หน้าโทรม ปัญหาของทั้งสาว ๆ และหนุ่ม ๆ หน้าโทรมเกิดจากอะไร และจะดูแลผิวหน้าเพื่อแก้หน้าโทรมได้ยังไงบ้าง มาหาคำตอบกัน
เคยเป็นไหมที่แต่งหน้ายังไงก็ดูไม่สวย ผิวไม่รับเครื่องสำอาง ดูเหนื่อย หน้าโทรมตลอดเวลา ซึ่งนี่เป็นปัญหาใหญ่ของสาว ๆ สมัยนี้เลยก็ว่าได้ สำหรับใครที่มีปัญหานี้อยู่ กระปุกดอทคอมขอพาไปหาสาเหตุว่าหน้าโทรมเกิดจากอะไร และจะมีวิธีดูแลผิวหน้าเพื่อแก้หน้าโทรมได้ยังไงบ้าง จะได้สดใสเปล่งปลั่งกันถ้วนหน้า
อะไรทำให้หน้าโทรม
การที่หน้าโทรม ดูเหนื่อยล้าตลอดเวลา มักมาจากพฤติกรรมผิด ๆ ในชีวิตประจำวัน โดยสาเหตุหลัก ๆ คือ
- อดนอน - การอดนอนเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดรอยคล้ำรอบดวงตา อาการบวม ผิวหมองคล้ำ ทั้งยังทำให้ผิวแห้ง สูญเสียคอลลาเจนและอีลาสตินอีกด้วย
- ความเครียด - เมื่อเราเครียด ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนความเครียดออกมา ส่งผลให้ร่างกายโทรมลง เกิดอาการต่าง ๆ เช่น นอนไม่หลับ ไม่หิวข้าว หรืออยากกินอาหารที่ไม่มีประโยชน์ ซึ่งจะทำให้หน้าโทรมและมีริ้วรอยนั่นเอง
- อายุที่เพิ่มมากขึ้น - เป็นปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุมได้ เมื่อเราอายุมากขึ้น ผิวของเราจะสูญเสียความยืดหยุ่น ส่งผลให้เกิดริ้วรอยและทำให้ใบหน้าดูโทรม
- พฤติกรรมอื่น ๆ - อาทิ การตากแดดเป็นเวลานาน ๆ สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ ล้วนทำให้หน้าโทรมทั้งสิ้น
หน้าโทรม แก้ยังไงดี
ถ้ารู้สึกว่าผิวหน้าดูโทรม ดูเหนื่อยล้า และอยากแก้ให้ดูสดใสขึ้น สามารถทำได้ดังนี้
1. สครับผิว
อาจจะดูงง ๆ สักเล็กน้อย แต่ใบหน้าที่หมองคล้ำจะทำให้ดูโทรมมากยิ่งขึ้น ดังนั้น การสครับผิวจะช่วยขจัดความหมองคล้ำได้แทบจะในทันที ทำให้ผิวดูเปล่งปลั่งขึ้น นอกจากนี้การสครับผิวยังมีประโยชน์อื่น ๆ อีก ได้แก่
- ช่วยผ่อนคลายผิว บรรเทาอาการเหนื่อยล้า
- ทำให้รูขุมขนไม่อุดตัน และช่วยป้องกันการเกิดสิว
- ช่วยให้ริ้วรอยร่องลึกดูเรียบเนียนขึ้น
- ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ
- เร่งอัตราการหมุนเวียนของเซลล์ผิวเพื่อผิวที่ดูอ่อนเยาว์
- ช่วยให้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวดูดซึมได้ดีขึ้น
- ทำให้แต่งหน้าติดง่ายขึ้น
2. มาสก์ตาลดบวม
ตาบวมเป็นอีกหนึ่งอาการที่ทำให้หน้าดูโทรม ดังนั้น จึงควรใช้เวลามาสก์ใต้ตาสัก 10 นาที โดยการใช้แผ่นมาสก์ แตงกวา ถุงชาแช่เย็น กากกาแฟ หรือช้อนแช่เย็นก็ได้ เพื่อลดอาการบวม อีกทั้งยังควรใช้อายครีมเป็นประจำ เมื่อรอบดวงตาหายบวมช้ำ ชุ่มชื้น ไร้ริ้วรอย ก็จะทำให้หน้าหายโทรมนั่นเอง
3. เติมความชุ่มชื้น
ผิวที่อิ่มน้ำและชุ่มชื้นจะดูสุขภาพดี ดังนั้น จึงควรเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวด้วยการทามอยส์เจอไรเซอร์เป็นประจำ มาสก์หน้าอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ที่สำคัญคือต้องดื่มน้ำให้เพียงพอ วันละ 1.5-2 ลิตร เพื่อเติมความชุ่มชื้นจากภายใน
4. แต่งหน้าให้ดูสดใสขึ้น
คอร์เรกเตอร์และคอนซีลเลอร์เป็นไอเทมชิ้นสำคัญที่จะช่วยให้ใบหน้าดูสดใสขึ้น โดยคอร์เรกเตอร์สีต่าง ๆ จะช่วยไปปรับสีผิวให้ดูสว่าง ส่วนคอนซีลเลอร์จะเป็นตัวช่วยปกปิดรอยหมองคล้ำ เมื่อใช้คู่กันก็จะสามารถทำให้หน้าหายโทรมแบบชั่วคราวได้
5. พักผ่อนบ้าง
วิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันไม่ให้ใบหน้าดูเหนื่อยล้าคือ การนอนหลับให้เพียงพอ ซึ่งจะช่วยให้ผิวฟื้นตัวและสามารถกักเก็บความชุ่มชื้นได้ดีขึ้น โดยพยายามนอนให้ได้อย่างน้อยวันละ 6 ชั่วโมงขึ้นไป
6. พึ่งวิทยาการทางการแพทย์
หากไม่สามารถลดเลือนริ้วรอยที่เกิดขึ้นได้จริง ๆ วิทยาการทางการแพทย์ต่าง ๆ ก็สามารถช่วยให้ใบหน้าหายโทรมได้ ไม่ว่าจะเป็นโบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ หรือการทำทรีตเมนต์เพื่อผิวกระจ่างใส เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจและเห็นผล
ได้ทราบสาเหตุและวิธีแก้หน้าโทรมกันแล้ว ใครที่มีปัญหานี้อยู่ก็ลองนำวิธีที่เราแนะนำไปปรับใช้กันดูนะคะ หน้าจะได้กลับมาเปล่งปลั่ง สดใส ดูอ่อนวัยอีกครั้ง
ขอบคุณข้อมูลจาก : duthie.dental, vanrosmalenkliniek.nl, urbanskinrx.com