื้นของผิวได้ดีเลย ขอแนะว่าให้ใช้เช็ดหน้าวันละครั้งหลังล้างหน้า เป็นสเต็ปแรกก่อนลงสกินแคร์ตัวอื่น ๆ นะคะ ราคาประมาณ 1,200 บาท
ภาพจาก : glossier.com
10. Some By Mi AHA-BHA-PHA 30Days Miracle Toner
โทนเนอร์สีเขียวใสส่งตรงจากเกาหลี ถือเป็น Best Item ของแบรนด์เลย คนที่เป็นสิว รอยดำ รอยแดงต่าง ๆ ตัวนี้เหมาะค่ะ ด้วยสารสกัดจากธรรมชาติที่ช่วยบำรุงเต็มขั้น ใช้แล้วหอมกลิ่นสมุนไพรและรู้สึกเย็นสบายผิว เพราะมีส่วนผสมของทีทรีและเปปเปอร์มินต์ ช่วยผลัดเซลล์ผิว ขจัดสิ่งสกปรก รักษาสมดุลความชุ่มชื้นของผิว แถมยังไม่มีน้ำหอม พาราเบน แอลกอฮอล์ จึงใช้ได้ทุกวันและเหมาะกับผิวทุกแบบ รวมถึงผิวแพ้ง่ายด้วยนะ ราคา 662 บาท
ภาพจาก : somebymi.co.kr
งานนี้ใครกำลังมองหาสกินแคร์ที่มาช่วยสยบทุกปัญหาผิว โดยเฉพาะเรื่องสิวอุดตัน รอยดำ และรูขุมขนกว้าง ลองเลือกผลิตภัณฑ์ที่มี BHA เป็นส่วนผสมหลักกันดูนะคะ รับรองว่าไม่ผิดหวัง
ขอบคุณข้อมูลจาก : doctor.or.th, drsomchai.com, paulaschoice.com