สหภาพยุโรป (EU) มีคำสั่งห้ามใช้สาร TPO ซึ่งเป็นส่วนผสมในยาทาเล็บเจล โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2568 เป็นต้นไป
เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวงการบิวตี้ ! เพราะนับตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2025 เป็นต้นไป สหภาพยุโรป (EU) ได้ประกาศคำสั่งแบนส่วนผสมสำคัญใน ยาทาเล็บเจล ที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย คำสั่งนี้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อร้านเสริมสวยและผู้บริโภคทั่วทั้ง 27 ประเทศสมาชิก EU โดยเป็นการห้ามใช้ยาทาเล็บเจลในทันที และไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้ผลิตภัณฑ์เดิมจนหมด ขาย หรือแจกจ่ายภายในสหภาพยุโรป จะมีรายละเอียดอย่างไร ไปตามอ่านกันได้เลยค่ะ
EU แบน ยาทาเล็บเจล ที่มีสาร TPO
สาร TPO ในยาทาเล็บเจล คืออะไร ?
หัวใจสำคัญที่ทำให้ยาทาเล็บเจลแข็งตัวและติดทนนานได้หลายสัปดาห์ คือสารเคมีที่มีชื่อเต็มว่า ไตรเมทิลเบนโซอิลไดฟีนิลฟอสฟีนออกไซด์ (Trimethylbenzoyl Diphenylphosphine Oxide) หรือที่รู้จักกันในชื่อย่อว่า TPO โดยสารตัวนี้ทำหน้าที่เป็นสารกระตุ้นปฏิกิริยาแสง (Photoinitiator) เมื่อเล็บที่ทาแล้วถูกนำไปอบใต้แสง UV หรือ LED สาร TPO จะดูดซับแสงและทำปฏิกิริยาให้เจลแข็งตัวอย่างรวดเร็ว เกิดเป็นชั้นเคลือบที่แข็งและทนทานคล้ายแก้ว ทำให้การทำเล็บเจลได้รับความนิยมอย่างสูง
สาร TPO ในยาทาเล็บเจล อันตรายอย่างไร ?
สาร TPO ถูกจัดอยู่ในกลุ่มสาร CMR 1B ซึ่งเป็นสารเคมีที่อาจเป็นสารก่อมะเร็ง ก่อให้เกิดการกลายพันธุ์ และมีผลต่อการเจริญพันธุ์ของมนุษย์ และการใช้สาร CMR ถือเป็นสิ่งต้องห้ามตามกฎหมายเครื่องสำอาง
มีผลการศึกษาในการทดลองกับหนู พบว่า การได้รับสาร TPO ในปริมาณสูง เชื่อมโยงกับปัญหาการเจริญพันธุ์ ความผิดปกติของทารกในครรภ์ และการทำงานของตับไต อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการศึกษาที่ยืนยันความเชื่อมโยงโดยตรง ระหว่าง TPO กับความเสี่ยงต่อสุขภาพในมนุษย์ รวมถึง ปริมาณที่ใช้ในผลิตภัณฑ์ทำเล็บมีระดับความเข้มข้นต่ำมาก และคณะกรรมการวิทยาศาสตร์ด้านความปลอดภัยผู้บริโภคของ EU เคยระบุว่า TPO อาจปลอดภัยหากใช้ไม่เกิน 5% แต่การตัดสินใจของ EU ครั้งนี้เป็นไปตามหลัก มาตรการป้องกันไว้ก่อน
ผลกระทบและการปรับตัวของอุตสาหกรรม
คำสั่งห้ามใช้ TPO ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2568 ได้สร้างความวุ่นวายให้กับร้านเสริมสวยและซัพพลายเออร์ทั่วทวีปยุโรป ดังนี้
- ร้านเสริมสวย : จะต้องรีบเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ที่ยังมี TPO อยู่ในสต็อก ไปใช้สูตรที่ "ปราศจาก TPO" (TPO-Free) เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมาย
- ผู้ผลิต : บริษัทผู้ผลิตยาทาเล็บเจลหลายรายเริ่ม เปลี่ยนสูตรผลิตภัณฑ์ และคาดว่าการรับรองว่าสินค้า "ปราศจาก TPO" จะกลายเป็นจุดขายใหม่ที่สำคัญในตลาด
- สหราชอาณาจักร : แม้ว่าจะเป็นกฎระเบียบของ EU แต่คาดว่าสหราชอาณาจักรจะบังคับใช้ข้อกำหนดที่คล้ายกันนี้ภายในสิ้นปี 2026
ข้อแตกต่างด้านกฎหมายระหว่าง EU และสหรัฐอเมริกา
โดยทั่วไป EU จะใช้มาตรการควบคุมอย่างระมัดระวัง ในขณะที่ สหรัฐอเมริกา (FDA) มีท่าทีที่แข็งกร้าวกว่าและอาจออกกฎระเบียบได้ก็ต่อเมื่อผลิตภัณฑ์นั้นได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นอันตรายต่อสุขภาพเท่านั้น ทำให้ในปัจจุบันยังไม่มีแนวโน้มว่า TPO จะถูกห้ามใช้ในสหรัฐอเมริกา
ข้อควรระวังที่สำคัญกว่า TPO
ในขณะที่การห้ามใช้สาร TPO เป็นประเด็นใหญ่ แต่ผู้เชี่ยวชาญหลายรายต่างชี้ไปที่สิ่งที่น่ากังวลกว่า นั่นคือ หลอดไฟ UV/LED ที่ใช้บ่มเล็บ เพราะมีความเสี่ยงของรังสี UV มากกว่า เนื่องจากมือนั้นจะสัมผัสกับรังสีอัลตราไวโอเลตซ้ำ ๆ ระหว่างการทำเล็บเจล ซึ่งอาจเชื่อมโยงกับความเสี่ยงต่อมะเร็งผิวหนังได้ ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญจึงแนะนำให้ทาครีมกันแดดที่ปกป้องรังสี UVA/UVB บนมือก่อนทำเล็บ เพื่อลดความเสี่ยงจากการได้รับรังสี
การตัดสินใจของสหภาพยุโรปในการสั่งห้ามใช้สาร TPO ในยาทาเล็บเจล ตั้งแต่เดือนกันยายน 2025 เป็นการเน้นย้ำถึงหลักการที่ว่า สุขภาพของผู้บริโภคต้องมาเป็นอันดับแรก แม้การวิจัยในมนุษย์จะยังไม่ชัดเจน การเปลี่ยนไปใช้ผลิตภัณฑ์ที่ปราศจาก TPO จึงเป็นทางเลือกที่ ไม่เสียหายอะไร ในทางกลับกัน อาจสร้างมาตรฐานความปลอดภัยใหม่ให้กับอุตสาหกรรมความงามทั่วโลกได้อีกด้วย






